ชาดก 500 ชาติ
โรมชาดก-ชาดกว่าด้วยอาชีวกเจ้าเล่ห์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ แคว้นมคธในพุทธกาลสมัยนั้น มีเรื่องราวหลากหลายเกิดขึ้น และมีผลกรรมเกี่ยวต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาต่างกรรมต่างวาระกัน การแตกแยกของหมู่สงฆ์อันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่เกิดขึ้นในแคว้นมคธ ซึ่งนับเป็นกรรม เป็นวิบากกรรมของพระเทวทัตที่ตามจองเวรต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความร้าวฉานในหมู่สงฆ์ครั้งนั้นได้จบลงโดยง่ายด้วยพระพุทธบารมี และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของพุทธวินัย ข้อสามัคคีอีกหลายข้อธรรมเหล่าภิกษุสงฆ์ได้สนทนากันถึงเรื่องของพระเทวทัตแล้วเหตุอันเกิดจากกิเลสของพระเทวทัตในครั้งนี้ก็กลายเป็นบทสนทนาของสงฆ์กระสาวกอยู่เป็นนิจ “เป็นเรื่องที่น่าอายจริงๆ พระเทวทัตเป็นผู้ที่ออกบวชเป็นเพศบรรพชิตแล้วแท้ๆ แต่กลับมีกิเลส มีแต่ความมุ่งร้ายอาฆาต” “เสียดายแท้ๆ ที่พระธรรมไม่สามารถขับกล่อมจิตใจเขาได้”เรื่องราวนั้นเกิดแต่จิตมักใหญ่ใฝ่สูงของมนุษย์สองคนพระเทวทัตยุยงให้พระเจ้าอชาตศัตรูทำปิตุฆาตพระเจ้าพิมพิสารหนึ่ง คือพระเทวทัต ผู้ริษยาพระพุทธเจ้า สอง คือ พระเจ้าอชาตศัตรูราชบุตรผู้โค่นบัลลังก์ทำปิตุฆาตพระบิดาพิมพิสาร “ถ้าท่านอยากเป็นใหญ่ในแผ่นดินท่านก็ต้องล้มพระเจ้าพิมพิสารให้ได้เสียก่อน” “กระผมจะทำอย่างที่ท่านแนะนำ เมื่อกระผมได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ก็จะช่วยให้ท่านได้สิ่งที่ท่านต้องการบ้างเช่นกัน”การล่วงกรรมมหานรกที่ชาวพุทธรู้โดยทั่วกัน นั่นคือครั้งที่พระเทวทัตเถระ สั่งนายคชบาลปล่อยช้างนาฬาคิรี ซึ่งกำลังตกมันดุร้ายหมายกระทำพุทธประหารช้างนาฬาคิรีถูกปล่อยในขณะตกมันเพื่อให้กระทำการพุทธประหารองค์พระศาสดาในขณะที่พระพุทธองค์เสด็จทรงบาตรนำหน้าหมู่สงฆ์ “รอก่อนเจ้าช้างเอ๋ย เดี๋ยวเจ้าจะได้อาละวาดสมใจแน่ รอให้เสด็จเข้ามาใกล้อีกนิดเถอะ ฮ่าๆๆ”แผนร้ายครั้งนั้นไม่สำเร็จ ไม่สามารถทำอะไรพระศาสดาได้ แม้พระพุทธอนุชาอานนท์ยอมสละชีวิตออกขวางไว้ แต่ด้วยกระแสบารมีของพระทศพลเตเจ้าได้หยุดการเคลื่อนไหวของช้างนั้นไว้ก่อนแล้วพระเทวทัตกลิ้งหินให้ตกใส่องค์พระศาสดาหมายจะปลงพระชนม์“เฮ้ยเบรก เบรกเกือบไม่ทัน ใครนะช่างใจร้ายจริงหวังใช้เราเป็นเครื่องมือ เวรกรรมแท้ๆ เลย” บาปอันอเนกอนันต์ประการใหญ่ที่พระเทวทัตได้กระทำก็คือการกลิ้งหินให้ตกใส่พระพุทธเจ้า แม้การประสงค์ร้ายครั้งนั้น จะมิสามารถปลงพระชนม์องค์พระศาสดาอย่างที่พระเทวทัตได้ตั้งใจก็ตาม แต่ก็ทำให้พระบาทของพระองค์ทรงห้อเลือด ด้วยสะเก็ดคมหินที่ตกลงมาแตกกระจายพระศาสดาทรงตรัสเล่า โรมชาดก ตามคำอาราธนาของเหล่าภิกษุสงฆ์“ฮึบๆ โอ๊ย หนักจริงๆ กลิ้งไปเลยเจ้าหิน เอาให้โดนเลยนะ” ผลของมหาบาปครั้งนั้น ทำให้เถระผู้เกิดมาจองบาปพระพุทธเจ้าได้ถูกธรณีสูบลงไปใต้โลกันตนรกซึ่งบัดนี้อาจจะยังต้องชดใช้กรรมอยู่ในสารรูปชีวิตใดชีวิตหนึ่ง อยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่งเป็นได้ “ช่วยด้วยๆๆ โอ๊ยๆๆใครก็ได้ช่วยดึงเราขึ้นไปที ช่วยด้วย”ชายเขตแดนป่าหิมพานต์ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของฝูงนกพิราบจนเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จจากกรุงราชคฤห์ มาประทับยังพระเชตวันมหาวิหารแคว้นโกศล เมื่อทรงปรารภความพยายามปลงพระชนม์ของพระเทวทัตขึ้นในวันหนึ่ง เหล่าภิกษุทั้งหลายต่างใคร่รู่นัยแห่งพระคาถานั้น จึงพากันอาราธนาให้ทรงเล่าอดีตนั้นพญานกพิราบผู้นำบริวารหากินอยู่รอบบรรพตครั้งที่ทรงเสวยพระชาติเป็นนกพิราบ ซึ่งครั้งนั้นพระองค์ทรงตรัสเล่า โรมชาดกขึ้นดังนี้ ลึกเข้าไปในชายเขตหิมพานต์ นอกเขตปัจจันตคามแห่งหนึ่ง ที่นั่นเป็นที่สับปายะสงบเย็นควรแก่การบำเพ็ญศีลภาวนาอย่างยิ่ง ณ ที่แห่งนี้ยังมีนกพิราบใหญ่ตัวหนึ่ง นำบริวารเที่ยวหากินอยู่รอบบรรพต พญานกพิราบมักแวะเวียนมายังที่แห่งหนึ่งริมบรรพตนี้เป็นประจำพญานกพิราบจะมาหาท่านดาบสที่อาศรมเป็นประจำ“มาแล้ว ที่เก่าเวลาเดิม ชอบมาที่นี่จริงๆ เลย มาแล้วจิตใจสงบ สบายใจ”การที่นกพิราบนี้มาที่นี่เป็นประจำ เหตุเพราะมีดาบสมีศีลท่านหนึ่ง ปลูกอาศรมบำเพ็ญเพียรอยู่ที่นั่น “มาแล้วรึ เจ้าพิราบน้อย มามะ วันนี้เราจะเทศนาธรรมให้เจ้าฟังอย่างเคย การฟังธรรมจะทำให้จิตใจของเจ้าสงบเยือกเย็น เมื่อละจากโลกนี่ไปย่อมสู่พรหมโลก”“เชิญท่านดาบสเทศนาธรรมเถิด ข้ารอฟังอยู่”พญานกพิราบมาฟังธรรมะจากพระดาบสทุกวันฤดูกาลผ่านเวียนไปแต่ละปี พญานกพิราบ ก็มิได้เบื่อหน่ายที่จะมาคอยฟังสิ่งอันเป็นมงคล และสดับรสพระคาถาจากคัมภีร์ที่พระดาบสชรามักแสดงให้ฟัง “โอ้ วันนี้แสดงธรรมเรื่องบาปบุญคุณโทษหรือนี่ น่าฟังๆ” เมื่อพ้นวสันต์ฤดูในปีหนึ่ง มีชฎิลอันเป็นนักบวชพเนจรมาจากที่ใดสักแห่งเข้ามาอาศัยอยู่ใกล้อาศรมพระดาบสชฎิลพเนจรได้มาขอพักอาศัยกับพระดาบส“ที่นี่น่าอยู่จริงๆ ร่มเย็นดาบสแก่นั่นคงไม่หวงที่เท่าไหร่นักหรอก เอาล่ะ เราจะตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี้แหละ” “เฮ้อ รู้สึกถึงแรงอกุศลยังไงไม่รู้สิ ที่นี่คงไม่สงบเหมือนเคยอีกแล้ว” มินานวันดาบสชราก็ออกจากอาศรมทำธุดงควัตร จากไปหาความสงบในป่าอื่น“หึๆๆๆ ในที่สุดอาศรมนี้ก็เป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว อย่ากลับมาขอเอาคืนก็แล้วกัน ไปแล้วไปเลยนะ ฮ่ะๆ ฮ่าๆๆ”
พระดาบสออกจากอาศรมเพื่อไปหาที่บำเพ็ญภาวนาที่ใหม่“เราไปดีกว่า ที่แห่งนี้ไม่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมอีกแล้ว” ชฎิลผู้มาใหม่เมื่อได้ครอบครองอาศรมเพราะดาบสทิ้งไว้ให้ ก็ทำความสะอาดกวาดถูและตกแต่งใหม่“เอาล่ะ ต้องตกแต่งใหม่ซะหน่อย เอาให้มันดูมีสง่าราศีซะหน่อย เหมาะกันคนอย่างเรา เจ้าดาบสแก่นั่นไม่มีหัวศิลปะเอาซะเลย ราบเรียบน่าเบื่อ ทนอยู่ได้ยังไงก็ไม่รู้”ชฎิลทำการปรับปรุงตกแต่งอาศรมใหม่หลังจากที่พระดาบสย้ายออกไปแล้วนับแต่วันนั้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในอาศรมก็คือ การไม่มีเสียงแห่งความเมตตาและการสาธยายมนต์ ไม่มีการพร่ำสอนธรรมะเหมือนท่านดาบสเคยกระทำ“มาแล้วจ้า พิราบน้อยเจ้าเก่ามาอีกแล้ว วันนี้แปลกๆ ทำไมไม่มีเสียงธรรมอย่างเคย ท่านดาบสไปไหนนะ” “หิวๆๆ ไม่มีสมาธิ(Meditation)เลยเรา หาอะไรกินสักหน่อยแล้วก็งีบดีกว่า สบายกว่ากันเยอะ”ชฎิลผู้มาใหม่ไม่ได้สนใจการมาของพญานกพิราบอาศรมที่เคยสงบร่มเย็นก็กลับกลายเป็นที่วุ่นวาย เนื่องด้วยมีชาวชนบทแวะเวียนมากระทำคารวะผู้มาอยู่ใหม่ ด้วยเข้าใจว่าเป็นผู้ที่น่าเคารพนับถือ วันหนึ่งชฎิลผู้มาอยู่ใหม่ได้ลิ้มรสเนื้อสัตว์ปีกที่ชาวบ้านนำมาถวายก็ติดใจ “อึม หวานกรอบอร่อย เค็มๆ มันๆ เอ้ นี่มันเนื้ออะไรกัน” “อร่อยใช่มั๊ยละท่าน นี่คือเนื้อนกพิราบขอรับถ้าท่านชอบผมจะหามาให้ท่านทานอีก รอบอาศรมก็เห็นมีอยู่หลายตัว หาไม่ยากหรอกครับ เยอะแยะ”ชฎิลติดใจรสชาติอาหารที่ทำจากเนื้อนกพิราบนับแต่วันที่ได้กินเนื้อนกพิราบ ชฎิลก็เกิดกิเลสอยากกินซ้ำอยู่ร่ำไป “เฮ้ย เจ้านกพวกนี้ มาเลยมาเลยๆ บินกันมาเยอะๆ เนื้อพวกเจ้านี่มันอร่อยดีนะ รอให้ข้าคิดหาวิธีจับพวกเจ้าให้ได้ก่อนเถอะ นึกแล้วเปรี้ยวปาก” “เมื่อไหร่จะแสดงธรรมอีกสักทีละท่าน แวะมาฟังหลายทีแล้วนะ แน่ะว่าแล้วยังมองมาแปลกๆ อีก
ชฎิลเริ่มมีความคิดที่จะจับนกพิราบมาทำเป็นอาหารเฮ้ย เสียวสันหลังพิกล”ชฎิลใจคดวางอุบายใช้เมล็ดถั่วคลุกเคล้าเนย ไปวางล่อนกไว้ใกล้ๆ กับอาสนะที่ตนนั่งภาวนา “หึ ๆ เจ้าพิราบเอ๋ย มากินเร้ว มากินเร็วถั่วหอมๆ อร่อยๆ มามะ ข้าหิวแล้ว มากินเร็วๆ ข้าจะได้กินเจ้าบ้าง” ชฎิลใจร้ายวางกับดักล่อนกไว้เสร็จแล้ว ก็แสร้งนั่งนิ่งถือไม้ท่อนใหญ่รอจังหวะอยู่ เมื่อชฎิลคิดชั่ว กลิ่นหอมของนักบวชก็สลายไปชฎิลใช้ถั่วคลุกกับเนยวางหลอกล่อให้ฝูงนกพิราบมากินพญานกพิราบสัมผัสได้ถึงสัญญาณความชั่วร้ายนั้น“โอ้ อันตรายจะเกิดขึ้นแก่เราและบริวารแน่แล้ว เราสัมผัสได้แห่งจิตที่เป็นอกุศลนั้น” พญานกพิราบเมื่อรู้ว่าเหตุร้ายจะเกิดขึ้นแก่พวกพ้องของตน จึงไม่รอช้ารีบเรียกบริวารให้มาประชุม แจ้งถึงรหัสอันตรายนั้น “พวกท่านจงฟังเราเถิด อาศรมนั้นไม่ใช่ที่ปลอดภัยอีกแล้ว พวกเราหนีไปเถอะ ไปอยู่ในที่ที่สงบ ณ ที่อื่น ที่แห่งนี้จะมีอันตรายแก่ชีวิตพวกเรา”พญานกพิราบเห็นการกระทำของชฎิลและรับรู้ถึงภัยที่จะมาถึงพวกของตนเมื่อฝูงนกจากไปจนหมด ชฎิลผู้ติดใจในรดชาตินกพิราบก็ไม่อาจแสร้งอยู่นิ่งเฉยได้ “นกพวกนี้ หายหัวไปไหนกันหมด โอ๊ย หิวโว้ย หิวสุดๆ อยากกินเนื้อนกพิราบเจ้านกพิราบเอ๋ยมาเร็วๆ เถิด มามะๆๆ มากินถั่วเร็วๆ ไม่ใช่ถั่งธรรมดานะ นี่เป็นถั่วอบเนยซะด้วย มาเร็วๆ มากินกันเถิด”พญานกพิราบได้เตือนภัยให้พวกของตนย้ายไปอยู่ที่อื่นหยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าคนชั่ว หยุดเรียกบริวารของเรามาเป็นเหยื่อของเจ้าเสียทีพวกเรารู้ว่าเจ้าเป็นพวกทุศีลขาดธรรมะ จึงพากันหนีไปหมดแล้ว แผนร้ายของเจ้าไม่ได้ผลหรอก” “แหม เจ้านกพิราบน้อย ใครกันผู้ทุศีล เจ้าเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว เราน่ะ มีน้ำจิตน้ำใจกับพวกเจ้าโดยแท้จริง ดูนี่สิ เมล็ดถั่วหวานกรอบพญานกพิราบได้ห้ามให้ชฎิลหยุดทำร้ายพวกของตนเราตั้งใจเอามาให้พวกเจ้ากินกันนะ ไม่เชื่อก็บินเข้ามาใกล้ๆ สิ ลองชิมถั่วนี่ดูสักครั้ง แล้วเจ้าก็จะติดใจ มามะ”“ชิ หยุดพูดเสียทีเถอะ ข้าเหม็นน้ำลายเจ้านกทุกตัวและสัตว์น้อยใหญ่ในหิมวันต์ จะรู้ว่าเจ้าเป็นผู้หยาบช้า จะไม่มีใครนับถือเจ้าอีก” “เฮ้ย ปากดีนักเรอะ ขอข้ากิน เนื้อเจ้าให้อิ่มก่อนเถอะชฎิลใช้ท่อนไม้ทำร้ายนกพิราบแหม มาว่าเราฉอดๆๆๆๆ ตายซะเถอะ” ชฎิลเหวี่ยงท่อนไม้หมายร่างพญานกพิราบ แต่พลาดโดนจานถั่วแตกกระจาย “จะฆ่าเราเรอะ ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ”พญานกถอยออกห่างจนปลอดภัย “เราจะเปิดโปงความชั่วของเจ้าให้คนอื่นๆ รู้ เราจะไปโพนทะนาบอกทั้งสัตว์และมนุษย์ ว่าเจ้านะ ขาดศีล สิ้นธรรมจงออกไปเสียจากนิคมชนบทแห่งนี้เสีย ก่อนที่จะมีภัยเกิดขึ้นกับเจ้า ไปซะ”นกพิราบได้ขู่ชฎิลว่าจะเปิดโปงความชั่วร้ายที่ชฎิลทำไว้ให้ชาวบ้านได้รับรู้“เห้ย เจ้านกตัวร้ายกาจจริงๆ” การมาของคนไร้ศีลธรรมหลงใหลแต่กิเลสย่อมทำความเดือดร้อนมาสู่ทุกสถานที่ การจากไปของคนประเภทนี้ ก็ไม่เคยมีใครอาลัยห่วงหาเช่นกัน “ไปก็ได้ เชอะ ที่อื่นคงมีเนื้อนกพิราบให้เราได้กินบ้าง”ชฎิลจำยอมต้องย้ายออกจากอาศรมเพื่อไปหาที่อยู่ใหม่ในพุทธกาลสมัยพระดาบสผู้มีศีล กำเนิดเป็นพระสารีบุตรชฎิลผู้คดโกง กำเนิดเป็นพระเทวทัตเหล่านกพิราบป่า กำเนิดเป็นพุทธบริษัททั้งหลายพญานกพิราบ เสวยพระชาติเป็นพระพุทธเจ้า
โรมชาดก ชาดกว่าด้วยว่าด้วยอาชีวกเจ้าเล่ห์
ในพุทธกาลสมัยนั้น มีเรื่องราวหลากหลายเกิดขึ้น และมีผลกรรมเกี่ยวต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาต่างกรรมต่างวาระกัน การแตกแยกของหมู่สงฆ์อันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่เกิดขึ้นในแคว้นมคธ ซึ่งนับเป็นกรรม เป็นวิบากกรรมของพระเทวทัตที่ตามจองเวรต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า https://dmc.tv/a22075
บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ[ 8 ธ.ค. 2559 ] - [ ผู้อ่าน : 18278 ]
บทความอื่นๆ ในหมวด
ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่งเกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ