ศ​.​นพ​.​ประกิต​ ​วาทีสาธกกิจ​ ​เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์​เพื่อการ​ไม่​สูบบุหรี่​ ​เปิดเผยรายงานการวิจัย​จาก​ประ​เทศสกอตแลนด์​ ​ซึ่ง​ตีพิมพ์ผ่านวารสารการแพทย์ชื่อดังนิวอิงแลนด์​เจอร์นัล​ ​ฉบับ​วันที่​ 31 ​ก​.​ค​.​ที่ผ่านมาว่า ​จำ​นวน​ผู้​ป่วยที่รับ​เข้า​รักษา​ใน​โรงพยาบาล​ด้วย​โรคหัวใจฉุกเฉินช่วง​ 10 ​เดือน​ ​ลดลงร้อยละ​ 17  หลังการบังคับ​ใช้​กฎหมายห้ามสูบบุหรี่​ใน​สถานที่สาธารณะ​และ​ที่ทำ​งานทุกแห่ง​  เมื่อเทียบ​กับ​จำ​นวน​ผู้​ป่วย​ใน​ช่วงเวลา​เดียว​กัน​ก่อนกฎหมายบังคับ​ใช้​    ทั้ง​นี้​ ​หลักฐานการวิจัยพบว่า การ​ได้​รับควันบุหรี่มือสองแม้​ใน​ระยะ​เวลาสั้น​ ​ๆ​ ​สามารถ​ส่งผลเสียต่อระบบหัวใจ​และ​หลอดเลือด​ได้​ ​โดย​ทำ​ให้​เกล็ดเลือดเกาะตัว​กัน​ง่ายขึ้น​ ​ผนังเส้นเลือดเกิดการอักเสบ​ ​เลือดไปเลี้ยงหัวใจลดลง​ ​การเปลี่ยนแปลงของการเต้นของหัวใจลดลง​  โดย​ทั้ง​หมดนำ​ไปสู่การป่วย​ด้วย​โรคหัวใจฉุกเฉิน​ได้
เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์​เพื่อการ​ไม่​สูบบุหรี่​ ​กล่าวต่อว่า​  ผลวิจัย​ ​ยัง​ระบุต่อว่า​ ​คน​ไม่​สูบบุหรี่ที่​ได้​รับควันบุหรี่มือสอง​ใน​ที่ทำ​งาน​หรือ​ที่บ้าน​ ​เพิ่ม​ความ​เสี่ยงเกิดโรคหัวใจขึ้นร้อยละ​ 20-30
สำ​หรับประ​เทศไทยมี​เวลา​ถึง​วันที่​ 8 ​พ​.​ย​.​ปีหน้า​ ​ที่​จะ​ต้อง​ทำ​ให้​สถานที่สาธารณะ​และ​ที่ทำ​งานทุกแห่งปลอดบุหรี่​ 100 ​เปอร์​เซ็นต์​ ​ตามพันธกรณีที่ประ​เทศภาคีอนุสัญญาควบคุมยาสูบ​จะ​ต้อง​ปฏิบัติ​ 
อย่างไรก็ตาม​ ​ศ​.​นพ​.​ประกิต​ ​กล่าวเรียกร้อง​ให้​คนไทยทุกคน​ช่วย​กัน​สอดส่อง​และ​ผลักดัน​ให้​สถานที่สาธารณะ​และ​
ที่ทำ​งานที่ตัวเองเกี่ยวข้อง​เป็น​เขตปลอดบุหรี่​ ​หาก​ต้อง​การสติกเกอร์​หรือ​สัญลักษณ์ห้ามสูบบุหรี่​สามารถ​ขอ​ได้​ที่มูลนิธิรณรงค์​เพื่อการ​ไม่​สูบบุหรี่​ ​โทร​.0-2278-1828
 
 
ที่มา-
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง