ข้อความต้นฉบับในหน้า
ยินดีต้อนรับ...ท่องประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ตอนที่ 6
ภาพ : พ.ณัฐวัฒน์ ณรุโณ
การปรับตัวอีกครั้งของศาสนจักรและการทวงถามคำคืนของวรรณกษัตริย์
ยุคพระเวลา เนื่องจากพระอินทร์เป็นใหญ่ : วรรณเกษัตริย์สูงสุด
เกิดคัมภีร์ไตรเทว เพื่อทำพิธีกรรมสื่อสารกับเทพเจ้า
เชื่อว่าการทำให้พระระลึกพอใจ จะต้องบูชายัญด้วยชีวิตสัตว์และน้ำโสม โดยพระมหณีเป็นผู้ทำพิธี จึงเกิดคัมภีร์ไตรเทวเพื่อใช้ทำพิธีกรรมต่าง ๆ ปลายยุคเกิดแนวคิดว่า พระอินทร์ยังไม่ยิ่งใหญ่และไม่บริสุทธิ์ จึงเกิดพระพรหมขึ้นมาแทน
ยุคพราหมณ์ เชื่อว่าพระพรหมเป็นใหญ่ เป็นผู้สร้างทุกสิ่ง : วรรณพระเดษสูงต่อพัฒนาเป็น “ตรีมุติ” เพื่ออธิบาย “การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป”
เกิดคัมภีร์อรรถราวี่ ซึ่งเป็นมนต์รับไส่ลักษณ์ร้าย (ต่างจากพระเวทอื่น ๆ ที่เน้นการสื่อสารกับพระเจ้า)
ต่อมาเกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับโลกและชีวิตเช่น การบูชายัญดีจริงหรือ? เราเกิดมาทำไม? ตายแล้วไปไหน? อะไรคือการพ้นทุกข์ที่แท้จริง?
ปลายยุคผู้นำจำนวนมากสังกัดพระพรหมรู้สึกไม่มั่นใจในคำสอนของพราหมณ์และเริ่มหาคำตอบเรื่องการเกิดทุกข์
ยุคอปนียะท เกิดแนวคิดเรื่อง พระมหมัน-อาตมัน และ โมนาคะ คือการพ้นทุกข์
เกิดคัมภีร์รูปปิยัน หรือเรียกว่า “คัมภีร์เจริญตะ” (ที่สุดแห่งพระองค์)
เพื่อถามโจทย์เรื่องการเกิด
จึงเกิดแนวคิดเรื่อง “พรหมัน-อาตมัน” และพัฒนาคัมภีร์อุปนิษัทขึ้นมา
คัมวิธีพระกฤษณะอวาลามจากลานของพระองค์ แต่คัมภีร์อุปนิษัทคือการกลับไปสู่พระเจ้า จึงสำคัญกว่าคำกล่าวว่า “แม่ผู้กาลในพระเจ้า ก็ยังมอาจสูดพันจากทุกข์หรือโมกษะได้ เพราะเขายังไม่รู้จักพรหมมันแต่ถูกผู้รู้จักพรหมมัน แล้วจะไม่รู้จักพระเจตเลย ย่อมสามารถศึกษาตนให้หลุดพ้นจากทุกข์ได้”
ตอนต่อไปเราจะมาพูดถึงแนวคิดในเรื่อง “พรหมัน-อาตมัน” ติดตามที่หน้านะครับ