มลรัฐชิคาโก: ความโกรธและอารมณ์ที่รุนแรงอื่นๆ
สามารถจุดชนวนปัญหาการเต้นของหัวใจผิดปกติได้อย่างมากในบุคคลที่อ่อนแอ
กลุ่มนักวิจัยชาวอเมริกันกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
งานวิจัยก่อนหน้านี้หลายชิ้นได้แสดงให้เห็นว่า
เหตุการณ์แผ่นดินไหว สงคราม
หรือแม้กระทั่งการที่ทีมฟุตบอลที่ตนชื่นชอบแพ้ในการแข่งขัน
สามารถเพิ่มอัตราการเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันในผู้ที่เป็นโรคหัวใจได้ ซึ่งมันไปทำให้หัวใจหยุดสูบฉีดโลหิต
“มีการแสดงผลที่แน่นอนในหลากหลายรูปแบบว่า
ถ้าเราเอาประชาชนทั้งหมดให้ไปอยู่ภายใต้เครื่องกระตุ้นความเครียด (Stressor) การเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันของประชาชนจะเพิ่มสูงขึ้น” ดร. Rechel
Lampert จากมหาวิทยาลัยเยล ในเมืองนิวเฮเวน มลรัฐคอนเน็ทติกัล
ผู้ซึ่งมีผลงานวิจัยปรากฎในนิตยสาร The Journal of the American College of
Cardiology กล่าว “การศึกษาของเราเริ่มที่จะมองไปที่ว่าสถานการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อระบบคลื่นไฟฟ้าของหัวใจอย่างไร”
Lampert กล่าว
ดร. Rachel และเพื่อนร่วมงานได้ทำการศึกษาคนไข้โรคหัวใจจำนวน
62 คน ที่ใช้การกระตุ้นหัวใจด้วยเครื่องช็อคไฟฟ้า หรือ ICD ซึ่งสามารถตรวจจับจังหวะการเต้นของหัวใจในแบบที่เป็นอันตราย
หรือที่เรียกว่าarrhythmias ได้ และสามารถส่งคลื่นการช็อคไฟฟ้าเข้าไปแก้ไขให้จังหวะการเต้นของหัวใจกลับมาตามปกติได้
“ทางเรารู้ดีอยู่แล้วว่า คนเหล่านี้มีความอ่อนแอในเรื่องจังหวะการเต้นของหัวใจ
หรือที่เรียกว่า arrhythmia” Lampert กล่าวในตอนหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
ผู้ป่วยที่เข้าร่วมในการวิจัยครั้งนี้จะต้องทำแบบสอบถามที่ขอให้พวกเขาทบทวนเหตุการณ์ที่ทำให้โกรธครั้งล่าสุดที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกันทางทีมงานของ Lampert ก็ทำการทดสอบที่เรียกว่า T-Wave
Alternans กับคนไข้เหล่านี้ไปด้วย การทดสอบ T-Wave Alternans
นี้เป็นการวัดคลื่นไฟฟ้าที่ไม่มีเสถียรภาพในหัวใจ
Lampert กล่าวว่า
ทางทีมงานของเราได้ถามคำถามผู้ป่วยที่เข้าร่วมโครงการในแบบเจาะจง เพื่อให้พวกเขาหวนคิดถึงเรื่องความโกรธที่ผ่านมา
“เราพบในห้อง lab ว่า ใช่เลย
ที่ความโกรธได้เพิ่มความไม่มีเสถียรภาพของคลื่นไฟฟ้าในผู้ป่วยเหล่านี้” เธอกล่าว
ขั้นต่อไปก็คือ ทีมงานได้ติดตามผู้ป่วยเหล่านี้ต่อไปอีกเป็นเวลา
3 ปี เพื่อที่จะดูว่า ผู้ป่วยคนไหนบ้างที่หลังจากนี้แล้วมีอาการของโรคหัวใจปรากฎขึ้นและจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นหัวใจด้วยเครื่องช็อคไฟฟ้า
“ในการติดตามผลพบว่า คนที่มีคลื่นไฟฟ้าขาดเสถียรภาพอันเนื่องมาจากความโกรธอยู่ในตัวมีแนวโน้มว่า
จะมีจังหวะการเต้นของหัวใจในลักษณะที่เป็นอันตราย สูงกว่าคนทั่วไปถึง 10 เท่า”
เธอกล่าว
Lampert ยังกล่าวว่า จากการศึกษาบ่งชี้ว่า
ความโกรธสามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
อย่างน้อยที่สุดก็กับผู้ที่มีความอ่อนแอในเรื่องความแปรปวนของกระแสไฟฟ้าในหัวใจ
“คำตอบคือ ใช่เลย ที่ความโกรธมีผลกระทบต่อระบบกระแสไฟฟ้าในหัวใจ ที่จะนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันได้”
เธอกล่าว
แต่เธอก็ไม่เห็นด้วยที่จะใช้ข้อมูลที่ได้นี้ในการคาดเดาผลลัพธ์ที่จะเกิดกับคนที่มีหัวใจปกติ
“ความโกรธและความเครียดจะมีผลกระทบต่อคนที่มีหัวใจปกติอย่างไรนั้น? คำตอบก็คือ
น่าจะมีความแตกต่างกันมากระหว่างคนที่มีหัวใจปกติกับคนที่มีความผิดปกติที่หัวใจ”
เธอกล่าว
ในขณะนี้ Lampert กำลังศึกษาว่า
การจัดคอร์สเกี่ยวกับการจัดการกับความโกรธจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงเรื่องจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงอยู่แล้วได้หรือไม่
อัตราการเสียชีวิตแบบเฉียบพลันอันเนื่องมาจากโรคหัวใจนับได้ 400,000 รายในแต่ละปี ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามข้อมูลของ The American
College of Cardiology.
ที่มา-http://timesofindia.indiatimes.com/Health--Science/Anger-really-can-kill-you-US-study/articleshow/4181741.cms