ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชน : การฝึกใจหยุดนิ่ง
พระธรรมเทคณโดย : พระเทพญาณมหามุนี
มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาเพื่อแสวงหา ความสุข แต่จากส่วนใหญ่ยังขาดลักษณะแต่งเป็นผู้มีบารมี ว่าความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ใด เพราะสิ่งไม่มีได้อยู่ตลอด ไม่ต้องแสวงหาจากที่ไหน แต่ต่อในกายยาวนาน หน้าคือ กว้างศรของตัวเรานเอง วิธีการแสวงหาเพียงแต่ขึ้นสิ่งที่ทำให้ใจเรามีสุข นึกถึงพระพุทธเจ้า พุทธภาษาจารย์ สอดๆ พุทธภาษาจารย์ สอดๆ คาถาธรรมบท ว่า “ดูมเหศ กิฏิว่า อาเปอ อทุกาดา ตกาตตาปฏิสนุบา ปโมคุนติ มายินา มารณพุนา”
ท่านทั้งหลายพึงทำความเพียรเครื่องเผากิเลส พระอาตม์ทั้งหลายเป็นแต่เพียงผู้ส่งเหล่านี้ดำเนินตามแล้ว มีโอกาสเพียงนิพพาน ย่อมหลุดพ้นจากเครื่องผู้งมมได้
พระบรมศาสดาของเรา ต่างพระองค์จะได้ตรัสร้อนอุตส่ามสัมมะโอพีธ ต้องบำเพ็ญบารมี ยาวนานถึง ๔ อสงไขย แสนมหากัป ทรงมีนิสัยธรรมเป็นเลิศ มีความเพียรพยายามนานให้หลุดพ้นจากทุกข์ตลอดเวลา และสิ่งที่ได้ยากยิ่งก็คือ ข่าวจากเพียงพยาบามเพื่อพระองค์เองแล้ว ยังมีพระทัยมุ่งมั่นที่จะให้สรรพสัตว์หลุดพ้นตามอีกด้วย จึงทรงส่งบารมีอย่างยิ่งยวด ทรงยอมละได้แม้เลือดเนื้อและชีวิตเป็นทาน เพื่อให้ได้บังสังฆเจดีย์
พระองค์ทรงตรัสว่า “พระองค์จะได้ตรัสรู้จนสุดสัมมะสมาธิ ต้องบำเพ็ญบารมีอยู่นานถึง ๔ อสงไขย แสนมหากัป ทรงมีนิสัยธรรมเป็นเลิศ มีความเพียรพยายามนานให้หลุดพ้นจากทุกข์ตลอดเวลา และสิ่งที่ได้ยากยิ่งก็คือ ข่าวจากเพียงพยาบามเพื่อพระองค์เองแล้ว ยังมีพระทัยมุ่งมั่นที่จะให้สรรพสัตว์หลุดพ้นตามอีกด้วย จึงทรงส่งบารมีอย่างยิ่งยวด ทรงยอมละได้แม้เลือดเนื้อและชีวิตเป็นทาน เพื่อให้ได้บังสังฆเจดีย์
* เหมือนอย่างในสมัยพุทธกาล มีหนุ่มรูปงามท่านหนึ่ง เห็นทุกข์ในเวียนว่ายตายเกิด จึงออกบวชเป็นลูกศิษย์ของพระสาริฐ พระเถระ คิดว่า คนหนุ่มๆ ส่วนมากก็เป็นผู้มีราคะกล้าชอบยินดีในรูปงามๆ ท่านจึงได้ให้อาคามมัฎฐ์เป็นฐาน คือให้จารึกนาคศพในป่าช้าบน เพื่อจะได้เกิดความเมื่อนไหน คลาดความอดียมกันใน สังขารร่างกาย ใจจะได้ลดน้อยไปในกายอะไรก็ตาม