ข้อความต้นฉบับในหน้า
48
รวยเป็นล้าน..ในไม่กี่เดือน
รวยเป็นล้น...ภายในไม่กี่เดือน
เราพยายามเดินจนให้ลูกฟังว่า
ที่เราเป็นแบบนี้ เพราะวิบาก
กรรมที่เราตระหนี่ ไม่ทำบุญมา
ในอดีต เราก็เลยจน อีกทั้งบุญ
เก่าเราก็ใช้ไปทุกวัน หากไม่
สร้างบุญใหม่ บุญเก่าก็ทยอย
หมดไปเรื่อย ๆ
"
และหลังจากนั้นไม่นาน บ้านและที่นาทั้งหมด
ก็โดนยึดตกไปเป็นสมบัติของคนอื่น เรียกได้ว่า สมบัติ
ต่าง ๆ ที่เคยมีอยู่ทั้งหมด มันอันตรธานหายไปภายใน
พริบตา จนเราไม่มีอะไรเหลือ แถมมีหนี้ท่วมหัวเกือบ
2 ล้านบาท
บอกตรง ๆ ตอนนั้นทุกข์มากเหลือเกิน จน
น้องที่รู้จักกันพยายามทำหน้าที่กัลยาณมิตรเตือนเราว่า
ไม่ว่าจะเจอวิกฤตในชีวิตหนักขนาดไหน ยังไงก็อย่าทิ้ง
วัด ให้ไปทำบุญ เติมบุญให้ตัวเอง ถ้าไม่มีเงินค่ารถ
ไปวัด เดี๋ยวเขาจะออกให้ และตอนนั้นเราก็พยายาม
แข็งใจไปวัดไม่ขาดเลย โดยยืมเงินค่ารถเขาบ้าง
อาศัยติดรถไปกับเขาบ้าง
พอถึงวัดเราก็ไม่มีเงินทำบุญอะไรมากมาย
กับเขาหรอก ท่าแค่ 20-100 บาท แต่ไปแล้วเราได้
นั่งสมาธิทำให้ใจสบายขึ้น แต่การไปวัดบ่อย ๆ ทำให้
ลูกสาวไม่เข้าใจ เขาสงสัยว่า... ทำไมแม่ลำบากขนาดนี้
ยังกระเสือกกระสนดิ้นรนที่จะไปวัด ทั้ง ๆ ที่บ้านเรา
ก็อยู่ตั้งสระบุรี ต้องลำบากนั่งรถกว่าจะถึงวัด เรา
ไม่ใช่เศรษฐี ข้าวยังไม่มีจะกินอยู่แล้ว ทำไมยังต้องไป
ทําบุญด้วย 7777
www.kalyanamitra.org.
ช่วงนั้น เราก็พยายามอธิบายให้ลูกฟังว่า
ที่เราเป็นแบบนี้ เพราะวิบากกรรมที่เราตระหนี่
ไม่ทำบุญมาในอดีต เราก็เลยจน อีกทั้งบุญเก่าเรา
ก็ใช้ไปทุกวัน หากไม่สร้างบุญใหม่ บุญเก่าก็ทยอย
หมดไปเรื่อย ๆ ถ้าบุญเก่าหมด บาปที่เคยทำไว้
จากชาติก่อน ๆ จะได้โอกาสส่งผล ทำให้ชีวิตเจอ
อุปสรรคต่าง ๆ นานา อย่างที่เราเจออยู่ทุกวันนี้
ดังนั้นเราต้องรีบเติมบุญ เพื่อให้เรามีบุญจน
สามารถหลุดจากวิบากตรงนี้ไปได้ อีกทั้งถ้าเรา
หมดบุญ เราก็หมดสิทธิ์ที่จะครอบครองทรัพย์สมบัติ
ที่เราเคยมีอยู่ และสมบัตินั้นก็จะเปลี่ยนมือไป
ต่อมาเราก็กลับมารับจ้างซักรีดอย่างเดิม
แม้รายได้จะน้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีข้าวจะกิน
และช่วงที่มีความทุกข์สุด ๆ นี้เอง ทำให้เราหัน
หน้ามาพึ่งธรรมะอย่างจริงจัง โดยการสวดมนต์
นั่งสมาธิ และไม่ว่าจะทำบุญอะไร 20-100 บาท
เราก็จะอธิษฐานขอหลวงปู่วัดปากน้ำว่า ขอให้เรา
ลืมตาอ้าปากได้ ขอให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น และพบ
ช่องทางทำกิน ให้เรารวยและหลุดพ้นจากความ
ลำบากตรงนี้ จนกระทั่งเราหาช่องทางไปเป็น
แม่ค้าขายอาหารให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนแห่ง
หนึ่ง แต่เราได้กำไรน้อยมาก ๆ และหลังจากนั้น
4 เดือน เราก็มาได้ยินข่าวว่า โรงงานแห่งหนึ่งแถว
อำเภอวังน้อย จังหวัดอยุธยา มีการแข่งทำอาหาร
เพื่อคัดเลือกร้านค้าเข้าไปขายให้คนงานของเขา
กิน เราจึงไปแข่งกับเขาด้วย ซึ่งพอประกาศผล
การแข่งขันออกมาปรากฏว่าเราชนะ เขาเลย
อนุญาตให้เราเข้าไปขายได้ตั้งแต่วันที่ 13
กันยายน พ.ศ. 2550
จนได้ !!
ประธานกองกฐิน ๒๕๕๔
แต่เขาก็ต้องเจอกับอุปสรรคซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก
“เราได้ที่ตั้งร้านอยู่ตรงมุมสุด เป็นที่มุมอับ ซึ่ง
เป็นทำเลที่ใคร ๆ เขาก็บอกว่าไม่ดี แล้วยังบอกว่า ยังไง
เราก็ต้องเจ๊ง ไปไม่รอดหรอก เพราะคนที่ขายมา
ก่อนหน้านี้ เขาเจ๋งกลับไปกันหลายเจ้าแล้ว ขนาดคน
ขายน้ำปลาที่มาส่งลงน้ำปลาให้ร้านเรา ถึงกับพูดว่า
ถ้าต้องเลิกขาย ม้วนเสื่อกลับบ้านไป ก็อย่าลืมเอาลัง
น้ำปลามาคืนและจ่ายเงินเขาด้วย
การมาขายของที่นี่ลำาบากมาก เพราะต้องตื่น
ตั้งแต่ตี 3 ไปจ่ายตลาด ซื้อของกลับมาทำ และยืน
ขายถึงเที่ยงคืน เราทำงานหนักสุด ๆ จนปวดแขนยก
ไม่ได้ เราถึงกับคิดท้อว่า คงต้องเลิกขายและม้วนเสื่อ
กลับบ้านจริง ๆ ตามที่เขาว่า ซึ่งในช่วงนั้นเอง เรา
ก็อธิษฐานขอหลวงปู่วัดปากน้ำว่า ขอให้เราเจอทางออก
ในการแก้ปัญหานี้ และอยู่ ๆ ก็มีคนมาขอสมัคร
เป็นลูกจ้างช่วยเราถึง 2 คน ทำให้เรามีกำลังใจและ