ผลชาดก ชาดกว่าด้วยความสามารถในการดูผลไม้

ณ นครสาวัตถี นอกฤดูพรรษาหนึ่งก่อนที่เหล่าภิกษุสงฆ์จะออกจาริกไปเผยแผ่พระพุทธธรรมตามนิคมแว่นแคว้นต่าง ๆ ชาวพระนครก็มักกราบอาราธนาพระพุทธองค์เสด็จรับภัตตาหารที่บ้านเรือนตนอยู่มิได้ขาด ครั้งหนึ่งทรงรับนิมนต์คหบดีเจ้าของสวนผลไม้ จึงเสด็จนำหมู่ภิกษุสงฆ์ไปตามการอาราธนานั้น ชาวสวนผลไม้จัดพระพุทธอาสนะให้พระพุทธองค์ประทับภายในเคหสถานของตนพร้อมกับพระเถระผู้ใหญ่ https://dmc.tv/a25521

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 20 พ.ย. 2562 ] - [ ผู้อ่าน : 18257 ]

ชาดก 500 ชาติ

ผลชาดก-ชาดกว่าด้วยความสามารถในการดูผลไม้

โกศลรัฐซึ่งมีนครสาวัตถีเป็นเมืองหลวง

โกศลรัฐซึ่งมีนครสาวัตถีเป็นเมืองหลวง
  
     ในสมัยพุทธกาลนั้น ชนชาวอารยันได้ปกแผ่ความไพศาลแห่งอำนาจไปกว่าครึ่งชมพูทวีป มีโกศลรัฐเป็นมหาอาณาจักรและสาวัตถีเป็นนครหลวง สมเด็จพระบรมศาสดา
สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับเจริญพระธรรมเทศนาชาดกเกือบ ๕๐๐ พระชาติ ณ เมืองนี้ นอกฤดูพรรษาหนึ่งก่อนที่เหล่าภิกษุสงฆ์จะออกจาริกไปเผยแผ่พระพุทธธรรม
ตามนิคมแว่นแคว้นต่าง ๆ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ เมืองสาวัตถี
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ เมืองสาวัตถี
 
     ชาวพระนครก็มักกราบอาราธนาพระพุทธองค์เสด็จรับภัตตาหารที่บ้านเรือนตนอยู่มิได้ขาด ครั้งหนึ่งทรงรับนิมนต์คหบดีเจ้าของสวนผลไม้ จึงเสด็จนำหมู่ภิกษุสงฆ์ไปตาม
การอาราธนานั้น ชาวสวนผลไม้จัดพระพุทธอาสนะให้พระพุทธองค์ประทับภายในเคหสถานของตนพร้อมกับพระเถระผู้ใหญ่ “ กราบอาราธนาพระสมณะโคดมและพระเถระ
ผู้มีอายุเข้าในเรือน
 
ในช่วงนอกฤดูพรรษา ณ เมืองสาวัตถี
 
ในช่วงนอกฤดูพรรษา ณ เมืองสาวัตถี
 
     ให้ข้าพเจ้าได้ถวายภัตตาหารอันประณีตบนพุทธอาสน์และอาสนะสงฆ์เถิด ส่วนพระภิกษุที่ตามเสด็จมานั้น ข้าพเจ้าขออาราธนาท่านตามคนสวนของข้าไปอีกด้านของบ้านเถิด ”
“ เจริญพร ” “ นิมนต์ทางนี้ขอรับพระคุณเจ้า กระผมได้จัดเตรียมอาสนะและภัตตาหารเอาไว้สำหรับพระคุณเจ้าแล้ว ” “ สวนของท่านนี่ ช่างร่มรื่นดีแท้ ” “ ขอรับพระคุณเจ้า ”

คหบดีเจ้าของสวนผลไม้ได้กราบอาราธนาพระพุทธองค์ไปรับภัตตาหารที่เรือนของตน
 
คหบดีเจ้าของสวนผลไม้ได้กราบอาราธนาพระพุทธองค์ไปรับภัตตาหารที่เรือนของตน
 
      ที่นั้นเป็นสวนผลไม้อันร่มรื่น และเสนาะโสดด้วยเสียงนกน้อยขับขานเชิญสำราญใจอยู่ทั่วบริเวณ “ อาราธนานิมนต์พระคุณเจ้าที่อาสนะอันเรียงรายอยู่ในสวนผลไม้เพื่อรับภัตตาหาร
แต่บัดนี้เถิด ” ครั้งนั้นภิกษุจากพระเชตวันมหาวิหารได้รับความสะดวก มิบกพร่องสิ่งใด ทั้งอาหารคาวหวาน น้ำมันหอมและผลไม้เลิศรส ซึ่งดูจะเลิศกว่าสวนผลไม้ใด ๆ ที่ได้ลิ้มลองมา
 
คหบดีได้กระทำการต้อนรับพระพุทธองค์ที่เสด็จมารับภัตตาหารที่เรือนของตน
 
คหบดีได้กระทำการต้อนรับพระพุทธองค์ที่เสด็จมารับภัตตาหารที่เรือนของตน
 
      จึงอดไม่ได้ที่จะถามความเป็นมาของผลไม้เหล่านั้นกับหนุ่มคนสวน “ โยมผลไม้เหล่านี้ โยมนำมาจากที่ใดกันเล่า ใครเป็นผู้ดูแลรึ ” “ นั่นสิโยม ปกติธรรมดาในจำนวนผลไม้
ต้องมีรสฝาดบ้าง ขมบ้าง เปรี้ยวบ้าง แต่ผลไม้เหล่านี้กลับมีรสหวานฉ่ำทั้งสิ้น ” “ กราบเรียนพระคุณเจ้า ทั้งหมดนี้ก็ได้คนดูแลสวนผู้นี้ คอยดูแลเอาใจใส่ มิได้ขาดขอรับ ”
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้ฉันภัตตาหารท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่น
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้ฉันภัตตาหารท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่น
 
     “ อืม โยมมีเคล็ดลับอะไรในการดูแลสวนผลไม้เหล่านี้เป็นพิเศษหรือ ถึงได้ออกมาหวานฉ่ำเช่นนี้ทุกผล ” “ กราบเรียนพระคุณเจ้ากระผมมิได้มีเคล็ดลับอันใด มีแต่ความรู้เรื่องผลไม้
ที่ตกทอดมาเท่านั้น หากพระคุณเจ้าสนใจ กระผมจักพาพระคุณเจ้าเดินชมสวนผลไม้หลังจากพระคุณเจ้าฉันภัตตาหารเหล่านี้เสร็จแล้ว ” “ ก็ดีเหมือนกัน อาตมาก็อยากจะเปิดหูเปิดตา
ดูเรื่องผลไม้บ้าง ”
 
คนสวนของท่านคหบดีได้จัดผลไม้ที่เลิศรสน้อมถวายแด่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
คนสวนของท่านคหบดีได้จัดผลไม้ที่เลิศรสน้อมถวายแด่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
     ความสามารถเป็นเลิศในการดูผลไม้นานาพรรณ ไม่ว่าจะติดปลายกิ่งอยู่บนลำต้นสูงลิ่วหรืออยู่ในร่มใบบังหากสายตายังมองเห็นก็จะบอกอายุ สี กลิ่น และวิธีบริโภคได้ทุกอย่าง
เป็นที่เจริญปัญญาแก่ภิกษุทั้งหลายเป็นอย่างมาก “โอโห ผลไม้เต็มไปหมดเลย ช่างออกผลอุดมสมบูรณ์ดีเหลือเกิน ” “ อื้อหือ ไม่น่าเชื่อเลย ” “ นั่นนะสิ โยมช่างเก่งสมดังคำ
ที่ท่านคหบดีกล่าวไว้จริง ๆ น่าทึ่งมาก เจริญปัญญาแก่พวกอาตมาโดยแท้ ”
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้พากันชมสวนผลไม้ของท่านคหบดี
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ได้พากันชมสวนผลไม้ของท่านคหบดี
     
     “ หามิได้ขอรับพระคุณเจ้า กระผมก็แค่คนสวนธรรมดา หาได้เก่งกาจอะไรหรอกขอรับ ” “ โยมนี่ ช่างถ่อมตนจริง ๆ เลยนะ ” ภิกษุบางกลุ่มอัศจรรย์ในคนดูแลสวน จึงเรียนรู้
วิชชาพิเศษนี่อย่างเพลิดเพลิน โดยมิได้เก็บผลไม้กลับไปเป็นของขบฉันแต่อย่างใด กลับเป็นสุขในกุศลเจตนาที่ได้ชมความอุดมสมบูรณ์ของสวนผลไม้อย่างอิ่มเอิบใจ
จนได้เวลาพระพุทธองค์เสด็จกลับพระอาราม

คนสวนของท่านคหบดีได้ถวายความรู้ในเรื่องการดูแลสวนผลไม้ของตนแด่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
คนสวนของท่านคหบดีได้ถวายความรู้ในเรื่องการดูแลสวนผลไม้ของตนแด่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
     “ วันนี้ ต้องขอบใจท่านมากนะ ที่ช่วยให้พวกอาตมาได้เจริญปัญญาอย่างมากจริง ๆ ” “ มิเป็นไร มิได้ขอรับพระคุณเจ้า เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าควรกระทำอยู่แล้ว ” กระทั่งเมื่อเหล่าภิกษุ
ตามเสด็จกลับพระเชตวัน ก็ยังมีบางรูปสนทนากันต่อในเรื่องความเก่งเป็นพิเศษของคนสวน “ โยมหนุ่มคนสวนผู้นั้น ช่างเก่งจริง ๆ เลยนะท่าน ดูแลสวนไม้ได้อย่างดีเยี่ยม แต่ละผล
ก็ดูสวยงาม เลิศรสจริง ๆ ” “ ใช่ โยมหนุ่มคนนั้นช่างเชี่ยวชาญเรื่องผลหมากรากไม้สะเหลือเกิน ไม่เช่นนั้น คงไม่ปลูกผลไม้ได้เลิศรสขนาดนี้ ” 
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ต่างพากันกล่าวขานชื่นชมคนดูแลสวนผลไม้ของท่านคหบดี
 
เหล่าภิกษุสงฆ์ต่างพากันกล่าวขานชื่นชมคนดูแลสวนผลไม้ของท่านคหบดี
 
     “ ใช่ ใช่ ใช่ ข้าก็คิดเช่นนั้น เหมือนพวกท่าน ” ความเชี่ยวชาญในเรื่องการดูแลสวนผลไม้ของคนสวนหนุ่ม เป็นที่ชื่นชมของเหล่าภิกษุที่ได้ตามเสด็จพระพุทธองค์ไปในครั้งนั้น จนนำ
กลับมาสาธยายเล่าขาน พร้อมทั้งสรรเสริญแก่เหล่าภิกษุรูปอื่น ๆ ที่ไม่ได้ตามเสด็จกันอย่างทั่วหน้า “ นี่ท่าน วันนี้ที่ข้าได้ติดตามพระพุทธองค์ไปฉันภัตตาหารที่บ้านของคหบดีนั้น ผลไม้
ลูกสวย ๆ งาม ๆ ทั้งนั้นเลย แถมรสชาติก็หอมหวานจริง ๆ ไม่เคยพบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย ” “ จริงรึท่าน ” “ นี่ถ้าท่านได้เห็นกับตานะ รับรองว่าท่านต้องชอบแน่ ๆ เลย ”
 
คนดูแลสวนผลไม้ของท่านคหบดีสามารถบอกอายุ สี กลิ่น ขนาด ระยะเวลาของผลไม้ที่ตนปลูกได้ทุกประเภท
 
คนดูแลสวนผลไม้ของท่านคหบดีสามารถบอกอายุ สี กลิ่น ขนาด ระยะเวลาของผลไม้ที่ตนปลูกได้ทุกประเภท
  
     “ อะไรจะขนาดนั้น ท่านพูดเกินไปรึเปล่านี่ ก็แค่สวนผลไม้ธรรมดา มีมากมายตั้งหลายสวน มันก็เหมือน ๆ กันทั้งนั้น ” “ แต่ที่สวนนี้ไม่เหมือนกับที่สวนอื่น ๆ เลยนะท่าน เพราะมีคนสวนหนุ่ม
ที่มีภูมิความรู้เชี่ยวชาญเรื่องผลไม้เป็นอย่างดี ไม่ว่าผลไม้ลูกไหนจะอยู่ที่ปลายกิ่ง หรือสูงลิบลิ่ว หรือว่าอยู่ในร่มไม้ใบบังหากสายตาเขามองเห็นแล้วละก็ เขาจะบอกได้ในทันทีเลยว่าผลไม้นั้น
อายุเท่าไหร่ รสชาติเป็นอย่างไร สีข้างในนั้นจะเป็นเช่นไร แล้วก็เหมาะแก่การบริโภคแล้วหรือไม่ ”
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำอดีตนิทาน ผลชาดก มาตรัสเล่าแก่เหล่าภิกษุสงฆ์    

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำอดีตนิทาน ผลชาดก มาตรัสเล่าแก่เหล่าภิกษุสงฆ์
 
     “ โอ้โห ช่างน่าอัศจรรย์โดยแท้ มีคนมีภูมิความรู้เชี่ยวชาญเรื่องผลไม้ขนาดนั้นเชียวรึท่าน ” เรื่องเล่าดังนี้ เมื่อสมเด็จพระพุทธองค์ทรงสดับก็มีพระกรุณาธิคุณให้ภิกษุทั้งหลาย
ตระหนักถึงการใช้ความรู้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ทรงระลึกพระชาติครั้งเก่า “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายในอดีตก็มีผู้รู้เรื่องผลไม้และนำชีวิตคนจำนวนมากรอดตายมาแล้ว ” แล้วพระองค์
ก็ทรงตรัสผลชาดก ด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณขึ้นดังนี้

นายกองหนุ่มคุมเกวียนบรรทุกสินค้าจากพาราณสีไปยังต่างถิ่น
 
นายกองหนุ่มคุมเกวียนบรรทุกสินค้าจากพาราณสีไปยังต่างถิ่น
  
     ในกาลก่อนยังซึ่งมีนายกองหนุ่มซึ่งคุมคน ๕๐๐ กองเกวียนจากนครพาราณสีบรรทุกสินค้าไปยังต่างถิ่นการจัดขบวนดูรัดกุมเข้มแข็ง ยิ่งใกล้ป่าชายแดนก็ยิ่งดูระมัดระวังตัวมากขึ้น
“ หยุดก่อนทุกคนเรียกพวกเรามาประชุมคนให้หมดก่อนที่เราจะผ่านป่านี้กันไปเถอะ เหตุที่ข้าต้องให้กองเกวียนหยุดแล้วเรียกทุกคนมาประชุมกันทั้งหมด ก็เพราะว่าป่าเขียวขจี
ที่กำลังจะผ่านเข้าไปข้างหน้านั้นเป็นป่าแห่งพิษ บางชนิดมีพิษที่ใบ บางชนิดมีพิษที่ยางในกิ่งก้าน
 
นายกองหนุ่มสั่งหยุดขบวนเกวียนเมื่อเข้าเขตป่าที่มีพิษ
 
นายกองหนุ่มสั่งหยุดขบวนเกวียนเมื่อเข้าเขตป่าที่มีพิษ
 
     หลายต้นมีพิษที่ดอกแม้เด็ดดมเข้าไปอาจหน้ามืดตามัว ถึงกับบอดได้ ข้าอยากให้พวกเราทุกคนระวังตัวกันเป็นพิเศษ อย่าแตะต้องผลไม้หรือว่าพืชใด ๆ ในป่า ให้กินแต่อาหารเสบียง
ที่เราขนมาเท่านั้น หากใครมีข้อสงสัยให้มาถามข้าได้ ” เมื่อประชุมเสร็จต่างก็พากันกลับไปประจำยังเกวียนแล้วปฏิบัติหน้าที่ของตน “ นายท่านเขาสั่งอะไรไว้อย่าลืมเสียละไอ้หนุ่ม”
“ แหมข้าไม่ได้ตะกละหรอกนะ เห็นแบบน้ข้าก็กลัวตายนะโว้ย ยิ่งนายสั่งกำชับแบบนี้ด้วย อย่าห่วงเลยน่า ”
 
นายกองหนุ่มได้ตักเตือนและบอกกล่าวถึงอันตรายซึ่งจะเกิดจากป่าที่มีพิษ
 
นายกองหนุ่มได้ตักเตือนและบอกกล่าวถึงอันตรายซึ่งจะเกิดจากป่าที่มีพิษ
 
     กองเกวียนหลายขบวนเคยผ่านเข้ามา แต่น้อยรายจะผ่านพ้นประตูป่าออกไปยังเมืองใหญ่ได้ เพราะมักเก็บกินผลไม้พิษที่จะผลิตผลมากมายออกยั่วยวนอยู่ตลอดทาง แต่กองเกวียน
ผู้มีนายกองหนุ่มผู้เฉลียวฉลาดเป็นหัวหน้าขบวนนี้ ก็สามารถฝ่าดงพิษมาได้โดยสวัสดิภาพ เพราะเขาผู้นี้ปฏิบัติตามคำสอนอันตกทอดมาของตระกูลอย่างเคร่งครัดและอบรมบริวารให้
รักษาวินัยอยู่เสมอนั่นเอง อันนิสัยปัญญาชนนั้นแม้ผ่านอุปสรรคมาได้ก็ย่อมระมัดระวังอยู่เช่นเดิม

ขบวนเกวียนได้ออกเดินทางต่อจนเลยเขตป่าที่มีพิษ
 
ขบวนเกวียนได้ออกเดินทางต่อจนเลยเขตป่าที่มีพิษ
 
     “ เอ้ ข้างหน้ามีดงมะม่วง น่าแปลกจริง หยุดกองเกวียนก่อนดีกว่า พวกเราหยุดขบวนก่อน ” เมื่อนายกองลงจากหลังม้าแล้วจึงพูดกับมันว่า “ เจ้าม้าเอ๋ย เจ้าเองก็อย่าเผลอใจ
เห็นแก่ความอยากละ จะตายไม่รู้ตัวนะ ” เมื่อขบวนหยุดนายกองก็เรียกทุกคนมาประชุมกันเหมือนทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ปกติ “ เราผ่านดงพิษใหญ่มาอย่างปลอดภัย ถึงบัดนี้
แม้เห็นป่ามะม่วงดกดื่น ล้วนเต่งตึงน่ากินก็อย่าวางใจ เพราะบริเวณนี้ใกล้หมู่บ้านมาก แล้วต้นมะม่วงก็ไม่สูงนัก แต่กลับไม่มีชาวบ้านผู้ใด หรือใครมาเก็บผลไปกิน
 
ขบวนเกวียนได้เดินทางต่อจนเข้าใกล้เขตหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยสวนมะม่วง
 
ขบวนเกวียนได้เดินทางต่อจนเข้าใกล้เขตหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยสวนมะม่วง
 
     ปล่อยไว้จนดกดื่นแบบนี้ น่าสงสัย ถึงมันจะมีผิวเกลี้ยงเกลาเต่งตึงใกล้สุกน่ากินสักเพียงไรก็ตาม หากไม่จำเป็นอย่าเข้าใกล้มะม่วงทุกต้น แล้วอย่านำผลมันมากินอย่างเด็ดขาด ”
“ อูย น่าหม่ำจัง นี่ถ้านายไม่สั่งไว้ละก็ น่าดูเชียวละ ” “ ใช่ ๆ ๆ ข้าจะเด็ดมาทำมะม่วงน้ำปลาหวาน พูดแล้วก็อยากกินจริง ๆ เลย น่ากินมาก ” “ เฮ้ย ๆ ๆ ๆ อย่านะโว้ย นายสั่งห้าม
แบบนี้แล้วอย่าได้ฝ่าฝืนกินเชียว ”
 
นายกองหนุ่มได้เตือนขบวนเกวียนอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงสวนมะม่วงที่มีพิษ
 
นายกองหนุ่มได้เตือนขบวนเกวียนอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงสวนมะม่วงที่มีพิษ
 
     “ เอาน่าพวกข้าก็แค่พูดไปเท่านั้นแหละ ไม่ได้คิดจะเด็ดมากินจริง ๆ ซะหน่อย ” “ แต่ข้าว่านะ ไม่น่าจะมีพิษในมะม่วงอีกหรอก ก็พวกเราผ่านดงไม้มีพิษกันมาแล้วนี่น่า ” “ คำสั่งของนาย
คือคำขาดนะโว้ย อย่าได้คิดแตะเชียว ” แต่คนหมู่มากย่อมมีความแตกต่างกันเป็นธรรมดา “ สบโอกาสข้าล่ะ ขอสักผลแล้วกัน อดใจไม่ไหวแล้วโว้ย เดินมาตั้งไกล หิวจะตายอยู่แล้ว ”
“ เฮ้ยอย่าเชียวนะ เห็นผิวมันสวยๆ เนียนอย่างนี้ก็เถอะ อาจตายได้นะไอ้หนุ่ม ”

สวนมะม่วงมีผลมากมายดกดื่นเต็มต้นแต่ไม่มีร่องรอยของการเก็บเกี่ยว
 
สวนมะม่วงมีผลมากมายดกดื่นเต็มต้นแต่ไม่มีร่องรอยของการเก็บเกี่ยว
 
     “ แหม ๆ ๆ ๆ อย่ามาอิจฉาข้าหน่อยเลยน่า ขอร้อง เต่ง ๆ ตึง ๆ แบบนี้ รสชาติหอม หวานมันอร่อยแน่ ไม่เชื่อเดี๋ยวข้าจะกินให้ดู ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” ทันที่ที่นายตะกละ กลืนมะม่วงลงคอ
ความหวานมันที่กลางลิ้นก็กลายเป็นกรดพิษทะลวงลงช่องท้อง ถึงกับร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ทรมาน ล้มลงชักดิ้นชักงออย่างน่าตกใจ “ โอ๊ะ ตายแล้วช่วยด้วย ช่วยด้วย ”
 
ผู้ร่วมขบวนเกวียนต่างตื่นตาตื่นใจกับผลมะม่วงที่มีมากมายและน่ารับประทานยิ่งนัก
 
 
ผู้ร่วมขบวนเกวียนต่างตื่นตาตื่นใจกับผลมะม่วงที่มีมากมายและน่ารับประทานยิ่งนัก
 
      “ เฮ้ย ใครก็ได้รีบไปเอายาล้างพิษจากนายกองมาเร็ว ” แต่เดชะบุญโชคยังเข้าข้างที่นายกองเกวียนเอายาล้างพิษมากรอกปากนายตะกละได้ทันเวลา “ นั่นไงล่ะ ข้าเตือนเอ็งแล้ว
ก็ไม่เชื่อ ถ้านายกองมาไม่ทันละก็ เอ็งได้ไปหายมบาลแน่ ๆ เตือนแล้วก็ไม้ฟัง ” “ เห็นโทษของการไม่ยับยั้งชั่งใจหรือยัง
 
บุรุษหนุ่มผู้ตะกละอดใจไม่ไหวได้เก็บมะม่วงโดยที่ไม่สนใจคำเตือนของนายกองเกวียน
 
บุรุษหนุ่มผู้ตะกละอดใจไม่ไหวได้เก็บมะม่วงโดยที่ไม่สนใจคำเตือนของนายกองเกวียน
 
     จำไว้เถอะว่า ไม่มีสิ่งสวยงามใดไร้พิษเจือปนอยู่ ต่อไปจงอย่าได้ประมาทอีก ” “ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านนายกอง ต่อไปนี้ ข้าจะไม่ขัดคำสั่งนายกองอีกแล้ว ” ชาวขบวนเกวียนตกใจ
กับมะม่วงพิษไม่ทันหาย หน่วยคุ้มครองก็แจ้งข่าวใหม่ให้ตื่นเต้นกันอีก “ ท่านนายกอง ท่านนายกอง พวกเราจับชาวบ้านได้ 2 คน เป็นพวกฉกชิงทรัพย์ที่ทำอยู่เป็นนิจเลยล่ะ
 
บุรุษหนุ่มผู้ตะกละได้กัดกินผลมะม่วงด้วยความหิวกระหาย
 
บุรุษหนุ่มผู้ตะกละได้กัดกินผลมะม่วงด้วยความหิวกระหาย
 
      ในดงมะม่วงมีพิษแห่งนี้นี่แหละ จะให้ข้าจัดการกับพวกชาวบ้านเยี่ยงไรดีท่านนายกอง ” “ เมื่อนายกองเห็นชาวบ้านทั้งสองก็ต้องแปลกใจ เพราะชาวบ้านทั้งสองนั้น แต่งกาย
เกินฐานะโจรฉกชิงทรัพย์ทั่วไป จึงคาดคั่นเอาความจริง จนโจรทั้งสองยอมรับสารภาพ ” “ พวกเราเอามะม่วงพิษนี้มาขยายพันธ์ุไว้เองล่ะ ”
 
พิษของมะม่วงส่งผลทันทีที่มะม่วงผ่านลงถึงท้องของบุรุษผู้ตะกละ
 
พิษของมะม่วงส่งผลทันทีที่มะม่วงผ่านลงถึงท้องของบุรุษผู้ตะกละ
 
      “ ใครผ่านมาถึงฤดูของมันก็มักจะเก็บกิน แล้วก็มักจะไม่มีคนรอด พวกเราไม่ได้ฆ่า มันก็ตายทุกรายแล้ว ” “ ใช่ ไม่มีใครทนต่อ รูป รส กลิ่น สีได้เลยสักราย พวกเราแค่ มาเฝ้าดู
จนทุกคนตายสนิทเท่านั้น ” “ พวกเราก็แค่ดูทุกคนตายอย่างช้า ๆ แล้วก็ค่อยชวนกันมาเก็บทรัพย์กลับไปที่หมู่บ้านของเราก็แค่นั้นเอง ”
 
บุรุษหนุ่มผู้ตะกละรอดชีวิตได้เพราะยาล้างพิษของนายกองเกวียน
 
บุรุษหนุ่มผู้ตะกละรอดชีวิตได้เพราะยาล้างพิษของนายกองเกวียน
 
    “ แต่พวกเราไม่ได้เอาไปเปล่า ๆ นะท่าน พวกเราก็มีตอบแทนด้วยการฝั่งศพในดงมะม่วงให้นะ ใจบุญนะเนี่ย ” “ หมู่บ้านของเราก็อาศัยทรัพย์ที่หาได้แบบนี้ สุขสบายกัน
มากมานานแล้ว แล้วก็ไม่เคยมีใครรอด เพิ่งจะรอดก็ครั้งนี้นี่แหละ ”
 
หน่วยคุ้มครองแจ้งข่าวกับนายกองเกวียนว่าจับโจรฉกทรัพย์ได้ 2 คน
 
หน่วยคุ้มครองแจ้งข่าวกับนายกองเกวียนว่าจับโจรฉกทรัพย์ได้ 2 คน
 
      “ ว่าแต่ท่านเถอะ รู้ได้ไงว่ามะม่วงนี้มีพิษกินไม่ได้ ” “ เพราะว่าแถวนี้ใกล้หมู่บ้าน แล้วยังต้นมะม่วงนี้ก็ไม่ได้สูงอะไร แล้วยังมีลูกดก โดยที่พวกท่านไม่ได้เก็บเลย แสดงว่า
ต้องมีพิษแน่ ๆ ” จบการบอกเล่า นายกองเกวียน ก็ยกธรรมะข้อเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นมาอธิบาย
 
โจรฉกทรัพย์ได้สารภาพว่าพวกตนได้นำมะม่วงมีพิษมาปลูกไว้ตามแนวชายป่าใกล้หมู่บ้าน
 
โจรฉกทรัพย์ได้สารภาพว่าพวกตนได้นำมะม่วงมีพิษมาปลูกไว้ตามแนวชายป่าใกล้หมู่บ้าน
 
     อีกทั้งให้ปวารนารับศีลของคฤหัสถ์ไปปฏิบัติแลกกับอิสระภาพ “ หากเราไร้ศีลสัตย์เช่นเจ้า ป่านนี้ก็คงต้องตายด้วยดาบไปแล้ว ฉะนั้นพวกเจ้าจงปฏิบัติรักษาศีลให้จงดี ”
“ พวกเราสำนึกผิดแล้ว ต่อไปพวกเราจะไม่ทำอย่างนี้อีก ขอท่านจงวางใจ ”
 
โจรฉกทรัพย์จะนำสินค้าเงินทองไปเป็นของตนเองหลังจากชาวขบวนเกวียนตายจากไปแล้ว
 
โจรฉกทรัพย์จะนำสินค้าเงินทองไปเป็นของตนเองหลังจากชาวขบวนเกวียนตายจากไปแล้ว
 
      สติปัญญาและประสบการณ์อันดีของผู้นำนั้น เมื่อได้รวมกันเข้ากับน้ำใจอันกว้างขวางแล้ว ย่อมสร้างกุศลกรรมไว้ได้กับแผ่นดินทุกขณะดั่งเช่นเหตุการณ์นี้ ต่อแต่นั้นมา
ชายแดนพาราณสีก็ไม่มีผลไม้พิษคร่าชีวิตชาวขบวนเกวียนใด ๆ อีกเลย พวกมันถูกโค่นทำลายหมดสิ้น 
 
นายกองเกวียนได้ยกธรรมะมาสอนโจรฉกทรัพย์แล้วก็ให้ปวารานารับศีลของคฤหัสถ์
 
นายกองเกวียนได้ยกธรรมะมาสอนโจรฉกทรัพย์แล้วก็ให้ปวารานารับศีลของคฤหัสถ์
 
     ชาวบ้านใจบาปล้วนหันมาประกอบสัมมาชีพกันถ้วนหน้า บางทีกองเกวียนสินค้าบางขบวนก็อาจเป็นพวกเขาบ้างก็เป็นได้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงตรัสผลชาดกเสร็จ ก็ให้พระคาถาประจำชาดกว่า 
 
โจรฉกทรัพย์ถูกปล่อยตัวกลับไปยังหมู่บ้านหลังจากที่สำนึกผิดในการกระทำของพวกตน
 
 โจรฉกทรัพย์ถูกปล่อยตัวกลับไปยังหมู่บ้านหลังจากที่สำนึกผิดในการกระทำของพวกตน
 
 
บริวารในกองเกวียน ได้กำเนิดเป็น พุทธบริษัท
ส่วนหนุ่มนายกองเกวียน เสวยพระชาติ เป็นเราตถาคตฉะนี้แล
 
นายํ รุกฺโขทุรารุโห นปิคามโตอารกา
อาการเกน ชานามิ นายํ สาธุผโล ทุโม
ต้นไม้นี้คนขึ้นไม่ยาก ทั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน
เป็นการบอกให้เรารู้ว่า ต้นไม้นี้ มิใช่ต้นดี
 

รับชมคลิปวิดีโอ
ชมวิดีโอ   Download ธรรมะ
 
 




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ