
พระเจดีย์แห่งการตรัสรู้ธรรม Benalmadena สูง 108 ฟุต ฐานของพระเจดีย์กินพื้นที่กว้าง 82 ฟุต –ซึ่งถือว่า
เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ในซีกโลกตะวันตก
เมือง Benalmadena ประเทศสเปน
Dizi Btissam ในชุดกางเกงยีนส์สีเข้มกับเสื้อแจ๊กเก็ต
ลูบหมวกกันน๊อคที่ถืออยู่ ขณะที่เธอฟังชายหนุ่ม ขนตาหนาเป็นแผง ผมหยิกคนหนึ่งกำลังบรรยาย
เบื้องหลังของคนทั้งสองคือ พระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ดูกลมกลืนเข้าแผ่นฟ้าด้านบนกำลังมองต่ำลงมาอย่างมีเมตตาไปยังแถวของต้น
poinsettias ที่ปลูกอยู่บนพื้นดิน
“ท่านผู้นี้ไม่ใช่พระผู้เป็นเจ้า” Ivan Baez อธิบาย
ในขณะที่เสียงสวดมนต์ในโทนเสียงต่ำรอดผ่านออกมาจากระบบเครื่องเสียง
“สำหรับพวกเราแล้ว บุคคลผู้นี้เป็นตัวแทนของคุณสมบัติหลายๆ อย่างของธรรมชาติ
ซึ่งพวกเราทุกคนก็มีเช่นกัน แต่คุณสมบัติที่ว่านั้นถูกบดบังด้วยอารมณ์ และบุคลิกภาพในรูปแบบต่างๆ
ของตัวเราเอง...
การอธิบายของเขาถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าของ
Btissam เธอรีบวิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วเพื่อไปรับสาย
Baez ยิ้มให้กับพฤติกรรมของเธอ
เขาสวมเสื้อเชิร์ตผ้าฝ้ายไม่มีปกย้อมด้วยสีแสดจากหญ้าฝรั่ง เขาได้แสดงออกให้เห็นว่า
ไม่ว่า Btissam จะกลับเข้ามาอีกหรือไม่ก็ตาม
ทุกชีวิตในที่นั้นก็ยังดีอยู่เหมือนเดิม แต่ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา Btissam ก็เดินกลับมาฟังเขาพูดต่อโดยไม่มีการขัดจังหวะใดๆอีก ตอนที่
Btissam กลับเข้ามา Baez กำลังพูดเรื่องเกี่ยวกับการตรัสรู้ธรรม,
เรื่อง “การพักที่สมบูรณ์แบบในอะไรบางอย่าง” และเรื่องการมีประสบการณ์เกี่ยวกับ
“ความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวคนเราได้อย่างสูงสุด”
พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้คาดหวังไว้ว่าจะได้มาเรียนรู้ในประเทศสเปน
เมื่อตอนที่ผมขับรถล่องใต้มาตามเลียบชายฝั่งมะละกา ในใจของผมเต็มไปด้วยเสียงคลื่นที่ซัดไปมา
และภาพของการกระทบกันของเครื่องดนตรี Castanets
ผมนึกไปถึงภาพของประตูโค้งที่ได้สัดส่วนของมัสยิด Cordoba
และภาพแกะสลักดอกไม้ที่สลับซับซ้อนงดงามแบบ Alhambraสิ่งสุดท้ายที่ผมคาดหวังว่าจะได้มาเห็นที่นี่ก็คือ สถาปัตยกรรมที่สูงตระหง่านอยู่เหนือราวกั้นที่รู้จักกันว่าเป็นพระเจดีย์ที่มียอดแหลมสีทอง
ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่มีลักษณะเหมือนภูเขาที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระพุทธเจ้า
สิ่งที่เห็นนี้ใหญ่มาก สูงเสียบฟ้าถึง 108 ฟุต ฐานกว้างถึง 82 ฟุต –ซึ่งถือว่าเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ในแถบซีกโลกตะวันตก
ต้องยอมรับว่า ที่นี่คือ Andalucia เป็นภูมิภาคที่ในประวัติศาสตร์มีความหลากหลายทางศาสนา
หลายเมืองในแถบนี้มีหอระฆังของโบสถ์คริสต์ที่สร้างขึ้นห่อหุ้มหอยอดแหลมของสุเหร่าอิสลามที่เก่าแก่ทรุดโทรมเอาไว้ข้างใน ในเมือง Gordoba และเมือง
Toledo ก็มีโบสถ์ยิวที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14
ซึ่งมีลักษณะการแกะสลักเป็นศิลปะแบบมัวตั้งอยู่หลายแห่ง
และที่เข้าไปตั้งอยู่ท่ามกลางมัสยิดที่อลังการแห่งศตวรรษที่ 10 ของ Cordoba
ก็คือ โบสถ์ของโรมันคาทอลิก เหล่านี้คือมรดกตกทอดมาจากยุค La
Convivencia ซึ่งอยู่ในช่วงปี 711 ถึง 1492 อันเป็นวันเวลาที่มุสลิม
คริสเตียน และยิวอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสงบสุขแบบผู้ที่มีการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาและศิลปะซึ่งกันและกัน
แล้วนี่ล่ะ มันคือ
เจดีย์ของพระพุทธศาสนาไม่ใช่รึ? เจดีย์องค์นี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกันเนี่ย?
…..
พระเจดีย์เริ่มต้นเป็นสถานที่ใช้ถวายพระเพลิงและเก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ต่อมาได้กลายเป็นอนุสาวรีย์ที่ได้รับความเคารพอย่างสูง เพราะสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงอัตชีวประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และต่อมากลายมาเป็นสถานที่ประดิษฐานสิ่งของศักดิ์สิทธิ์และพระธรรมคำสอน เจดีย์มีลักษณะหลากหลายรูปแบบตามภูมิภาค
แต่สำหรับเจดีย์ Benalmadena องค์นี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นศิลปะแบบทิเบตคือ มีลักษณะของโดมที่ไม่เหมือนทั่วไป นั่นคือ ส่วนฐานแคบ
บานที่ส่วนยอด และส่วนของโดมนี้ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมเป็นชั้นๆ อีกทีหนึ่ง
ปกติแล้วอนุสาวรีย์เช่นนี้จะปรากฎมีอยู่ในเขตที่ชุมชนชาวพุทธเจริญรุ่งเรือง
แต่ที่นี่พระเจดีย์ Benalmadena มาตั้งแทรกขึ้นในเขตวัฒนธรรมชาวพุทธกับวัฒนธรรม
Andalucian ถัดออกไปมีโบสถ์ชาวยิว แห่งหนึ่งได้ถูกสร้างขึ้นที่
Toledo ชุมนุมชาวยิวเป็นพวกที่มีฐานะทางการเงินดี
มีอิทธิพลทางการเมือง ซึ่งคล้ายกับในประเทศสเปน มัสยิดที่สำคัญๆ
และโบสถ์คริสต์ใหญ่ๆ ได้ถูกสร้างขึ้นโดยศาสนิกชนที่มีฐานะร่ำรวยและมีเส้นสายที่ใกล้ชิดกับสมาชิกนักบวชที่เป็นที่เคารพของศาสนานั้นๆ
สำหรับชาวพุทธในสเปน ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนพุทธศาสนิกเพิ่มขึ้น
แต่ก็ไม่ได้รวมตัวกันเพื่อสร้างสังคมชาวพุทธขึ้นหรือสร้างชุมชนทางการเมืองขึ้นแต่อย่างใด
และก็เหมือนกับทุกๆ แห่งนอกทวีปเอเชีย ชาวพุทธที่นี่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้มีหลากหลายนิกายภายใต้ความเป็นชาวพุทธเหมือนกัน
รวมไปถึงการแตกหน่อนิกายใหม่ที่เกิดจากการผสมผสานการปฏิบัติแบบชาวพุทธและความเชื่อแบบคริสเตียนเข้าด้วยกันอีกด้วย
นี่ไม่ได้กำลังพูดว่า พระเจดีย์ Benalmadena ปราศจากการแทรกซึมทางด้านการเมือง “แต่เป้าหมายอาจจะมุ่งไปที่กลุ่มชาวพุทธอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้”
ศาสตราจารย์ทางด้านการศาสนา Martin Baumann แห่งมหาวิทยาลัย Lucerne
University ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ผู้ซึ่งทำการวิจัยเรื่องผลกระทบทางด้านการเมืองของศาสนาสถานให้ความเห็น
ชาวพุทธทิเบตหลายท่านเชื่อว่า พุทธศาสนาสายทิเบตเป็นพุทธศาสนาที่บริสุทธิ์ที่สุด
“ด้วยการที่คิดเช่นนี้” ดร. Baumann เสริม “ท่านลาไล ลามะ
และลามะองค์อื่นๆ จึงถูกมองว่า เป็นผู้ที่สืบทอดด้านจิตวิญญาณสายที่หมดจดที่สุด”
พระเจดีย์องค์นี้จึงถูกสร้างขึ้นตามแบบแผนทางวัฒนธรรมและทางพิธีกรรมที่มีมาก่อนแล้วอย่างยาวนาน
ทำให้พุทธศาสนาแบบทิเบตเป็นที่เห็นได้อย่างแจ่มชัดในพื้นที่ของชาวพุทธในซีกโลกตะวันตกแห่งนี้
อย่างไรก็ตามพระเจดีย์องค์นี้ก็ได้สร้างความขัดแย้งขึ้นภายในสี่นิกายของพระพุทธศาสนาแบบทิเบตที่เรียกว่า
Karma Kagyu ท่านลาไล ลามะเป็นบุคคลที่ถือว่าเป็นกระบอกเสียงที่โดดเด่นที่สุดของพระพุทธศาสนาแบบทิเบตและของชาวทิเบตที่อพยพออกนอกประเทศในสายตานานาชาติ
เป็นผู้ทำให้นิกาย Gelugpa เป็นเป้าสายตาของชาวโลกเนื่องจากว่า
ท่านลาไล ลามะเป็นหัวหน้าของนิกายนี้ แต่หลายท่านคาดเดาว่า ถ้าหลังจากที่ท่านลาไล
ลามะสิ้นชีวิตไปแล้วเป้าความสนใจน่าจะถูกโยกไปที่นิกาย Karma Kagyu ซึ่งหัวหน้านิกายนี้มีตำแหน่งที่เป็นที่รู้จักกันว่า “Karmapa” ซึ่งเรื่องตำแหน่ง “Karmapa” นี้เป็นประเด็นที่ทะเลาะกันอยู่ในหมู่ชาวทิเบตที่ถูกเนรเทศออกนอกประเทศในขณะนี้
เพราะนั่นทำให้เกิดปัญหาตามมาคือ
ใครควรจะเป็น Karmapa ที่ถูกต้อง ปัญหานี้ได้กลายเป็นประเด็นที่สำคัญ และก็เป็นคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้
กลุ่มชาวพุทธที่อยู่เบื้องหลังการสร้างเจดีย์ Benalmadena ให้การสนับสนุน
Trinley Thaye Dorje ให้เป็น Karmapa คนที่ 17
ของนิกาย Karma Kagyu กลุ่มอื่นๆ ในประเทศสเปนและที่อื่นๆ
ให้การสนับสนุน Ugyen Trinley Dorje ซึ่งการหลบหนีของเขาจากการอารักขาของจีนเมื่อปี
2000 ได้กลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลก ลามะทั้งสององค์นี้เป็นที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรผู้มีอำนาจต่างๆ
ว่าเป็นผู้ที่กลับชาติมาเกิดขององค์ Karmapa องค์ก่อนที่มรณภาพไปเมื่อปี
1981
......
ผลกระทบของพระเจดีย์องค์นี้มีมากมาย
แล้วต้นกำเนิดคืออะไร? “คำตอบทำนองนี้มักจะพูดกันได้ยาวเสมอ” Margaita
Lehnert ผู้ซึ่งได้ทำงานเป็นผู้ช่วยและผู้ทำหน้าที่ล่ามให้กับท่าน Lopon
Tsechu Rinpoche ผู้ล่วงลับไปแล้วอยู่หลายปีพูดพร้อมกับยิ้ม เขาเป็นพระอาจารย์สอนพระพุทธศาสนาแบบทิเบตด้วย
เมื่อปี 1994 เขาได้สร้างพระเจดีย์ขนาด 42 ฟุตขึ้นองค์หนึ่งในเขตธุดงคสถานแห่งหนึ่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ
Benalmadena ประมาณอีก 3 ปีต่อมา เขาและนางสาว Lehnert
ได้ขับรถไปตามชายฝั่งทะเลเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน
สีจีวรของท่านได้ไปต้องตาชายรูปร่างอ้วนท้วมคนหนึ่งซึ่งแนะนำตัวเขาเองว่าชื่อ Enrique
Bolin เป็นนายกเทศมนตรีของ Benalmadena
ต่อมา Bolin ได้เดินทางไปประเทศเนปาล
ที่ซึ่ง Lehnert บอกว่า “Bolin รู้สึกประทับใจและเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาว่า
เขาจะต้องสร้างเจดีย์ขึ้นในเมืองของเขาด้วยเช่นกัน”
“ท่าน Lopon Teschu Rinpoche ได้ไปเยี่ยมเยือนเมืองต่างๆ
มามากมายในซีกโลกตะวันตก” Lehnert เสริม “แต่มีนายกเทศมนตรีคนนี้เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ต้องการที่จะสร้างพระเจดีย์ขึ้น
นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า เป็นสายบุญที่เข้มแข็งร่วมกัน”
Bolin ผู้ซึ่งได้ลงจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีในปี
2007 ได้มอบเงินกองทุนสาธารณะจำนวน 300,000 เหรียญพร้อมที่ดินให้กับโครงการนี้
ในขณะที่ Lehnert ได้ก่อตั้ง The Karma Kagyu
Cultural Association ขึ้นและสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1 ล้านเหรียญ
การก่อสร้างได้เริ่มต้นในปี 2001 และก่อนที่จะมีพิธีเฉลิมฉลองพระเจดีย์ในเดือนตุลาคม
2003 พระลามะได้ร่วมกันทำพิธีด้วยการถวายมหาทานและสวดมนต์ Lehnert อธิบายว่า “เพราะว่าพระเจดีย์เป็นอนุสาวรีย์ที่มีชีวิต
พระเจดีย์จะส่งพลังงานที่ดีงามออกมาอยู่ตลอดเวลา” ด้วยความเชื่อดังกล่าว
พระเจดีย์จึงเป็นเสมือนวงล้อแห่งธรรมที่หมุนเพื่อให้พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเผยแพร่ไปสู่จักรวาล
เมื่อครั้งที่พระเจดีย์ได้รับการเฉลิมฉลอง
Bolin ได้แสดงความหวังว่า
อนุสาวรีย์แห่งนี้น่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นได้ด้วย แต่ที่ผ่านมาพระเจดีย์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
ไม่ได้เป็นคู่แข่งสำคัญในการดึงนักท่องเที่ยวให้กับเมืองที่เต็มไปด้วยหาดทราย แสงแดด
และถนนปูนขาวที่น่าดึงดูดใจได้เลย แต่สิ่งนี้อาจจะเปลี่ยแปลงได้
สาวน้อยคนที่มีมือถือใช้คนนั้น กำลังศึกษาวิชาการท่องเที่ยวอยู่ที่มหาวิทยาลัย The
University of Malaga เธอกำลังรวบรวมข้อมูลต่างๆ
เพื่อทำงานในวิชาหนึ่งของเธอ
และถึงแม้ว่า พระเจดีย์จะดูไม่ค่อยเข้ากันได้ดีกับความเป็นชาวมัว
ใน Andalucia และสถาปัตยกรรมแบบ Mudejar สักเท่าไร แต่วิถีชีวิตของคนที่อาศัยอยู่โดยรอบพระเจดีย์ก็ได้แสดงออกให้เห็นถึงจิตวิญญานของความเบิกบานในการแลกเปลี่ยนเรื่องความศรัทธาซึ่งกันและกัน
ขับรถเพียงแค่ระยะทางสั้นๆ ลงเขา Lehnert ก็สามารถไปนั่งเอกเขนกในห้องนั่งเล่นแล้ว
ด้านหลังของเขาคือหน้าต่างที่สามารถมองลงไปสู่ทะเลเมดิเตอเรเนียนได้ เขามาเยี่ยมเยือนที่นี่พร้อมด้วยท่าน
Mipham Rinpoche พระลามะชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของนิกาย
Nyingma และภรรยาของเขาชื่อ Mayum, Lehnert ซึ่งเกิดในโปแลนด์ได้เปลี่ยนจากการพูดภาษาทิเบตไปเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เธออธิบายแง่มุมของพระพุทธศาสนาแบบทิเบตให้กับสามีภรรยาชาวอเมริกันคู่หนึ่งที่เข้าเยี่ยมชมสถานที่โดยมิได้คาดหมายฟัง
ที่มา-http://features.csmonitor.com/backstory/2009/03/18/the-west%E2%80%99s-largest-buddhist-stupa-rises-in-spain/