ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2554ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ ตอนที่ 8ปรโลกนิวส์... ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ ตอนที่ 8ตอนต่อจาก ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ ตอนที่ 7เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะภายหลังจากที่ลูกได้ไปฟังธรรมจากพระเถระอดีตพระราชาองค์ที่ออกบวช (ผู้สืบทอดธรรมะจากพระมหาเถระ) จนเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตแล้ว ลูกก็ได้คิดตัดสินใจที่จะออกบวชตามพระราชาองค์ที่ออกบวช เมื่อลูกคิดตัดสินใจที่จะออกบวชอย่างแน่วแน่เช่นนั้นแล้ว ลูกจึงได้กลับมากราบลาขอขมาคุณพ่อคุณแม่ และหญิงสาวคนรักของลูก พร้อมกับอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวลูกคิดตัดสินใจที่จะออกบวชในทำนองที่ว่า “ชีวิตของนักบวชเป็นชีวิตที่ประเสริฐ มีอิสรภาพ และปลอดกังวลจากเรื่องราวต่างๆ ซึ่งจะทำให้เรามีโอกาสในการที่จะฝึกฝนอบรมตนเอง และสั่งสมบุญสร้างบารมีได้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง”เมื่อลูกคิดตัดสินใจที่จะออกบวชอย่างแน่วแน่เช่นนั้นแล้ว ลูกจึงได้กลับมากราบลาขอขมาคุณพ่อคุณแม่ และหญิงสาวคนรักของลูกหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ของลูกได้รับทราบสาเหตุที่ทำให้ตัวลูกคิดตัดสินใจที่จะออกบวชแล้ว ท่านทั้งสองต่างรู้สึกปลาบปลื้มปีติใจกับการออกบวชของลูกเป็นอย่างยิ่ง ส่วนหญิงสาวคนรักของลูกนั้น แม้ว่าเธอจะรู้สึกอาลัยรักในตัวลูกอย่างที่สุดก็ตาม แต่เมื่อเธอเห็นว่าลูกตัดสินใจอย่างแน่วแน่เช่นนั้นแล้ว เธอจึงไม่อยากที่จะรั้งตัวลูกเอาไว้ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงจำใจและจำยอมให้ลูกออกบวชด้วยความเข้าใจในระดับหนึ่ง กล่าวคือ เข้าใจแต่ยังไม่รู้สึกซาบซึ้งมากสักเท่าไหร่ หลังจากที่ลูกกราบลาขอขมาคุณพ่อคุณแม่ และหญิงสาวคนรักของลูกเรียบร้อยแล้ว ลูกก็ไม่รอช้าได้ออกจากเรือนเหมือนนกที่จากคอน ออกบวชตามพระราชาองค์ที่ออกบวชในทันที ซึ่งในตอนนั้นได้มีเพื่อนๆนายทหารและนายทหารชั้นผู้น้อยที่อยู่ในสายการบังคับบัญชาของลูกได้ตัดสินใจออกบวชพร้อมกับตัวลูกอยู่หลายคนในตอนนั้นได้มีเพื่อนๆนายทหารและนายทหารชั้นผู้น้อยที่อยู่ในสายการบังคับบัญชาของลูกได้ตัดสินใจออกบวชพร้อมกับตัวลูกอยู่หลายคนภายหลังจากที่ลูกออกบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ลูกก็ได้ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองและประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ ซึ่งในช่วงแรกๆนั้น ลูกมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ก้าวหน้ามากนัก ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะใจของลูกยังคิดฟุ้งซ่านไปในเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณพ่อคุณแม่, เรื่องอดีตหญิงสาวคนรัก และเรื่องภาระหน้าที่การงานทางโลก เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ใจของลูกจึงยังไม่กลับมารวมหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายในช่วงแรกๆนั้น ลูกมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ก้าวหน้ามากนัก ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะใจของลูกยังคิดฟุ้งซ่านไปในเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณพ่อคุณแม่, เรื่องอดีตหญิงสาวคนรัก และเรื่องภาระหน้าที่การงานทางโลก เป็นต้นเมื่อเวลาผ่านไป ลูกก็ได้ยินว่าเพื่อนๆพระภิกษุที่เป็นอดีตเพื่อนๆนายทหาร และอดีตลูกน้องที่อยู่ในสายการบังคับบัญชาของลูกซึ่งออกบวชพร้อมกับลูก ต่างมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีกันเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ลูกเกิดแรงบันดาลใจและมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติธรรมมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม เพราะลูกคิดว่า “ในเมื่อคนอื่นเขายังทำได้ แล้วทำไมตัวเราจะทำอย่างเขาไม่ได้” เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว ลูกจึงได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ และประคองใจอย่างตลอดต่อเนื่องทั้งนอกรอบและในรอบเมื่อลูกได้ทราบว่าเพื่อนๆพระภิกษุที่ออกบวชพร้อมกันต่างมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี จึงทำให้ลูกเกิดแรงบันดาลใจและมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติธรรมมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมสำหรับการปฏิบัติธรรมในรอบนั้น ลูกได้นึกถึงดวงแก้วใสๆไว้ที่กลางท้องอย่างสบายๆ แล้วประคองใจนิ่งๆไปเรื่อยๆ แม้ในช่วงแรกๆลูกจะมีความฟุ้งเข้ามาบ้างก็ตาม แต่เมื่อลูกทำความเพียรด้วยการเพิ่มเวลาให้กับการปฏิบัติธรรมมากขึ้น ความฟุ้งที่เข้ามาในใจก็ค่อยๆลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลทำให้ใจของลูกกลับมารวมหยุดนิ่งได้ดีขึ้นไปกว่าเดิมเป็นอย่างมาก สำหรับนอกรอบนั้น ลูกได้ตรึกนึกถึงดวงแก้วใสๆเอาไว้ที่กลางท้องอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ปล่อยให้ใจฟุ้งซ่านไปกับเรื่องราวต่างๆ ซึ่งลูกได้ประคองใจควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะอยู่ตลอดเวลา เมื่อลูกได้ประกอบความเพียรและทำอย่างถูกหลักวิชชาอย่างนั้นแล้ว ในเวลาต่อมาไม่นาน ลูกจึงสมความปรารถนา กล่าวคือ สามารถเข้าถึงดวงธรรมภายในที่ชัด ใส สว่างเมื่อลูกได้ประกอบความเพียรและทำอย่างถูกหลักวิชชา ในเวลาต่อมาไม่นาน ลูกจึงสมความปรารถนากล่าวคือ สามารถเข้าถึงดวงธรรมภายในที่ชัด ใส สว่างเมื่อลูกเข้าถึงดวงธรรมภายในที่ชัด ใส สว่าง ได้แล้ว ลูกได้ประคองใจรักษาดวงธรรมที่ได้เข้าถึงควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ช่วยงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งในเวลาต่อมา ลูกก็สามารถปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกายที่ชัด ใส สว่าง ได้ในที่สุด ซึ่งในทุกๆครั้งที่ตัวลูกในภพชาตินั้นได้สั่งสมบุญและประพฤติปฏิบัติธรรม ลูกมักจะชอบที่จะอธิษฐานจิตอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอว่า “ในภพชาติต่อๆไป ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าวัดสร้างบารมีตั้งแต่เยาว์วัย ขอให้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ชักชวนกันทำแต่ความดี และขอให้สามารถประพฤติพรหมจรรย์ได้อย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ไปจนตลอดรอดฝั่ง”ในทุกๆครั้งที่ตัวลูกในภพชาตินั้นได้สั่งสมบุญและประพฤติปฏิบัติธรรม ลูกมักจะชอบที่จะอธิษฐานจิตอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอว่าในภพชาติต่อๆไป ขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าวัดสร้างบารมีตั้งแต่เยาว์วัยในพุทธันดรที่ผ่านมา ลูกได้ตั้งใจทำหน้าที่ช่วยงานเผยแผ่ธรรมะให้กับสาธุชนที่อยู่ภายในแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช อย่างเต็มที่เต็มกำลังและทำอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันจนกระทั่งหมดอายุขัย เมื่อละจากโลกไปแล้ว ลูกจึงได้กลับไปแวะพักกลางทางที่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ ได้ในที่สุด และด้วยคำอธิษฐานจิตที่ลูกได้อธิษฐานเอาไว้อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอในพุทธันดรที่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้ในภพชาติปัจจุบัน ลูกได้เข้าวัดสร้างบารมีตั้งแต่เป็นนักศึกษาเรื่อยมา จนกระทั่งได้มารับบุญเป็นอุบาสิกาเขตในดังที่เป็นอยู่นี้ด้วยคำอธิษฐานจิตของลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้ในภพชาติปัจจุบัน ลูกได้เข้าวัดสร้างบารมีตั้งแต่เป็นนักศึกษาเรื่อยมา จนกระทั่งได้มารับบุญเป็นอุบาสิกาเขตในคำถามข้อที่ 4. ลูกมีโรคประจำตัว คือ มีเสมหะทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาพลบค่ำไปแล้ว ลูกจะมีเสมหะมากจนต้องขับออกทางลำคอ ไม่เช่นนั้นจะหายใจไม่ออก ลูกมีวิบากกรรมอะไรเจ้าคะ สำหรับสาเหตุที่ทำให้ลูกมีโรคประจำตัว คือ มีเสมหะทุกวัน ทั้งนี้ก็เป็นเพราะวิบากกรรมที่ลูกได้เคยทรมานร่างกายชาวบ้าน (จำแลง) ซึ่งเป็นสายลับของแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้ ในพุทธันดรที่ผ่านมา มารวมกับเศษกรรมปาณาติบาตในอีกภพชาติหนึ่งที่ลูกได้เคยมัดคอสัตว์เพื่อส่งไปขาย และนำมาฆ่าเพื่อทำอาหาร ได้ช่องมาส่งผลร่วมกันในภพชาติปัจจุบัน เรื่องก็มีอยู่ว่า...ในพุทธันดรที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ลูกได้เข้ารับการบรรจุเป็นทหารของพระราชองค์ที่ออกบวชแล้ว ลูกก็ได้รับมอบหมายให้ไปดูแลความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านของตัวลูกเองซึ่งอยู่ติดกับเมืองหลวงของแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวช สาเหตุที่ทำให้ลูกมีโรคประจำตัว คือ มีเสมหะทุกวัน ทั้งนี้ก็เป็นเพราะวิบากกรรมที่ลูกได้เคยทรมานร่างกายสายลับของข้าศึกในพุทธันดรที่ผ่านมา มารวมกับเศษกรรมปาณาติบาตในอีกภพชาติหนึ่งในตอนนั้น สถานการณ์ของบ้านเมืองระหว่างแคว้นของพระราชาองค์ที่ออกบวชกับแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้ กำลังอยู่ในภาวะตึงเครียด ด้วยเหตุนี้ ลูกจึงได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหน่วยทหารของลูก ให้มาตรวจตราดูความเรียบร้อยบริเวณรอบๆหมู่บ้านในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งลูกได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ด้วยการขี่ม้าตรวจตราดูรอบๆหมู่บ้านอยู่เป็นประจำในทุกๆค่ำคืนลูกได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหน่วยทหาร ให้มาตรวจตราดูความเรียบร้อยบริเวณรอบๆหมู่บ้านในช่วงเวลากลางคืนจนกระทั่งอยู่มาคืนหนึ่ง ในขณะที่ลูกกำลังตรวจตราดูความเรียบร้อยบริเวณรอบๆหมู่บ้านอยู่นั้น ลูกก็ได้เห็นชาวบ้านคนหนึ่งกำลังทำท่าด้อมๆมองๆ และกำลังจะเดินเข้ามาในหมู่บ้านที่ลูกดูแลอยู่ ซึ่งในตอนแรกนั้น ลูกคิดว่าชาวบ้านคนนี้น่าจะมาจากต่างหมู่บ้าน เพราะชาวบ้านคนนี้มีหน้าตาไม่ค่อยเหมือนกับคนในหมู่บ้านของลูก แต่หลังจากที่ลูกเดินเข้าไปใกล้ๆชาวบ้านคนนั้นแล้ว เขากลับมีอาการร้อนรนและดูท่าทีมีพิรุธ เมื่อลูกเห็นอาการผิดสังเกตเช่นนั้น ลูกจึงเข้าไปซักถามชาวบ้านคนนั้นว่าเป็นใคร มาจากไหนหลังจากที่ลูกเดินเข้าไปใกล้ๆชาวบ้านคนนั้นแล้ว เขากลับมีอาการร้อนรนและดูท่าทีมีพิรุธ เมื่อลูกเห็นอาการผิดสังเกตเช่นนั้น ลูกจึงเข้าไปซักถามชาวบ้านคนนั้นว่าเป็นใคร มาจากไหนเมื่อชาวบ้าน (จำแลง) คนนั้นถูกลูกซักถามแล้ว เขากลับไม่ยอมตอบ แถมยังเอามีดพกขนาดเหมาะมือออกมาเพื่อที่จะทำร้ายตัวลูกอีกด้วย แต่ด้วยความที่ลูกฝึกฝนวิชาการรบมาอย่างเชี่ยวชาญ อีกทั้งยังมีความคล่องแคล่วว่องไว ด้วยเหตุนี้ ลูกจึงสามารถหลบหลีกได้ทัน จากนั้นลูกจึงชักดาบคู่กายออกมาเพื่อเตรียมจะต่อสู้กับชาวบ้านคนนั้น ทันทีที่ลูกชักดาบออกมา เขาก็ได้วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ลูกจึงรีบควบม้าคู่ใจไล่ตามไปจับชาวบ้านคนนั้นในทันทีทันทีที่ลูกชักดาบออกมา ชาวบ้านคนนั้นก็ได้วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ลูกจึงรีบควบม้าคู่ใจไล่ตามไปจับในทันทีโปรดติดตามตอนต่อไป
http://goo.gl/e7PBS