ข้อความต้นฉบับในหน้า
แสงสว่างที่แท้จริง แม้มองไม่เห็น ก็สามารถเปล่งประกาย ด้วยคุณค่าภายในตัวเรา
"มานี่สิ แล้วเธอจะเห็นว่าแม้ไม่มีแสงในตัวเอง เรายังสามารถทำอะไรได้มาก" เมฆสุดดวงดาวให้ลองตาม "บางวันที่แสงแดดเจิดจ้า เราจะทอดเงามูคลายร้อนให้คุณ" เมฆอีกก้อนหนึ่งยังมีความหวังให้ดวงดาว "และถ้าเป็นฤดูเมื่อปลูก เราจะกลายเป็นฝัน นับแสน นับล้าน ให้เมล็ดพืชผันพันดิ้นได้องาม"
"หรือให้ความชุ่มเย็นในวันที่อึมครึมอย่างนี้" เมฆอีกก้อนกล่าว จากนั้นหมุนมุ่งพิทักษ์หัวเราะ "แล้วโปรยปรายสายฝนอย่างมีความสุข แม้ว่าไม่มีแสงสว่างในตัวเองก็ตาม"
ทันใดนั้น ท่ามกลางแสงแดดที่ส่องผ่านพ่นฝนสายรุ้งก็ลงมาปลอม 'นอกจากไม่มีแสงสว่างแล้วฉันยังไม่ได้ติดปลุกปุกนก ต้องฝันดี ได้รับปลุกความหวังให้เป็นสายพานกำลังใจในหัวนอนจากฉันทนาคม สู่ความจริง"
"แต่ทำไมเมื่อสายรุ้งจากลาก ผู้คนยังคงจดจำรึง ที่ขอบฟ้าได้" ดาวจาน
"เมื่อเราได้ให้สิ่งดีงาม คุณค่าของการให้จะทำให้คุณจดจำ เชื่อเถอะว่า เมื่อเธอให้เองนั้น ลิงนอกไม่สำคัญเท่าสิ่งที่อยู่ 'ภายใน'" อีกครั้งหนึ่งที่ดาวนับนึงเงียบ
ในขณะที่ค่ำคืนวิบวับเมฆอีกครั้ง ไม่มีแสงจันทร์ ไม่มีแสงสว่างภายนอก ได้สิ่งที่จ้องตามองในคืนก็ดูเหมือนเหมือนเดิมก็ไม่แตกต่างกันเลย ดาวภาคระห์ ดาวตก หรือเท่ะรึวกาบากา แสงสว่างที่แท้จริง แมงงอมไม่เห็น ก็สามารถเปล่งประกายด้วยคุณค่า "ภายใน" ตัวเรา
หากว่า เราก็อยากแสวงหาในตัวเองเหมือนกับหอยห้อยเป็นผู้นำให้เหมือนเมฆเงน คว้ารอหวังให้คิดก่อนเป็นอยู่คู่ตนเองช่อมแล้ว เราจะพบว่า การสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นภายใน แล้วแบ่งปันให้อยู่ในแบบที่เราเป็นตัวเองและมีค่าที่แท้จริง ดวงดาวอาจสุขใจ แต่จะไม่ความหมาย ถ้าฉันได้แบ่งปันความหวังให้ใครเลยสักคน
ขอบคุณ
Taireaderclub.com (นิเต็ง : นาคมศ)