จากยาจกสู่มหาบารษฐี: เส้นทางชีวิตที่เปลี่ยนแปลง จะรวยก่อนแก่ หรือแก่แล้วก็ยังไม่รวย หน้า 20
หน้าที่ 20 / 34

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวของคุณสมเกียรติและคุณสมพร เกาเล็กที่เริ่มต้นชีวิตจากความยากจน จนกระทั่งสามารถสร้างธุรกิจและมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยเริ่มจากการทำบุญที่วัดพระธรรมกาย เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต จากการขายส่งผักจนไปสู่ธุรกิจการตัดเย็บชุดกีฬา ตลอดการเดินทางนี้ พวกเขายังมีแนวคิดที่มุ่งมั่นในการทำงานและการทำบุญอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต

หัวข้อประเด็น

- เรื่องราวชีวิต
- การเริ่มต้นจากศูนย์
- บทเรียนจากความยากจน
- ความสำเร็จในธุรกิจ
- การทำบุญและคุณธรรม
- การเปลี่ยนแปลงชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

36 จากยาจกหน้าสลับสู่มหาบารษฐีบินล้าน 1 คุณสมเกียรติ - คุณสมพร เกาเล็ก ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัท เค.พี.ธรรมสำเร็จ จำกัด และ บริษัทผ้างาม จำกัด เป็นธุรกิจตัดเย็บชุดวอร์ม ชุดกีฬา และเสื้อยืดภายใต้แบรนด์ “วิกตอร์รี่” (Victory) บน กระต๊อบหน้าด อุปา ราชรองหน้าสม "เมื่อย้อนนึกถึงความลำบากตอนนั้นแล้ว แทบไม่น่าเชื่อว่าเราจะผ่านมันมาได้ เพราะชีวิตเรา เริ่มต้นจากศูนย์กันจริง ๆ ตอนแต่งงานเรายากจนถึง ขนาดต้องไปกู้เงินมาเข่าที่เล็ก ๆ แถวสลัมปลูก กระต๊อบมุงจาก ที่เป็นแค่เพิงหมาแหงนขนาด 3 คูณ 4 เมตรเท่านั้น ซ้ำร้ายพอฝนตก น้ำก็รั่วหยดตามรูโหว่ จากหลังคาลงมาในกระต๊อบ ทำให้ต้องย้ายของหลบ ไปหลบมา วิ่งเอาซัน เอากะละมังไปรองกันให้วุ่น แม้ตอนนั้นผมจะเป็นเพียงโฟร์แมนในโรงงาน ย้อมผ้า ส่วนภรรยาก็เป็นแค่เสมียน แต่เราทั้งสองก็ วาดฝันกันว่า สักวันจะต้องลืมตาอ้าปากได้ อีกทั้งใน อนาคตเราอยากจะมีอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ไว้ขายของ และมีเงินเก็บไว้ในบัญชีก 10 ล้านบาท..... แต่การไปถึงฝัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ คนจน ๆ ที่เป็นลูกจ้างกินเงินเดือนอย่างเรา จึงเป็น เหตุให้ภรรยาผมท่าอาชีพเสริม โดยไปซื้อของจาก สำเพ็งมาขาย อีกทั้งยังอดหลับอดนอนไปรับตุ๊กตา ตัวเล็กๆ จากโรงงานมาประกอบ ได้ค่าแรงตัวละ 1 บาท ยอมรับว่าชีวิตช่วงนั้นลำบากมาก แต่แม้จะ ลำบาก หรือมีเงินน้อยแค่ไหน ผมก็สังเกตเห็นว่า ภรรยาของผมไม่เคยทิ้งเรื่องการทำบุญเลย เนื่องจาก เธอเป็นคนใจบุญและเข้าวัดพระธรรมกายตั้งแต่เป็น นักศึกษา ซึ่งหลังแต่งงานแล้ว เธอก็ยังขอผมไปวัดนี้ อยู่เรื่อย ๆ โดยทำบุญทีละ 20 บาทบ้าง 100 บาทบ้าง แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า วัดนี้มีอะไรดีนักหนา ทำไม เธอชอบไปแต่วัดนี้ ทั้ง ๆ ที่วัดแถวบ้านก็มีอยู่ตั้งหลายวัด ทำไมไม่ไป หน้าซ้ำการเดินทางไปวัดพระธรรมกาย ในสมัยก่อนก็ลำบากแสนเข็ญ เพราะเราไม่มีรถส่วนตัว จึงต้องกระเสือกกระสนขึ้นรถเมล์จากจังหวัดสมุทรสาคร ไปยังจังหวัดปทุมธานี ผ่านถนนลูกรังขรุขระ กว่าจะ ถึงวัดก็ปาไปตั้ง 2-3 ชั่วโมง อีกทั้งกว่าจะกลับถึงบ้าน ก็ 3-4 ทุ่ม จนผมอดที่จะคิดในใจไม่ได้ว่า ภรรยาผม จนผมอดที่จะคิดในใจไม่ได้ว่า ภรรยาผมโดนล้างสมองหรือ เปล่า แต่ผมก็ไม่เคยว่าอะไร เธอเลย เพราะคิดว่า ถึงเธอไป วัดทำบุญ ก็ยังดีกว่าผม ที่พอ สุดสัปดาห์ก็เอาแต่นั่งดื่มเหล้า เมาแอ๋ กลับมาโวยวาย หมด เงินหมดทองไปเยอะ 55 โดนล้างสมองหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่เคยว่าอะไรเธอเลย เพราะคิดว่าถึงเธอไปวัดทำบุญ ก็ยังดีกว่าผมที่พอ สุดสัปดาห์ก็เอาแต่นั่งดื่มเหล้าเมาแอ๋ กลับมาโวยวาย หมดเงินหมดทองไปเยอะ ภรรยาของผมขยันทำมาหากินพอ ๆ กับ ขยันไปทำบุญที่วัด ส่วนผมก็ขยันเมาเหล้าพอ ๆ กับ ขยันทำงาน เราดำเนินชีวิตคู่อย่างนี้มาเรื่อย ๆ จนวันหนึ่ง ในปี พ.ศ. 2537 ภรรยาผมถามว่า วัดพระธรรมกาย จะมีการหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำด้วยทองคำแท้ ๆ ขอ จากยากหาบ มหารษฐกินล้าน 1 บุญจากการหล่อพระด้วยทองคำแท้ ๆ มีอานิสงส์ มากจนเราประมาณค่าไม่ได้ อีกทั้งโอกาสแบบนี้ก็ไม่ ได้มีบ่อย ส่วนเธอก็เอาแหวนหมั้นทองคำหนัก 1 สลึง ซึ่งเป็นทองคำชิ้นเดียวที่เธอมี มารวมกับสร้อยที่ขอ จากผม รวมแล้วเป็น 3 สลึง ไปร่วมทำบุญหล่อหลวงปู่ การทําบุญหล่อหลวงปู่ทองคําเป็นบุญแรก ในชีวิตที่ผมทำกับวัดพระธรรมกาย ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคย ที่ ไปวัดนี้เลย อีกทั้งยังเป็นบุญที่ผมและภรรยาทำมากที่สุด ในชีวิต ซึ่งพอย้อนระลึกนึกถึงบุญนี้ทีไร ก็รู้สึกว่า ตัดสินใจไม่ผิดเลย เพราะบุญนี้เองที่เป็นจุดเปลี่ยน ชีวิตของเราสองคน! หลังจากนั้นไม่นาน มันแปลกมาก แปลกจน ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อ คือหยิบจับอะไรเป็นเงินเป็น ทองไปหมด มือขึ้นมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ขาย ของดีเป็นเทน้ำเทท่า จนมีกำไรไปดาวน์รถกระบะได้ 1 ตัน จากนั้นเราก็คิดหาอาชีพที่คาดว่าจะทำเงินได้มาก กว่าเก่า ก็คือ ขายส่งผัก โดยขับรถกระบะไปตลาด สี่มุมเมืองตั้งแต่ตี 5 แล้วก็ซื้อผักมาขายส่ง ซึ่งภายใน 5 โมงเช้า เราก็ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน เพราะมีเจ้าประจำ จองไว้จำนวนมาก ซึ่งก็แทบไม่อยากเชื่อ เราใช้เวลา เพียง 2 ชั่วโมง แต่กลับได้กำไรเป็นเงินสด ๆ วันละ 1,000 บาท ซึ่งเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ถือว่าเรามีรายได้สูง มาก และจากการขายผักนี่เองทำให้เรามีเงินถุงเงินถัง จนมีทุนต่อทุน แล้วไปกว้านซื้อเศษผ้าจากโรงงานที่ เขาทิ้ง แล้วมาคัดแยกเกรดส่งขาย เพราะรายได้ดีกว่า การขายผักมาก คือ เดือนละเกือบ 50,000 บาท จน เรามีเงินไปซื้อที่ดิน 64 ตารางวา มูลค่า 700,000 บาท สร้อยทองหนัก 2 สลึงของผมไปหล่อด้วยได้ไหม ผมก็ มาเป็นของตัวเอง.... ๆ ตัดสินใจยกให้เธอไปอย่างไม่คิดเสียดายเลย ทั้ง ที่เป็นสมบัติล้ำค่าชิ้นเดียวที่มีอยู่ตอนนั้น เพราะผมรู้ว่า www.kalyanamitra.org. 37
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More