ชาดก 500 ชาติ
จุลปทุมชาดก-ชาดกว่าด้วยการลงโทษหญิงชายทำชู้กัน
บ้านเมืองสงบร่มเย็นในยุคที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองข้อห้ามหนึ่งที่มักมีปรากฏอยู่บ่อยครั้ง ในพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา ก็คือพระบัญญัติเกี่ยวกับมาตุคาม ห้ามในกิเลสกาม ห้ามข้องแวะกับสตรีคนเพศแม่แต่ล้ำด้วยแรงจูงใจให้ละทิ้งสมาธิกรรมฐานอย่างล้นเหลือภิกษุบางรูปมิอาจละวางจิตปฏิพัทธ์ในสตรีซึ่งเคยเป็นภรรยาของตนได้เลยภิกษุสงฆ์บางรูปมิอาจละวางจิตปฏิพัทธ์รักใคร่สตรีอันเคยเป็นภรรยา “ เชิญพี่พักพักผ่อนตามสบายนะจ๊ะ น้องจะปรนนับัติพัดวีให้เอง ” สงฆ์ในพุทธกาลหลายรูป
มิอาจทนปฏิบัติธรรมบำเพ็ญบารมีได้เลยในทันที ที่พบสตรีงามมาทำบุญบูชาพระ
พระพุทธเจ้าทรงปรารภเหตุถึงหญิงงามนางหนึ่งผู้ที่ทำให้ภิกษุไม่อาจตั้งมั่นอยู่ในสมาธิได้เลย“ โอ้ น้องนางช่างงามยิ่งนัก ไม่ว่าจะพิศไปทางด้านใดก็น่าพิสมัย คงจะดี หากจะได้เห็นหน้าเจ้าทุกวันคืน ” ดังเหตุอันเกิดจากเสน่หาในมาตุคามครั้งหนึ่ง เป็นอีกครั้ง
ที่สมเด็จพระพุทธเจ้าทรงปรารภถึงเหตุ เพราะหญิงงามนางหนึ่งคุกคามจิตใจสาวกสงฆ์ผู้ยังไม่ได้บรรลุโสดาปัตติผลรูปหนึ่งเข้า
หญิงงามก็มีจิตใจถวิลหาถึงภิกษุหนุ่มเช่นกัน“ แม้ฉันจะรู้อยู่เต็มอก ว่าท่านอยู่ในเพศบรรพชิต แต่จิตใจของฉันกลับรุ่มร้อน อยากพบอยากใกล้ชิดกับท่านยิ่งนัก ให้ฉันได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆ กับท่านสักครั้งนะคะ ”ภิกษุหนุ่มรูปนั้นกราบทูลยอมรับแก่พระพุทธเจ้าว่า ตกอยู่ในอำนาจหญิงนั้นจริง จนยอมเป็นทาสรับใช้นางนั้นตลอดชีวิตได้ทีเดียว
ภิกษุหนุ่มทูลยอมรับต่อพระศาสดาว่าตนตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งหญิงงามจนไม่สามารถประพฤติธรรมได้“ จิตใจของกระหม่อมไม่สามารถที่จะฝักใฝ่ในพระธรรมได้อีกแล้ว อยู่ไปก็รังแต่จะทำความหม่นหมองให้กับศาสนา ” ในสงฆ์สภาพระวิหารเชตวัน เวลานั้น
สมเด็จพระพุทธศาสดาทรงตรัสว่า “ ดูก่อนภิกษุ มาตุคามนี้เคยประทุษร้ายเอาชีวิตบัณฑิตผู้มีพระคุณมาแล้ว ”นครใหญ่แห่งแคว้นกาสีครั้งนั้นพระองค์ทรงยกธรรมเทศนาครั้งที่ยังเสวยพระชาติเป็นเจ้าชายพาราณสีขึ้นสาทกเป็นชาดกนิทานเรื่อง จุลปทุม ดังนี้ ครั้งเมื่อนครใหญ่แห่งแคว้นกาสีอันตั้งมั่น
อยู่ริมคงคามหานที เกิดเหตุร้ายมิได้เกิดความมั่นคงดังเก่าบ้านเมืองเกิดเหตุร้าย เจ้าชายรัชทายาทและพระชายาจำต้องเสด็จหนีออกจากเมืองครั้งนั้นเจ้าชายรัชทายาท จุลปทุมกุมารยังต้องเสด็จหนี “ หนีเร็วเจ้าพวกกบฏตามมาทางนี้แล้ว ” “ รอหม่อมฉันด้วยเพค่ะ โอ้ย หม่อมฉันไม่มีแรงจะวิ่งแล้ว ” จุลปทุมกุมาร
นำพระชายาเสด็จออกจากเวียงวังจนพ้นเขตพระนครสู่ป่าเขาจุลปทุมกุมารพาพระชายาเสด็จหนีเข้าป่าลึกเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ทิศทาง“ มาทางนี้เร็วเข้า หนีเข้าป่านั้นได้ เราก็น่าจะปลอดภัยแล้ว ” “ นี่เราก็วิ่งหนีมาทั้งคืนแล้วนะเพค่ะ เมื่อไหร่จะได้พักบ้าง หม่อมฉันเหนื่อยเหลือเกิน ” “ เจ้าอดทน
อีกสักนิดเถอะนะ หากพ้นอันตรายแล้ว เราคงจะได้พักกัน ”จุลปทุมกุมารและพระชายาทรงเดินทางตลอดทั้งคืนโดยมิได้หยุดพักเลยฤดูนั้นเป็นฤดูร้อน เจ้าชายนำชายาผ่านป่าใหญ่แห้งแล้งกันดารโดยมิได้ทรงรู้เส้นทาง “ โอ้ย เหนื่อยเหลือเกินเพค่ะ หม่อมฉันไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดินต่อไปแล้ว ขอพักสักหน่อย
ได้ไหมเพค่ะ ” “ โฮ ชายาของพี่ อดทนอีกสักนิดเถอะนะจ๊ะ ตรงนี้ไม่มีร่มไม้เลย ไปทางโน้นอีกนิดเถิด ”
พระชายาของจุลปทุมกุมารได้ร้องขอให้พระสวามีหยุดพักเพราะตนเดินต่อไปไม่ไหว“ เสด็จพี่จะไปก็ไปคนเดียวเถิด หม่อมฉันเดินไม่ไหวแล้วจริงๆ ” “ จะให้พี่ทิ้งน้องได้อย่างไรกัน ” “ ก็หม่อมฉันเดินไม่ไหวแล้วนี่เพค่ะ ถ้าอย่างนั้นเสด็จพี่ก็ต้องให้หม่อมฉัน
ขึ้นหลัง เสด็จพี่จะต้องแบกหม่อมฉันไปนะเพค่ะ ”จุลปทุมกุมารยอมแบกหามพระชายาของตนด้วยความรักและหลงใหลในตัวนางเมื่อชายาคนสวยขอขึ้นอยู่บนพระวรกาย เจ้าชายก็ยินดีแบกหามนางนั้น เสด็จต่อไปด้วยความรักและหลงใหล ( “ งานนี้ค่อยสบายหน่อย เสด็จพี่เป็นที่พึ่งของหม่อมฉันได้จริงๆ ” )
จนล่วงเข้าบ่ายคล้อย ทั้งสองก็ยังมิได้ทรงหยุดพัก กระยาหารสักคำ น้ำสักอึกหนึ่ง ก็มิได้ทรงเสวย
จุลปทุมกุมารแบกชายาของตนเดินเข้าป่าต่อไปจนกระทั่งบ่ายคล้อย“ โอ้ย หิว หิว หิว เสด็จพี่ หม่อมฉันทั้งหิวทั้งกระหายน้ำ คอแห้งผากจนทนไม่ไหวแล้วนะเพค่ะ น้องทนไม่ไหวแล้ว ทรมานเหลือเกิน ” “ จ๊ะ งั้นเดียวเราหยุดพักกัน
สักพักหนึ่งนะ พี่จะหาน้ำให้เจ้าดื่ม ” พระจุลปทุมกุมาร เมื่อวางพระชายาลงยังที่พักแล้ว ก็เที่ยวหาน้ำดื่มกินใกล้ๆ แต่ก็ไม่พบแหล่งน้ำใดเลยเมื่อถึงที่ที่ปลอดภัยจุลปทุมกุมารก็ทรงหยุดพักและออกเดินเที่ยวหาน้ำดื่มส่วนทางด้านพระชายาก็กระหายจนเพ้อ จุลปทุมกุมารจึงเชือดพระชานุของตนเอง รองเอาโลหิตป้อนนางจนมีกำลัง “ อดทนหน่อยนะจ๊ะชายาของพี่ พี่หาน้ำให้น้องได้แล้ว
อย่าเป็นอะไรน่ะชายาของพี่ ” “ หิวน้ำ หิวน้ำ โอ้ย ทรมานเหลือเกิน ”
จุลปทุมกุมารได้กรีดเลือดจากเข่าตัวเองมาป้อนพระชายาเนื่องด้วยไม่สามารถหาน้ำดื่มได้การเดินทางเป็นดังนี้เรื่อยไป จนวันหนึ่งก็บรรลุจากป่าสู่ริมน้ำแห่งหนึ่ง “ น้ำ ตรงนั้นมีลำธารด้วย เสด็จไปทางนั้นสิเพค่ะ น้องจะอาบน้ำ โอโห้ น้ำใสสะอาดน่าลงไปแช่จริงๆ
เดี๋ยวเสด็จพี่ไปหาอาหารด้วยนะเพค่ะ แล้วก็กลับมาสร้างศาลาทำอาศรม เร็วๆ สิเพค่ะ น้องอยากจะแช่น้ำเย็นๆ จะแย่แล้ว ”จุลปทุมกุมารเดินทางต่อจนมาถึงสถานที่ร่มรื่นริมแม่น้ำและได้สร้างที่พักอาศัยขึ้น ณ ที่นี่“ จ้า เห็นเจ้ากระปรี้กระเปร่าขึ้น พี่ก็มีความสุข ” จุลปทุมกุมารเป็นรัชทายาทพาราณสี ทรงได้รับการศึกษา เคยเรียนรู้เรื่องวัฏฏะของสรรพสิ่ง เมื่อสร้างอาศรมศาลาเสร็จ
ก็บำบัดความทุกข์ด้วยสมาธิ บำรุงชีวิตด้วยผลาหารจากป่าจุลปทุมกุมารดับความทุกข์ด้วยการนั่งสมาธิเจริญภาวนา“ อะไรกันนี่ พอพ้นภัยแล้ว แทนที่จะหาความสุขด้วยกัน นั่งสมาธิอยู่ได้ โธ่เอ้ย น่าเบื่อจริงๆ เลย ” วันเวลาผ่านไม่นานนัก วันหนึ่งเมื่อพระชายาลงไปยังริมฝั่งน้ำเพื่อสรงสนานดังเคย
ก็ปรากฏว่ามีแพเนรเทศโจรผู้ร้ายมาติดเสาบันไดค้างอยู่ “ ช่วยด้วยๆ ใครก็ได้ช่วยที ” “ ว้าย เสด็จพี่เพค่ะ มาดูนี่เร็ว ใครก็ไม่รู้ถูกตัดแขนตัดขาใส่แพ ลอยมาติอยู่ริมท่าน้ำของเราโจรร้ายถูกตัดแขนตัดขาใส่แพและได้ลอยมาติดอยู่ที่ท่าน้ำตรงที่พักของจุลปทุมกุมารและพระชายาเสด็จพี่เขาร้องขอให้ช่วยด้วยนะเพค่ะ เสด็จพี่มาช่วยเขาเร็วเข้าเถอะเพค่ะ ” ครั้งนั้นพระจุลปทุมกุมารได้ทรงนำขึ้นมาเยียวยาให้อาหารดูแล จนหายบาดเจ็บในเวลาต่อมา การสร้างบุญ
ของเจ้าชายครั้งนั้นเหมือนการเก็บงูเห่ามาเลี้ยง เมื่อเจ้าชายออกไปหาผลไม้ในป่า พระชายาสาวก็กระทำอนาจารร่วมกับโจรนั้นทุกครั้ง ความชั่วมักหอมหวานจนกลายเป็นสิ่งถูกต้องเสมอ
ในความคิดของคนชั่วจุลปทุมกุมารได้ช่วยเหลือโจรร้ายให้รอดตาย และรักษาแผลจนหายเป็นปกติ“ โจรหนุ่มให้ความสุขกับเราได้ เราควรกำจัดสามีที่ให้ความสุขเราไม่ได้ ทิ้งไป รอก่อนนะจ๊ะพี่ สักวัน น้องจะทำให้เรามีความสุขด้วยกันได้อย่างไม่ต้องหลบซ่อนกันอีกต่อไป ”
“ ไม่เป็นไรจ้า แค่นี้พี่ก็มีความสุขมากแล้ว หือ..บุญของเราจริงๆ โว้ย ” ชายาผู้งามเพียงรูปกาย เมื่อติดใจในกามคุณก็คิดหาแผนการร้ายในการทำลายสวามีของตนเอง วันหนึ่ง
เมื่อนางคิดหาวิธีได้ก็รีบทำตามแผนนั้นทันที
พระชายากับโจรร้ายแอบเล่นชู้กันทุกครั้งในเวลาที่จุลปทุมกุมารออกไปหาผลไม้ในป่า“ น้องบนบานว่า เมื่อเราปลอดภัย จะพากันมาไหว้เทพขุนเขาบนหน้าผาที่นั่น รีบเสด็จเถิดเพค่ะ ประเดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน ” “ เจ้านี่ช่างเป็นชายาที่ดีจริงๆ เจ้าคิดถึงความปลอดภัย
ของเราถึงเพียงนี้เชียวรึ ” เมื่อสวามีกระทำการบูชาเทพเทวดา นางงามผู้มีใจคดก็ผลักพระองค์ตกเหวสลบไสลแน่นิ่งไป “ แค่นี้ ก็หมดเสี้ยนหนามของความสุข เชิญบำเพ็ญเพียร
อยู่ที่ก้นเหวนี่เถอะเพค่ะ ”พระชายาหลอกพระสวามีให้ไปไหว้เทพขุนเขาบนหน้าผาสูงแผนร้ายครั้งนี้ไม่ได้ทำให้จุลปทุมกุมารได้รับอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด ด้วยได้รับการดุแลจากพญาเหี้ยตัวหนึ่ง ซึ่งทรงเชื่อในวงเวียนกรรมว่า เคยอุปถัมภ์ค้ำจุนกันมาก่อน “ น่าเวทนานัก
จิตใจของคนนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก ” เจ้าชายทรงค่อยๆ ไต่รากไม้และเถาวัลย์แต่ละเส้นตามคำแนะนำชี้ทางของพญาเหี้ย จนสามารถพ้นความตายขึ้นมาได้พระชายาได้ผลักพระสวามีตกจากยอดเขาแล้วนางก็จากไป“ ขอบใจท่านมาก เราจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย กาลต่อไปข้างหน้าหากเราได้ครองบัลลังภ์อีกครั้ง เราจะขอสัญญาว่า จะทำนุบำรุงดูแลทุกชีวิตให้ดี โดยไม่เลือกวรรณะชนชั้นเลย ”
“ เราก็ขอภาวนาให้ท่านได้ครองบัลลังภ์อีกครั้ง ”
จุลปทุมกุมารตกจากหน้าผาแต่ไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใดกาลผ่านไปพระกุมารจุลปทุมได้ครองราชสมบัติกรุงพาราณสี พระองค์ทรงปกครองไพร่ฟ้าด้วยราชธรรม เรื่องราวของพระองค์ถูกเล่าขานต่อๆ กันไปทั่วพระนครเป็นสิ่งเตือนใจ
มิให้ประพฤติชั่ว จากนี้ไปเราจะดูแลทุกข์สุขของประชากรไพร่ฟ้าทุกหมู่เหล่า จะปกครองบ้านเมืองโดยธรรมพญาเหี้ยได้แนะนำจุลปทุมกุมารให้ไต่ตามยอดไม้และลงมาได้อย่างปลอดภัยส่วนชายาผู้ติดในกามคุณ หลายปีผ่านไปก็ยังติดอยู่กับโจรด้วนผู้นั้น เพราะต้องอาศัยความพิการของมันแบกไปขอทานเลี้ยงชีพอย่างน่าอนาถ ซ้ำยังเสี่ยงภัยจากขอทานอื่นๆ
และราชบุรุษมาขับไล่อยู่เสมอ ชีวิตที่หลงในกามคุณมักตกต่ำเช่นนี้เสมอ “ โอ้ย เป็นเวรเป็นกรรมแท้ๆ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว
กาลต่อมาจุลปทุมกุมารรัชทายาททรงได้ปกครองบ้านเมืองอีกครั้งด้วยราชธรรมตั้งแต่เช้า ข้าวยังไม่ตกถึงท้องเลยสักคำ ” “ เอาน่า น้องเอ๋ย แบกพี่ไปทางโน้นสิ ทางโน้นคนเยอะ อาจจะได้เพิ่มอีกสักหน่อย ” สมเด็จพระบราศาสดาจบพระธรรมเทศนาจุลปทุมชาดกแล้ว
ทรงประกาศสัจธรรม ภิกษุทั้งหลายเห็นความจริงดังนั้น ภิกษุผู้กระสันในสตรีก็ได้บรรลุโสดาปัตติผลเห็นโทษเห็นคุณข้อนี้อดีตพระชายาได้แบกโจรแขนขาด้วนเพื่อขอทานเลี้ยงชีพอย่างน่าอนาถในพุทธสมัยนั้น ชายา กำเนิดเป็น นางจิญจมานวิกา ผู้ใส่ร้ายทำลายพระพุทธเจ้าโจรแขนขาด้วน กำเนิดเป็น พระเทวทัตพญาเหี้ย กำเนิดเป็น พระอานนท์จุลปทุมกุมาร เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
จุลปทุมชาดก ว่าด้วยการลงโทษหญิงชายทำชู้กัน
พระจุลปทุมกุมารได้ทรงช่วยเหลือโจรที่โดนตัดแขนตัดขาที่ถูกปล่อยลงแพล่องตามแม่น้ำ พระองค์ทรงเยียวยาให้อาหารดูแล จนหายบาดเจ็บในเวลาต่อมา การสร้างบุญของเจ้าชายครั้งนั้นเหมือนการเก็บงูเห่ามาเลี้ยง เมื่อเจ้าชายออกไปหาผลไม้ในป่า พระชายาสาวก็กระทำอนาจารร่วมกับโจรนั้นทุกครั้ง ความชั่วมักหอมหวานจนกลายเป็นสิ่งถูกต้องเสมอในความคิดของคนชั่ว https://dmc.tv/a24878
บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ[ 27 พ.ค. 2562 ] - [ ผู้อ่าน : 18254 ]
บทความอื่นๆ ในหมวด
ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่งเกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ