ข้อความต้นฉบับในหน้า
14 อะไรที่ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ7 @
ยิ่งดูข่าว...ยิ่งเชื่อว่าท่าไม่ถูก (15
เราปักใจเชื่อแบบนี้จนกระทั่งได้พบกับน้องที่มาติดต่องานกับ
เราเป็นประจำ อัธยาศัยของเขาเป็นคนไว้ใจได้ ไม่ขี้โกง
เป็นคนดีมากๆ จนอดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไมเขาถึงเป็น
คนดีขนาดนี้ ถ้ามีอะไรดีๆ ก็เล่า ก็แนะนำเราได้” จน
น้องเขามาชวนเราไปนั่งสมาธิที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมคิวเฮ้าส์
(Q-House) พอเราไปถึงแล้วมารู้ว่าเป็นของวัดพระธรรมกาย
รู้สึกมีกำแพงปิดกั้นทันที หลังจากนั้นก็ไม่ยอมไปอีกเลย
แต่เนื่องจากน้องคนนี้ยังติดต่อกับเราอยู่ตลอด เขาตาม
มาคุยงานกับเราที่บ้าน แต่เราไม่ต้อนรับและไม่สนใจ ทั้งๆ
ที่น้องเขาเป็นคนดีมากๆ จนเขาเอา CD ของหลวงพ่อมา
ฝากไว้ให้เราฟัง เมื่อฟังเราก็เกิดความรู้สึกว่า ทำไมท่าน
สอนได้ดีเหลือเกิน จนเราทั้งสองเริ่มเปิดใจ แต่ยังไงก็
ไม่ยอมไปวัด จนตอนหลัง หลวงตาท่านเจ้าคณะอำาเภอ
(พระครูญาณธราภรณ์ เจ้าคณะอำเภอลานสะกา
จ.นครศรีธรรมราช) ท่านเป็นญาติแท้ๆ ที่เราเคารพรัก
นับถือท่านมากๆ ท่านแวะมาหา เราจึงมีโอกาสถาม
ท่านเรื่องของวัดพระธรรมกายที่เราไม่ชอบ ท่านกลับตอบ
ว่า ท่านเคยไปที่วัดพระธรรมกาย ท่านก็รู้สึกว่าเป็นวัดที่
ดี บอกว่าอยากให้เราลองไป อย่าพึ่งตัดสินอะไรตามข่าว
ให้ไปดู ให้ไปพิสูจน์เอง ถ้าไม่ดี...ก็ให้ถอยออกมา ซึ่งก็ไม่ได้
เสียหายอะไรเลย ดีกว่าปิดกั้นตัวเอง แล้วทำให้พลาด
สิ่งดีๆ ไป ท่านพูดบ่อยจนเราต้องยอมไป เมื่อไปที่วัดก็
เห็นคนจำนวนมากกรูกันเข้าไปถวายเงินหลวงพ่อ ทำให้
รู้สึกว่าวัดนี้ ทำไมระดมทุนอะไรกันขนาดนี้ เราจึงหลบมา
อยู่ท้ายๆ ไม่ยอมไปถวายเงิน และคิดจะขับรถกลับบ้าน
แต่ก็ลองอยู่ดูๆ อีกสักนิดจนได้ฟังเทศน์หลวงพ่อทัตตชีโว
ทำให้เรายอมมาวัด มาฟังท่านเทศน์อีกเรื่อยๆ
ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งได้มาถวายสังฆทาน เราได้เจอยายแก่ๆ แต่งชุด
ขาวเก่าๆ จนๆ จากภาคอีสาน ควักเงินที่มีเพียงแค่ 2 สลึง
เอามาถวายทำบุญกับวัด เมื่อเห็นภาพนี้ รู้สึกประทับใจ
ว่า วัดนี้เขาก็ต้อนรับคนจนๆ นะ จึงทำให้เราเริ่มใจเปิด
เพิ่มขึ้น
จากนั้นเราก็เริ่มสืบค้น ศึกษาข้อมูลวัดจากหนังสือเล่มต่างๆ
ขับรถไปดูรอบวัดทุกซอกทุกมุมบ่อยๆ ยอมลงทุนมาบวช
ที่วัด เพื่อมาอยู่กับหลวงพ่อในวัด ให้เห็น ให้เข้าใจ
จนแน่ชัดกันไปเลย จนเราได้มารู้ความจริง จึงได้เข้าใจว่า
อ๋อ...เม็ดเงินบริจาคต่างๆ ที่บริจาคให้หลวงพ่อธัมมชโย