ชาดก 500 ชาติ
ฉัททันตชาดก-ชาดกว่าด้วยพญาช้างฉัททันต์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารในห้วงเวลานับแสนกัปแห่งการเวียนว่ายตายเกิดเพื่อทำความดีสั่งสมพระบารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น นับแค่อดีตชาติที่ทรงเล่าเป็นชาดกก็ไม่น้อยกว่า500 พระชาติแล้ว แต่ละชาติของมหาบุรุษผู้เป็นหนึ่งในโลกพระองค์นี้ภิกษุและภิกษุณีเข้าฟังพระธรรมเทศนา ณ พระเชตวันมหาวิหารย่อมมีชีวิตอื่นเกี่ยวข้องพ้องพานด้วยไม่น้อยเช่นกัน ในวันหนึ่งเมื่อภิกษุ ภิกษุณีเข้าฟังพระธรรมเทศนา ณ พระเชตวันมหาวิหาร ยังมีภิกษุณีวัยดรุณรุ่นสาวผู้หนึ่งเกิดความสงสัยถึงเรื่องอดีตชาติของตน
ภิกษุณีนางหนึ่งรวมใจนิ่งจนบังเกิดนิมิตไปสู่ภพภูมิในอดีตชาติ“ จะมีชาติใดบ้างหนอ ที่เราเคยได้รับใช้เป็นบาทบริจาริกาของพระพุทธองค์ และหากเคยมีบุญได้รับใช้ เหตุเกิดและดับลงจะเป็นเช่นไรหนอ ” เมื่อจิตตั้งเป็นกุศลดังนั้นสมาธิก็รวมนิ่งใสสว่างอยู่กลางกาย บังเกิดเป็นนิมิตพิสดารไปสู่ภพภูมิแต่อดีตชาติตามเพลงบุญแห่งเธอในบัดนั้น
ภิกษุณียิ้มอย่างมีความสุขเพราะในอดีตชาติเธอเคยเป็นบาทบริจาริกาของพระพุทธองค์“ ด้วยจิตอันบุญกุศลนี้ โปรดดลบันดาลให้ข้าพเจ้าได้เห็นภพภูมิชาติก่อนๆ ด้วยเถิด ” ชั่วครู่ยามหนึ่งเหล่าภิกษุสามเณรและภิกษุณีทั้งหลางก็เห็นเป็นการผิดวิสัยเกิดแก่ภิกษุณีรูปนั้น เธออิ่มเอมแย้มยิ้มอย่างมีความสุขภิกษุณีร้องไห้เพราะอดีตชาติเธอเคยปองร้ายพระพุทธองค์“ เราเคยเป็นบาทบริจาริกาจริง ๆ ด้วย ดีจังเลย ” ความยินดีเกิดขึ้นได้ไม่นาน สักพักเสียงหฤหรรษ์ก็ขาดห้วงไป กลายเป็นสั่นเครือคล้ายรันทดเกินประมาณ “ ไม่ ไม่นะเราก่อกรรมกับสมเด็จได้เยี่ยงนี้เชียวหรือ ไม่น่าเลยเหล่าภิกษุและภิกษุณีต่างประหลาดใจกับกิริยาอาการที่ยิ้มแย้มและร้องไห้ของภิกษุณีทำไม ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ฮือ ฮือ ไม่น่าเลย ” สิ่งที่เหล่าภิกษุ ภิกษุณีประหลาดแก่สายตาก่อนที่ภิกษุณีสาวผู้นี้จะคืนสมาธิสู่ภาวะปกติก็คือ กิริยาโศกเศร้าและน้ำตารินไหลไม่ขาดสาย “ ฮือ ฮือ ทำไม่ ทำไมเราถึงทำเช่นนั้นได้นะเหล่าสงฆ์สาวกต่างอาราธนาพระพุทธองค์ให้ทรงเล่าอดีตชาติของนางภิกษุณีไม่น่าเลย ไม่น่าเลยจริง ๆ ” เมื่อเหล่าสงฆ์สาวกกราบอาราธนาให้เล่าเหตุในอดีตชาติครั้งนั้น พระผู้พิชิตมารก็ระลึกเหตุการณ์นั้นด้วยบุปเพนิวาสนุสติญาณตรัส ฉัททันตชาดกขึ้นในป่าใหญ่ใกล้บรรพตกาลในครั้งนั้นพญาช้างฉัจทันต์ผู้มีงาคู่ยาวส่องประกายฉัพพรรณรังสีสวยงามยิ่งยังมีพญาคชสารร่างกายสูงใหญ่เล็บเท้าแดง และมีงาคู่ยาวมีประกายฉัพพรรณรังสีสวยงามอาศัยอยู่ พญาช้างนี้นามว่า พญาฉัททันต์ พญาช้างปกครองช้างบริวารโขลงใหญ่ หากินอยู่ในเขตป่ารังอันบริบูรณ์พญาช้างฉัจทันต์ได้ปกครองบริวารอยู่ในเขตป่ารังที่อุดมสมบูรณ์อันมีความสุขมาช้านาน “ ช้างทั้งหลายจงฟังข้า วันนี้เราจะพาเจ้าทั้งหลายไปหากินในที่แห่งใหม่ ให้ทุกตัวรักษาวินัยให้ดี ทั้งนี้ก็เพื่อความความปลอดภัยของพวกเจ้าทั้งหลาย ” พญาช้างมีภรรยาเป็นนางพญาช้างสองพี่น้องพญาช้างฉัจทันต์มีภรรยาช้างสองพี่น้องผู้พี่มีผิวกายชมพู ผู้น้องมีผิวกายเหลืองชื่อมหาสุภัททาผิวกายชมพู และจุลลสุภัททาผิวกายเหลือง ทั้งสองช่วยกันปรนนิบัติมิได้อนาทรร้อนใจกันตลอดมา “ วันนี้พญาฉัททันต์นำโขลงลงสระบัวด้วยค่ะพี่น้องอยากได้บัวดอกโตๆ สักดอกหนึ่ง เรารีบตามท่านไปเถอะนะจ๊ะพี่ ”พญาช้างฉัจทันต์พาโขลงลงเล่นน้ำในสระบัว“ เจ้านี่ชอบดอกไม้จริง ๆ เลยนะ ไปก็ได้จ๊ะ ไป เรารีบไปกันเถอะ” ครั้นพญาช้างขึ้นจากสระแล้วก็ให้ภรรยาทั้งสองลงไปอาบ พญาฉัททันต์เห็นบัวดอกใหญ่ก็ใช้งวงดึงขึ้นมา นางจุลลสุภัททาผู้น้องอยู่ใกล้ก็ยินดี คิดว่าจะประทานให้
พญาช้างฉัจทันต์ดึงดอกบัวจากสระเพื่อที่จะมอบให้ภรรยาของตน“ อุ๊ยตาย ท่านพี่ต้องมอบดอกบัวนี้ให้เราแน่เลย ” แต่แล้วสวามีกลับเรียกให้นางผู้พี่มารับแทน ความสุขของนางช้างมหาสุภัททาจึงอยู่บนความไม่พอใจของภรรยาผู้เป็นน้องสาวโดยไม่รู้ตัว “ดีใจจริง ๆ เลย ดูสิดอกบัวนี้ช่างสวยจริง ๆ เลยพญาฉัจทันต์ดึงดอกบัวจากสระมอบให้ภรรยาผู้มีผิวกายชมพู คือนางมหาสุภัททาพอนำมาทัดไว้ข้างหูก็ยิ่งสวยงาม ท่านพี่เนี่ยก็ใจดีจริง ๆ เลยนะ ” “ อะไรกันเนี่ยฉันก็อยากได้ดอกบัวดอกนั้นเหมือนกัน แต่ทำไม่ท่านพี่ถึงมอบให้พี่ช้างสุภัททาด้วย ”วันคืนผ่านไปในป่ารังอันเคยเสวยสุขนางจุลลสุภัททาภรรยาผู้น้องคับแค้นใจยิ่งนักที่ตนไม่ได้รับดอกบัวจากพญาช้างก็อบอวลด้วยไอความทุกข์ความริษยาอาฆาต “ เฮ้ย รักกันเข้าไป คอยดูเถอะว่าจะรักกันแค่ไหน สักวันเราจะต้องทำให้พญาช้างเสียใจที่ทำกับเราอย่างนี้แน่ ๆ ”เคราะห์ซ้ำกรรมบันดาลอีกคราวหนึ่งพญาช้างฉัจทันต์และภรรยาทั้งสองเดินผ่านต้นไม้ที่มีดอกบานสะพรั่งเต็มต้นเมื่อพญาช้างมองเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีดอกไม้บานเต็มสะพรั่ง จึงปรารถนานั้นแก่ภรรยาของเขาทั้งสอง “ พวกเธอคอยรับเอาดอกไม้นี้ไว้ประดับกายเถิด เอาล่ะคอยรับนะ ” พญาช้างว่าแล้วก็เข้ากระแทกลำต้นให้ดอกร่วงลงมาตามวิสัยคชสารพญาฉัจทันต์บอกให้ภรรยาทั้งสองคอยรับดอกไม้ที่จะร่วงลงมาด้วยแรงกระแทกลำต้นของต้น“ อุ๊ย มาแล้วๆ ลมพัดมาทางเรานี่น่า ดอกไม้สวยๆ จ๋า ปลิวมาทางนี้เลยจ้า ” แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อดอกไม้บานที่สวยงามนั้น ลอยลงไปประดับกายช้างมหาสุภัททา และด้วยลมที่พัดแรงจนเกินไปดอกไม้ร่วงลงมาประดับกายนางมหาสุภัททาอย่างสวยงามทำให้กิ่งไม้ผุที่มีรังมดดำร่วงลงใส่ศีรษะของช้างจุลลสุภัททาเต็มเปา “ อื้อหือ ดอกไม้สวย ๆ เต็มไปมดเลย น้องจุลลสุภัททาดูสิ ดอกไม้เต็มไปหมดเลย ” “ ดอกไม้ดอกไม้ ดอกไม้ โอ้ย มดกัด ๆ ช่วยด้วย ”กิ่งไม้ผุที่มีรังมดร่วงลงมาใส่ศีรษะของนางจุลลสุภัททาเหตุการณ์นี้เพิ่มแรงอฆาตให้จุลลสุภัททาผูกพยาบาทพญาช้างฉัททันต์เต็มดวงจิต “ คอยดูเถอะฉันจะต้องทำให้ท่านเสียใจให้ได้ ที่ทำกับฉันอย่างนี้ ” เมื่อถึงวันอุโบสถวันหนึ่งพญาช้างได้พาภรรยาทั้งสองไปทำอุปัฏฐาก
วันอุโบสถพญาช้างได้พาภรรยาทั้งมาอุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธเจ้ากลางป่านั้น “ ไปสักการะพระปัจเจกพุทธเจ้าเถอะ แรงบุญนี้จะส่งผลให้แรงอธิษฐานของเธอเป็นจริงได้ ไปเถอะจ๊ะ ” “ ดีจ๊ะพี่ น้องจะอธิษฐานให้พี่มีสุขภาพแข็งแรงนะจ๊ะ ไปกันเถอะน้องจุลลสุภัททา ”นางช้างจุลลสุภัททาสักการะพระปัจเจกพุทธเจ้าพร้อมอธิษฐานด้วยอกุศลจิตคิดแค้น“ จ๊ะ น้องก็จะอธิษฐานเหมือนกัน หวังว่าแรงบุญในครั้งนี้จะช่วยให้เราแก้แค้นพญาช้างด้วยเถอะ ” จุลลสุภัททาเก็บดอกไม้จัดช่อสวยงามสักการะพระปัจเจกพุทธเจ้าพร้อมตั้งจิตอธิษฐานด้วยอกุศลจิตคิดแค้นนางช้างจุลลสุภัททายอมอดอาหารและตายไปด้วยดวงจิตที่คั่งแค้น“ ด้วยอานิสงส์แห่งบุญนี้ เมื่อข้าพเจ้าตายไป ขอให้ได้เกิดในเศวตฉัตรราชา มีอำนาจบารมี กำจัดพญาฉัททันต์สามีผู้ลำเอียงนี้ด้วยเถิด ” นับแต่นั้นจุลลสุภัททาก็ไม่ได้ดื่มน้ำกินอาหารแม้แต่คำเดียว ไม่นานต่อมาก็ขาดใจตายไปด้วยดวงจิตคั่งแค้น
นางช้างจุลลสุภัททาได้เกิดในภพชาติใหม่ในเศวตฉัตรมาหาราชแห่งแคว้นมัททรัฐแรงอธิษฐานผนวกด้วยกระแสกรรมอันรุนแรงนั้นส่งให้เธอไปเกิดใหม่ในทันที “ ชาตินี้ความรักเราไม่สมหวัง ไม่เคยได้รับความรักจากสามีเลย เกิดใหม่ชาติหน้าเราจะทำให้ท่านต้องเสียใจมากกว่าเรา ท่านพญาช้างฉัททันต์ ”พระนางจุลลสุภัททาได้เป็นอัครมเหสีของพระราชาแห่งแคว้นกาสิกกรัฐช้างจุลลสุภัททาได้เกิดใหม่ในเศวตฉัตรมหาราชแห่งแคว้นมัททรัฐ นางมาสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือตั้งแต่แรกรุ่นดรุษวัย จนเจริญวัยสมควรแก่การวิวาหมงคล พระราชบิดาก็ถวายให้เป็นอัครมเหสีแก่มหาราชาแห่งกาสิกกรัฐผู้เปี่ยมบารมี และสิ่งที่พิเศษที่ติดตัวนางมา ญาณวิเศษสามารถระลึกชาติได้พระนางจุลลสุภัททายังทรงจำอดีตชาติซึ่งนางมีความแค้นต่อพญาช้างฉจทันต์“ หึ เรายังไม่ลืมความแค้นที่ยังมีต่อท่านหรอกนะ ท่านพญาช้างฉัททันต์ ” พระราชบิดาถวายบุตรสาวของเขาให้กับพระเจ้าพรหมทัตผู้สูงวัยแห่งพาราณสี เมื่อบุรุษสูงวัยได้คู่เคียงเป็นสาวรุ่น อันมากด้วยความงามและพลังแห่งอิตถีเช่นนี้ ก็ลุ่มหลงจนลืมองค์ “ เสด็จพี่เพค่ะ น้องตั้งครรภ์แล้วเพค่ะ ท่านพี่ดีพระทัยไหมเพค่ะ ”พระนางจุลลสุภัททาทรงใช้มารยาหญิงต่อพระสวามีเพื่อให้ได้มาซึ่งงาช้างทั้งสองข้างของพญาฉัจทันต์“ โอ้ จริงรึ ดีใจมาเลยจ๊ะ เทวีคนดีของพี่ต่อไปนี้ต้องบำรุงครรภ์ให้มากนะจ๊ะ น้องอยากได้อะไรขอให้บอกพี่เถอะ พี่จะหามาให้ทุกสิ่ง ” พระเจ้าพรหมทัตทรงตามใจพระมเหสีทุกอย่างกระทั่งสิ่งยากที่สุดสิ่งหนึ่ง “ พี่จ๊ะ น้องอยากได้งาช้างอันทอรัศมี 6 ประการเพค่ะ ช้างนี้อยู่ทิศอุดรของหิมพานต์จ๊ะ ”พรานโสณุดรได้ออกตามล่าพญาช้างฉัจทันต์ตามรับสั่งของพระราชา“ เอาเถอะ ๆ แม้สิ่งนี้จะอยู่นอกเขตสามร้อยโยชน์กาสีแห่งเรา พี่ก็จะจัดการให้ ” พระนางจุลลสุภัททาในชาติภพใหม่ยังระลึกรู้ถึงคู่กรรมของพญาฉัททันต์ “ พรานคนเดียวที่จะฆ่าช้างสำคัญนี้ได้ ชื่อโสณุดร เป็นบิดาของเหล่าพรานช้างเพค่ะ หม่อมฉันต้องการชีวิตพญาฉันทันตัวนั้น ” พรานสานุดรรอนแรงข้ามภูเขาหกลูกไปซุ่มซ่อนตามรอยพญาฉัททันต์ จึงคิดอุบายได้
พรานโสณุดรได้ขุดหลุมพรางตัวในเส้นทางที่พญาช้างฉัจทันต์จะต้องเดินผ่านเพื่อไปสักการะพระปัจเจกพุทธเจ้านั่นคือ ขโมยผ้ากาสาวพัสตร์จากพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้วเลือกใช้ธนูอาบยาพิษร้ายแรงเป็นอาวุธสังหาร “ หึ หึ ไม่พ้นเงื้อมมือเราไปได้หรอก พญาช้างเอ๋ย ” พรานโฉดขุดหลุมทำเครื่องพลางตัวระหว่างทางที่พญาช้างเดินผ่านอย่างอดทน พรานโสณุดรรู้ว่าพญาโพธิสัตว์เคารพในพระปัจเจกพุทธเจ้าจึงเอาผ้ากาสาพัสตร์ห่มตัวไว้ป้องกันชีวิตตนในวันอุโบสถพญาช้างฉัจทันต์ก็เดินทางมาสักการะพระปัจเจกพุทธเจ้าตามปกติเหมือนอย่างที่เคยทำ“ มุมนี้แหละกำลังดี รีบเดินมาเถอะเจ้าช้างเอ๋ย ธนูพิษนี้รอเจ้าอยู่ ” เมื่อถึงวันอุโบสถพญาช้างก็มาสักการะพระปัจเจกพุทธเจ้าเช่นเดิม เมื่อเดินผ่านหลุมพลางที่พรานซุ่มอยู่อาวุธสังหารอาบยาพิษก็ทำหน้าที่ของมัน “ นั่นไง ตรงเป้าที่วางไว้พอดี มาเถอะมา มาพ่อมา ” แล้วพญาคชสารใหญ่ก็ต้องพิษชำแรกสู่หัวใจในบัดดลที่ศรเสียบเข้าร่าง
พญาช้างฉัจทันต์ได้ไว้ชีวิตพรานเหตุเพราะพรานนั้นได้ใช้ผ้ากาสาวพัตร์ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้“ โอ้ย ใคร ใครกันที่แอบทำร้ายเรา โอ้ย ธนูนี้มียาพิษ ” ร่างพญาสัตว์ผู้บำเพ็ญแต่กรรมดีทรุดลง สองขาหน้าสิ้นแรงที่จะเดินได้อีกด้วยพิษจากลูกศร ความโกรธทำให้คว้าร่างพรานไว้จะเอางาเสียบเสียให้ตาย แต่ก็ต้องละความคิดนั้น “ พรานชั่วเอ๋ย เจ้าเอาผ้ากาสาวพัสตร์หมายพระอรหันต์มาห่อหุ้มตัวรึ เอาเถิดเราจะละชีวิตให้ ” เมื่อพญาฉัททันต์รู้ว่าผู้สั่งเอาชีวิตตนคือใคร ก็แผ่เมตตาแก่พรานพญาช้างฉัจทันต์ได้กระทำมหาทานมอบงาทั้งสองให้แก่พรานและได้ขาดใจตายเมื่อพรานกลับไปถึงแคว้นกาสิกกรัฐกระทำมหาทานมอบงาทั้งสองด้วยกุศลเจตนา สู่สัพพัญญุตญาณว่า “ พรานเอ๋ย นางผู้นั้น ละวางพยาบาทได้ก็ด้วยชีวิตเรา จงเลื่อยเอางาของเราไปเถิด ” การสิ้นกรรมในชาติภพนั้นพญาฉัททันต์ทนเจ็บปวดเป็นที่เวทนาการ จนเมื่อพรานนำงาคู่ไปถึงกาสิกกรัฐ แล้วพญาช้างก็ขาดใจตาย “ ได้แล้ว ได้แล้วๆ งาคู่งาม งานนี้รับเละแน่ ๆ เรา รวย ๆๆๆๆ ”พระนางจุลลสุภัททาหัวใจแตกสลายเหตุเพราะยังผูกพันธ์ในชาติเดิมที่มีต่อพญาช้างฉัจทันต์พระนางจุลลสุภัททาเองก็ตกในห้วงปริเวทนาการไม่น้อยกว่ากัน ด้วยยังผูกพันธ์และระลึกรู้ชาติเดิม พระนางครอบครองงาอันมีรัศมีคู่งามได้สามราตรีก็หัวใจแตกสลายสู่ปรโลกตามพญาฉัททันต์ไป “ โธ่ มเหสีของพี่ เจ้าไม่น่าอายุสั้นเช่นนี้เลย โธ่เอ้ย ”
พระนางจุลลสุภัททา กำเนิดเป็น ภิกษุณีพรานช้างโสณุดร กำเนิดเป็น พระเทวทัตพญาช้างฉัททันต์ เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
ฉัททันตชาดก ชาดกว่าด้วยพญาช้างฉัททันต์
“ พรานเอ๋ย นางผู้นั้น ละวางพยาบาทได้ก็ด้วยชีวิตเรา จงเลื่อยเอางาของเราไปเถิด ” การสิ้นกรรมในชาติภพนั้น พญาฉัททันต์ทนเจ็บปวดเป็นที่เวทนาการ จนเมื่อพรานนำงาคู่ไปถึงกาสิกกรัฐ แล้วพญาช้างก็ขาดใจตาย https://dmc.tv/a25020
บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ[ 30 มิ.ย. 2562 ] - [ ผู้อ่าน : 18255 ]
บทความอื่นๆ ในหมวด
ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่งเกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ