จุลปทุมชาดก ว่าด้วยการลงโทษหญิงชายทำชู้กัน

พระจุลปทุมกุมารได้ทรงช่วยเหลือโจรที่โดนตัดแขนตัดขาที่ถูกปล่อยลงแพล่องตามแม่น้ำ พระองค์ทรงเยียวยาให้อาหารดูแล จนหายบาดเจ็บในเวลาต่อมา การสร้างบุญของเจ้าชายครั้งนั้นเหมือนการเก็บงูเห่ามาเลี้ยง เมื่อเจ้าชายออกไปหาผลไม้ในป่า พระชายาสาวก็กระทำอนาจารร่วมกับโจรนั้นทุกครั้ง ความชั่วมักหอมหวานจนกลายเป็นสิ่งถูกต้องเสมอในความคิดของคนชั่ว https://dmc.tv/a24878

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 27 พ.ค. 2562 ] - [ ผู้อ่าน : 18254 ]

ชาดก 500 ชาติ

จุลปทุมชาดก-ชาดกว่าด้วยการลงโทษหญิงชายทำชู้กัน

บ้านเมืองสงบร่มเย็นในยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง

บ้านเมืองสงบร่มเย็นในยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง
  
     ข้อห้ามหนึ่งที่มักมีปรากฏอยู่บ่อยครั้ง ในพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา ก็คือพระบัญญัติเกี่ยวกับมาตุคาม ห้ามในกิเลสกาม ห้ามข้องแวะกับสตรีคนเพศแม่
แต่ล้ำด้วยแรงจูงใจให้ละทิ้งสมาธิกรรมฐานอย่างล้นเหลือ
 
 
ภิกษุบางรูปมิอาจละวางจิตปฏิพัทธ์ในสตรีซึ่งเคยเป็นภรรยาของตนได้เลย
 
ภิกษุบางรูปมิอาจละวางจิตปฏิพัทธ์ในสตรีซึ่งเคยเป็นภรรยาของตนได้เลย
 
      ภิกษุสงฆ์บางรูปมิอาจละวางจิตปฏิพัทธ์รักใคร่สตรีอันเคยเป็นภรรยา “ เชิญพี่พักพักผ่อนตามสบายนะจ๊ะ น้องจะปรนนับัติพัดวีให้เอง ” สงฆ์ในพุทธกาลหลายรูป
มิอาจทนปฏิบัติธรรมบำเพ็ญบารมีได้เลยในทันที ที่พบสตรีงามมาทำบุญบูชาพระ

พระพุทธเจ้าทรงปรารภเหตุถึงหญิงงามนางหนึ่งผู้ที่ทำให้ภิกษุไม่อาจตั้งมั่นอยู่ในสมาธิได้เลย
 
พระพุทธเจ้าทรงปรารภเหตุถึงหญิงงามนางหนึ่งผู้ที่ทำให้ภิกษุไม่อาจตั้งมั่นอยู่ในสมาธิได้เลย
 
      “ โอ้ น้องนางช่างงามยิ่งนัก ไม่ว่าจะพิศไปทางด้านใดก็น่าพิสมัย คงจะดี หากจะได้เห็นหน้าเจ้าทุกวันคืน ” ดังเหตุอันเกิดจากเสน่หาในมาตุคามครั้งหนึ่ง เป็นอีกครั้ง
ที่สมเด็จพระพุทธเจ้าทรงปรารภถึงเหตุ เพราะหญิงงามนางหนึ่งคุกคามจิตใจสาวกสงฆ์ผู้ยังไม่ได้บรรลุโสดาปัตติผลรูปหนึ่งเข้า

หญิงงามก็มีจิตใจถวิลหาถึงภิกษุหนุ่มเช่นกัน
 
หญิงงามก็มีจิตใจถวิลหาถึงภิกษุหนุ่มเช่นกัน
 
     “ แม้ฉันจะรู้อยู่เต็มอก ว่าท่านอยู่ในเพศบรรพชิต แต่จิตใจของฉันกลับรุ่มร้อน อยากพบอยากใกล้ชิดกับท่านยิ่งนัก ให้ฉันได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆ กับท่านสักครั้งนะคะ ”
ภิกษุหนุ่มรูปนั้นกราบทูลยอมรับแก่พระพุทธเจ้าว่า ตกอยู่ในอำนาจหญิงนั้นจริง จนยอมเป็นทาสรับใช้นางนั้นตลอดชีวิตได้ทีเดียว

ภิกษุหนุ่มทูลยอมรับต่อพระศาสดาว่าตนตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งหญิงงามจนไม่สามารถประพฤติธรรมได้
 
ภิกษุหนุ่มทูลยอมรับต่อพระศาสดาว่าตนตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งหญิงงามจนไม่สามารถประพฤติธรรมได้
 
     “ จิตใจของกระหม่อมไม่สามารถที่จะฝักใฝ่ในพระธรรมได้อีกแล้ว อยู่ไปก็รังแต่จะทำความหม่นหมองให้กับศาสนา ” ในสงฆ์สภาพระวิหารเชตวัน เวลานั้น
สมเด็จพระพุทธศาสดาทรงตรัสว่า “ ดูก่อนภิกษุ มาตุคามนี้เคยประทุษร้ายเอาชีวิตบัณฑิตผู้มีพระคุณมาแล้ว ”
 
นครใหญ่แห่งแคว้นกาสี
 
นครใหญ่แห่งแคว้นกาสี
 
     ครั้งนั้นพระองค์ทรงยกธรรมเทศนาครั้งที่ยังเสวยพระชาติเป็นเจ้าชายพาราณสีขึ้นสาทกเป็นชาดกนิทานเรื่อง จุลปทุม ดังนี้ ครั้งเมื่อนครใหญ่แห่งแคว้นกาสีอันตั้งมั่น
อยู่ริมคงคามหานที เกิดเหตุร้ายมิได้เกิดความมั่นคงดังเก่า
 
บ้านเมืองเกิดเหตุร้าย เจ้าชายรัชทายาทและพระชายาจำต้องเสด็จหนีออกจากเมือง
 
บ้านเมืองเกิดเหตุร้าย เจ้าชายรัชทายาทและพระชายาจำต้องเสด็จหนีออกจากเมือง
 
     ครั้งนั้นเจ้าชายรัชทายาท จุลปทุมกุมารยังต้องเสด็จหนี “ หนีเร็วเจ้าพวกกบฏตามมาทางนี้แล้ว ” “ รอหม่อมฉันด้วยเพค่ะ โอ้ย หม่อมฉันไม่มีแรงจะวิ่งแล้ว ” จุลปทุมกุมาร
นำพระชายาเสด็จออกจากเวียงวังจนพ้นเขตพระนครสู่ป่าเขา
 
จุลปทุมกุมารพาพระชายาเสด็จหนีเข้าป่าลึกเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ทิศทาง
 
จุลปทุมกุมารพาพระชายาเสด็จหนีเข้าป่าลึกเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ทิศทาง
     
     “ มาทางนี้เร็วเข้า หนีเข้าป่านั้นได้ เราก็น่าจะปลอดภัยแล้ว ” “ นี่เราก็วิ่งหนีมาทั้งคืนแล้วนะเพค่ะ เมื่อไหร่จะได้พักบ้าง หม่อมฉันเหนื่อยเหลือเกิน ” “ เจ้าอดทน
อีกสักนิดเถอะนะ หากพ้นอันตรายแล้ว เราคงจะได้พักกัน ”
 
จุลปทุมกุมารและพระชายาทรงเดินทางตลอดทั้งคืนโดยมิได้หยุดพักเลย
 
จุลปทุมกุมารและพระชายาทรงเดินทางตลอดทั้งคืนโดยมิได้หยุดพักเลย
 
     ฤดูนั้นเป็นฤดูร้อน เจ้าชายนำชายาผ่านป่าใหญ่แห้งแล้งกันดารโดยมิได้ทรงรู้เส้นทาง “ โอ้ย เหนื่อยเหลือเกินเพค่ะ หม่อมฉันไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินต่อไปแล้ว ขอพักสักหน่อย
ได้ไหมเพค่ะ ” “ โฮ ชายาของพี่ อดทนอีกสักนิดเถอะนะจ๊ะ ตรงนี้ไม่มีร่มไม้เลย ไปทางโน้นอีกนิดเถิด ”

พระชายาของจุลปทุมกุมารได้ร้องขอให้พระสวามีหยุดพักเพราะตนเดินต่อไปไม่ไหว
 
พระชายาของจุลปทุมกุมารได้ร้องขอให้พระสวามีหยุดพักเพราะตนเดินต่อไปไม่ไหว
 
     “ เสด็จพี่จะไปก็ไปคนเดียวเถิด หม่อมฉันเดินไม่ไหวแล้วจริงๆ ” “ จะให้พี่ทิ้งน้องได้อย่างไรกัน ” “ ก็หม่อมฉันเดินไม่ไหวแล้วนี่เพค่ะ ถ้าอย่างนั้นเสด็จพี่ก็ต้องให้หม่อมฉัน
ขึ้นหลัง เสด็จพี่จะต้องแบกหม่อมฉันไปนะเพค่ะ ”
 
จุลปทุมกุมารยอมแบกหามพระชายาของตนด้วยความรักและหลงใหลในตัวนาง
 
จุลปทุมกุมารยอมแบกหามพระชายาของตนด้วยความรักและหลงใหลในตัวนาง
  
     เมื่อชายาคนสวยขอขึ้นอยู่บนพระวรกาย เจ้าชายก็ยินดีแบกหามนางนั้น เสด็จต่อไปด้วยความรักและหลงใหล ( “ งานนี้ค่อยสบายหน่อย เสด็จพี่เป็นที่พึ่งของหม่อมฉันได้จริงๆ ” )
จนล่วงเข้าบ่ายคล้อย ทั้งสองก็ยังมิได้ทรงหยุดพัก กระยาหารสักคำ น้ำสักอึกหนึ่ง ก็มิได้ทรงเสวย
 
จุลปทุมกุมารแบกชายาของตนเดินเข้าป่าต่อไปจนกระทั่งบ่ายคล้อย    

จุลปทุมกุมารแบกชายาของตนเดินเข้าป่าต่อไปจนกระทั่งบ่ายคล้อย
 
     “ โอ้ย หิว หิว หิว เสด็จพี่ หม่อมฉันทั้งหิวทั้งกระหายน้ำ คอแห้งผากจนทนไม่ไหวแล้วนะเพค่ะ น้องทนไม่ไหวแล้ว ทรมานเหลือเกิน ” “ จ๊ะ งั้นเดียวเราหยุดพักกัน
สักพักหนึ่งนะ พี่จะหาน้ำให้เจ้าดื่ม ” พระจุลปทุมกุมาร เมื่อวางพระชายาลงยังที่พักแล้ว ก็เที่ยวหาน้ำดื่มกินใกล้ๆ แต่ก็ไม่พบแหล่งน้ำใดเลย
 
เมื่อถึงที่ที่ปลอดภัยจุลปทุมกุมารก็ทรงหยุดพักและออกเดินเที่ยวหาน้ำดื่ม
 
เมื่อถึงที่ที่ปลอดภัยจุลปทุมกุมารก็ทรงหยุดพักและออกเดินเที่ยวหาน้ำดื่ม
  
     ส่วนทางด้านพระชายาก็กระหายจนเพ้อ จุลปทุมกุมารจึงเชือดพระชานุของตนเอง รองเอาโลหิตป้อนนางจนมีกำลัง “ อดทนหน่อยนะจ๊ะชายาของพี่ พี่หาน้ำให้น้องได้แล้ว
อย่าเป็นอะไรน่ะชายาของพี่ ” “ หิวน้ำ หิวน้ำ โอ้ย ทรมานเหลือเกิน ”

จุลปทุมกุมารได้กรีดเลือดจากเข่าตัวเองมาป้อนพระชายาเนื่องด้วยไม่สามารถหาน้ำดื่มได้
 
จุลปทุมกุมารได้กรีดเลือดจากเข่าตัวเองมาป้อนพระชายาเนื่องด้วยไม่สามารถหาน้ำดื่มได้
 
      การเดินทางเป็นดังนี้เรื่อยไป จนวันหนึ่งก็บรรลุจากป่าสู่ริมน้ำแห่งหนึ่ง “ น้ำ ตรงนั้นมีลำธารด้วย เสด็จไปทางนั้นสิเพค่ะ น้องจะอาบน้ำ โอโห้ น้ำใสสะอาดน่าลงไปแช่จริงๆ
เดี๋ยวเสด็จพี่ไปหาอาหารด้วยนะเพค่ะ แล้วก็กลับมาสร้างศาลาทำอาศรม เร็วๆ สิเพค่ะ น้องอยากจะแช่น้ำเย็นๆ จะแย่แล้ว ”
 
จุลปทุมกุมารเดินทางต่อจนมาถึงสถานที่ร่มรื่นริมแม่น้ำและได้สร้างที่พักอาศัยขึ้น ณ ที่นี่
 
จุลปทุมกุมารเดินทางต่อจนมาถึงสถานที่ร่มรื่นริมแม่น้ำและได้สร้างที่พักอาศัยขึ้น ณ ที่นี่
 
     “ จ้า เห็นเจ้ากระปรี้กระเปร่าขึ้น พี่ก็มีความสุข ” จุลปทุมกุมารเป็นรัชทายาทพาราณสี ทรงได้รับการศึกษา เคยเรียนรู้เรื่องวัฏฏะของสรรพสิ่ง เมื่อสร้างอาศรมศาลาเสร็จ
ก็บำบัดความทุกข์ด้วยสมาธิ บำรุงชีวิตด้วยผลาหารจากป่า
 
จุลปทุมกุมารดับความทุกข์ด้วยการนั่งสมาธิเจริญภาวนา
 
จุลปทุมกุมารดับความทุกข์ด้วยการนั่งสมาธิเจริญภาวนา
 
     “ อะไรกันนี่ พอพ้นภัยแล้ว แทนที่จะหาความสุขด้วยกัน นั่งสมาธิอยู่ได้ โธ่เอ้ย น่าเบื่อจริงๆ เลย ” วันเวลาผ่านไม่นานนัก วันหนึ่งเมื่อพระชายาลงไปยังริมฝั่งน้ำเพื่อสรงสนานดังเคย
ก็ปรากฏว่ามีแพเนรเทศโจรผู้ร้ายมาติดเสาบันไดค้างอยู่ “ ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยที ” “ ว้าย เสด็จพี่เพค่ะ มาดูนี่เร็ว ใครก็ไม่รู้ถูกตัดแขนตัดขาใส่แพ ลอยมาติอยู่ริมท่าน้ำของเรา
 
โจรร้ายถูกตัดแขนตัดขาใส่แพและได้ลอยมาติดอยู่ที่ท่าน้ำตรงที่พักของจุลปทุมกุมารและพระชายา
 
โจรร้ายถูกตัดแขนตัดขาใส่แพและได้ลอยมาติดอยู่ที่ท่าน้ำตรงที่พักของจุลปทุมกุมารและพระชายา
 
     เสด็จพี่เขาร้องขอให้ช่วยด้วยนะเพค่ะ เสด็จพี่มาช่วยเขาเร็วเข้าเถอะเพค่ะ ” ครั้งนั้นพระจุลปทุมกุมารได้ทรงนำขึ้นมาเยียวยาให้อาหารดูแล จนหายบาดเจ็บในเวลาต่อมา การสร้างบุญ
ของเจ้าชายครั้งนั้นเหมือนการเก็บงูเห่ามาเลี้ยง เมื่อเจ้าชายออกไปหาผลไม้ในป่า พระชายาสาวก็กระทำอนาจารร่วมกับโจรนั้นทุกครั้ง ความชั่วมักหอมหวานจนกลายเป็นสิ่งถูกต้องเสมอ
ในความคิดของคนชั่ว
 
จุลปทุมกุมารได้ช่วยเหลือโจรร้ายให้รอดตาย และรักษาแผลจนหายเป็นปกติ
 
จุลปทุมกุมารได้ช่วยเหลือโจรร้ายให้รอดตาย และรักษาแผลจนหายเป็นปกติ
 
      “ โจรหนุ่มให้ความสุขกับเราได้ เราควรกำจัดสามีที่ให้ความสุขเราไม่ได้ ทิ้งไป รอก่อนนะจ๊ะพี่ สักวัน น้องจะทำให้เรามีความสุขด้วยกันได้อย่างไม่ต้องหลบซ่อนกันอีกต่อไป ”
“ ไม่เป็นไรจ้า แค่นี้พี่ก็มีความสุขมากแล้ว หือ..บุญของเราจริงๆ โว้ย ” ชายาผู้งามเพียงรูปกาย เมื่อติดใจในกามคุณก็คิดหาแผนการร้ายในการทำลายสวามีของตนเอง วันหนึ่ง
เมื่อนางคิดหาวิธีได้ก็รีบทำตามแผนนั้นทันที

พระชายากับโจรร้ายแอบเล่นชู้กันทุกครั้งในเวลาที่จุลปทุมกุมารออกไปหาผลไม้ในป่า
 
พระชายากับโจรร้ายแอบเล่นชู้กันทุกครั้งในเวลาที่จุลปทุมกุมารออกไปหาผลไม้ในป่า
 
     “ น้องบนบานว่า เมื่อเราปลอดภัย จะพากันมาไหว้เทพขุนเขาบนหน้าผาที่นั่น รีบเสด็จเถิดเพค่ะ ประเดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน ” “ เจ้านี่ช่างเป็นชายาที่ดีจริงๆ เจ้าคิดถึงความปลอดภัย
ของเราถึงเพียงนี้เชียวรึ ” เมื่อสวามีกระทำการบูชาเทพเทวดา นางงามผู้มีใจคดก็ผลักพระองค์ตกเหวสลบไสลแน่นิ่งไป “ แค่นี้ ก็หมดเสี้ยนหนามของความสุข เชิญบำเพ็ญเพียร
อยู่ที่ก้นเหวนี่เถอะเพค่ะ ”
 
พระชายาหลอกพระสวามีให้ไปไหว้เทพขุนเขาบนหน้าผาสูง
 
พระชายาหลอกพระสวามีให้ไปไหว้เทพขุนเขาบนหน้าผาสูง
 
     แผนร้ายครั้งนี้ไม่ได้ทำให้จุลปทุมกุมารได้รับอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด ด้วยได้รับการดุแลจากพญาเหี้ยตัวหนึ่ง ซึ่งทรงเชื่อในวงเวียนกรรมว่า เคยอุปถัมภ์ค้ำจุนกันมาก่อน “ น่าเวทนานัก
จิตใจของคนนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก ” เจ้าชายทรงค่อยๆ ไต่รากไม้และเถาวัลย์แต่ละเส้นตามคำแนะนำชี้ทางของพญาเหี้ย จนสามารถพ้นความตายขึ้นมาได้
 
พระชายาได้ผลักพระสวามีตกจากยอดเขาแล้วนางก็จากไป
 
พระชายาได้ผลักพระสวามีตกจากยอดเขาแล้วนางก็จากไป
 
      “ ขอบใจท่านมาก เราจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย กาลต่อไปข้างหน้าหากเราได้ครองบัลลังภ์อีกครั้ง เราจะขอสัญญาว่า จะทำนุบำรุงดูแลทุกชีวิตให้ดี โดยไม่เลือกวรรณะชนชั้นเลย ”
“ เราก็ขอภาวนาให้ท่านได้ครองบัลลังภ์อีกครั้ง ”

จุลปทุมกุมารตกจากหน้าผาแต่ไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด
 
จุลปทุมกุมารตกจากหน้าผาแต่ไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด
 
      กาลผ่านไปพระกุมารจุลปทุมได้ครองราชสมบัติกรุงพาราณสี พระองค์ทรงปกครองไพร่ฟ้าด้วยราชธรรม เรื่องราวของพระองค์ถูกเล่าขานต่อๆ กันไปทั่วพระนครเป็นสิ่งเตือนใจ
มิให้ประพฤติชั่ว จากนี้ไปเราจะดูแลทุกข์สุขของประชากรไพร่ฟ้าทุกหมู่เหล่า จะปกครองบ้านเมืองโดยธรรม
 
พญาเหี้ยได้แนะนำจุลปทุมกุมารให้ไต่ตามยอดไม้และลงมาได้อย่างปลอดภัย
 
พญาเหี้ยได้แนะนำจุลปทุมกุมารให้ไต่ตามยอดไม้และลงมาได้อย่างปลอดภัย
 
     ส่วนชายาผู้ติดในกามคุณ หลายปีผ่านไปก็ยังติดอยู่กับโจรด้วนผู้นั้น เพราะต้องอาศัยความพิการของมันแบกไปขอทานเลี้ยงชีพอย่างน่าอนาถ ซ้ำยังเสี่ยงภัยจากขอทานอื่นๆ
และราชบุรุษมาขับไล่อยู่เสมอ ชีวิตที่หลงในกามคุณมักตกต่ำเช่นนี้เสมอ “ โอ้ย เป็นเวรเป็นกรรมแท้ๆ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว

กาลต่อมาจุลปทุมกุมารรัชทายาททรงได้ปกครองบ้านเมืองอีกครั้งด้วยราชธรรม
 
กาลต่อมาจุลปทุมกุมารรัชทายาททรงได้ปกครองบ้านเมืองอีกครั้งด้วยราชธรรม 
 
    ตั้งแต่เช้า ข้าวยังไม่ตกถึงท้องเลยสักคำ ” “ เอาน่า น้องเอ๋ย แบกพี่ไปทางโน้นสิ ทางโน้นคนเยอะ อาจจะได้เพิ่มอีกสักหน่อย ” สมเด็จพระบราศาสดาจบพระธรรมเทศนาจุลปทุมชาดกแล้ว
ทรงประกาศสัจธรรม ภิกษุทั้งหลายเห็นความจริงดังนั้น ภิกษุผู้กระสันในสตรีก็ได้บรรลุโสดาปัตติผลเห็นโทษเห็นคุณข้อนี้
 
อดีตพระชายาได้แบกโจรแขนขาด้วนเพื่อขอทานเลี้ยงชีพอย่างน่าอนาถ
 
อดีตพระชายาได้แบกโจรแขนขาด้วนเพื่อขอทานเลี้ยงชีพอย่างน่าอนาถ
 
 
 
ในพุทธสมัยนั้น ชายา กำเนิดเป็น นางจิญจมานวิกา ผู้ใส่ร้ายทำลายพระพุทธเจ้า
โจรแขนขาด้วน กำเนิดเป็น พระเทวทัต
พญาเหี้ย กำเนิดเป็น พระอานนท์
จุลปทุมกุมาร เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
 

รับชมคลิปวิดีโอ
ชมวิดีโอ   Download ธรรมะ
 
 
 




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ