สำหรับชาวตะวันตกส่วนมาก ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าคำพังเพยที่น่าสนเท่ห์ และรูปปั้นของพระที่มีลักษณะอ้วนท้วนใบหน้ายิ้มละไมในร้านขายของราคาถูก แต่ยังมีชาวตะวันตกท่านหนึ่งเป็นนักแสดงที่ชื่อว่า Evan Brenner ได้ออกมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าโดยละเอียด Brenner เป็นผู้ที่แสดงเรื่อง “พุทธประวัติ--จากพระโอษฐ์” อยู่ในขณะนี้ที่ The Boston Center for the Arts ก่อนที่จะย้ายไปแสดงต่อที่ The Cambridge YMCA

เขาให้สัมภาษณ์ที่อพาร์ทเม้นท์ของเขาในนิวยอร์ก Brenner อธิบายว่า พระพุทธเจ้า มีชื่อที่เป็นที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งคือ สิทธัตถะ โคตมะ เป็นชาวอินเดียชั้นสูง ซึ่งได้สละทิ้งชีวิตที่เต็มไปด้วยความผาสุขทุกรูปแบบเพื่อแสวงหาการตรัสรู้ธรรม ท่านเป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนเราๆท่านๆทั้งหลายนี่แหละ

เกริ่นนำ: คุณเริ่มหันมาสนใจในพระพุทธศาสนาตั้งแต่เมื่อไร?

Brenner:  ตั้งแต่ตอนที่ผมเรียนอยู่ที่ High School ศาสนาพุทธเป็นสิ่งที่สามารถให้หนทางแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์ได้ และหลังจากนั้น ประมาณเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ชีวิตของผมก็ตกอยู่ในช่วงที่มืดมนมาก ผมจึงหันกลับไปอ่านพระสูตรต่างๆ ทางพระพุทธศาสนาอีกครั้งหนึ่ง..... ในครั้งนั้น ผมไม่ได้รู้สึกดึงดูดใจในเนื้อหาของพระสูตรมากนักเมื่อเทียบกับเรื่องราวส่วนตัวของพระพุทธเจ้าเอง ในแง่ที่ว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นบุคคลท่านหนึ่งที่ได้ผ่านความยากลำบากอย่างใหญ่หลวงมามากมายเหมือนคนอื่นๆ ผมรู้สึกได้ถึงความเป็นตัวตนจากการอ่านเรื่องราวของท่านผู้นี้ มันทำให้ผมรู้สึกได้อย่างแจ่มชัดว่า หนทางที่บุคคลผู้นี้ได้เดินไปแล้วนั้นเป็นหนทางของผมด้วยเช่นกัน และหนทางนั้นก็เป็นหนทางของพวกเราทุกคนด้วย

อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณตัดสินใจบอกเล่าเรื่องราวของพระพุทธเจ้าบนเวทีแสดง?

ผมเองรู้สึกดื่มด่ำกับพระสูตรเหล่านั้นมาก เพราะมันเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และจับใจผมมาก ตอนที่ผมกำลังอ่านเรื่องของท่านองคุลีมาลอยู่นั้น (เกี่ยวกับเรื่องของนักฆ่าคนมานับไม่ถ้วนคนหนึ่งซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ) ผมเดินไปหาแฟนของผมและบอกเธอว่า “เธอลองฟังเรื่องนี้ดูนะ” และเธอก็ต้องร้อง อู้... และ ฮ้า...ตลอดเวลาในขณะที่ฟังผม

ในขณะนั้นเอง ผมก็คิดว่า “ว๊าว!!” เรื่องราวของพระพุทธเจ้าเป็นหนึ่งในเรื่องการผจญภัยที่เป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งทีเดียว ผมเคยดูการแสดงของ Alec McCowan ในเรื่อง St. Mark’s Gospel ซึ่งเป็นการว่าปากเปล่าเรื่องคริสต์ประวัติและหลักคำสอนของพระเยซูบนเวทีการแสดง และผมก็คิดว่า ทำไมเราไม่เอาเรื่องพุทธประวัติมาแสดงบนเวทีแบบการแสดงโชว์เดี่ยวบ้าง?

การทำงานกับการแสดงชิ้นนี้มีผลกระทบต่อคุณอย่างไร?

การได้เข้าไปเรียนรู้และรับทราบเรื่องชีวประวัติของพระพุทธเจ้าในรูปแบบของการแสดงทำให้การเรียนรู้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น การท่องจำบทเนื้อหาทั้งหมดทำให้ทุกอย่างซึมซับเข้าสู่ตัวผมทั้งหมด

คุณหวังจะเห็นอะไรหลังจากการที่ผู้ชมได้ชมละครเรื่องนี้แล้ว?

เมื่อผมเริ่มต้นนั่งอ่านพระสูตรเหล่านั้น ผมคิดว่า “ว๊าว!! ผมต้องการจะเห็นเรื่องนี้ถูกทำเป็นบทละคร” ผมต้องการจะจินตนาการออกมาว่า การได้เข้าเฝ้าตัวต่อตัวกับพระพุทธเจ้าจะเป็นอย่างไรนะ มันคงเป็นเรื่องที่มีคุณค่ามากนะและยิ่งใหญ่มากด้วย เพราะว่า ถ้าพระพุทธเจ้าเป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง มันก็เป็นการยกระดับระบบความคิดที่ว่าการปลดเปลื้องตนเองจากกิเลสเป็นสิ่งที่เป็นไปได้สำหรับพวกเราทุกคน ดังนั้นผมก็หวังว่า ทุกคนจะได้โอกาสเช่นนั้นด้วยเช่นกัน

 

ที่มา-http://www.bostonherald.com/entertainment/arts_culture/view/2009_03_25_Actor_finds_Nirvana_as_%E2%80%98Buddha_/srvc=home&position=recent

 

 

 

 

 
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง