สหประชาชาติออกโรงตำหนิเอเชียคุ้นเคยกับการติดสินบนเล็ก
ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ได้รับความสะดวกสบายในการติดต่องานต่าง ๆ
ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและคนยากจน
โครงการพัฒนาของสหประชาชาติ หรือยูเอ็นดีพี เผยรายงานชื่อ
“การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น เปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่” โดย อนูราทา ราจิวัน
หัวหน้าทีมจัดทำเมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า
คนเอเชียคุ้นเคยกับค่านิยมติดสินบนเล็ก ๆ น้อย ๆ
เพื่อให้งานเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น
แต่รายงานล่าสุดขององค์การสหประชาชาติ
กลับระบุว่าค่านิยมดังกล่าวเป็นตัวการบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย
และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากที่สุดก็คือกลุ่มคนยากจน
รายงานระบุอีกว่า คนเอเชียคุ้นเคยกับค่าน้ำร้อนน้ำชา
จนมองเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว การกวาดล้างคดีทุจริตคอร์รัปชั่น
จึงมุ่งเน้นไปที่รายใหญ่เป็นสำคัญ โดยลืมนึกไปว่ายังมีการติดสินบน
หรือการคอร์รัปชั่นในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในสังคมของคนเอเชีย
ซึ่งถ้าสามารถแก้ปัญหาในการเรียกเก็บค่าน้ำร้อนน้ำชาหมดไปได้
ก็จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มคนยากจน
เพราะเป็นกลุ่มที่มักถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้อยู่เป็นประจำ
ทั้งนี้ คนยากจนจำนวนมากไม่มีเงินในการติดสินบน จึงทำให้พวกเขามักถูกละเลย
ไม่สามารถเข้าถึงระบบการศึกษา หรือการให้บริการสุขภาพขั้นพื้นฐาน
ส่งผลให้ตัวเลขทารกที่เสียชีวิตหลังคลอดมีจำนวนสูงมากในกลุ่มคนยากจน
เมื่อไม่ได้โอกาสทางสังคม การจะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ก็แทบเป็นไปไม่ได้
รายงานยังระบุว่า จากการสำรวจไปทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พบว่า
นักการเมืองเป็นกลุ่มที่รับเงินสินบนมากที่สุด ตามมาด้วยตำรวจและนักกฎหมาย
ประชาชนที่อยู่ในเอเชีย-แปซิฟิกเกือบร้อยละ 20 อ้างว่า
ต้องจ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชาให้ตำรวจเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนผู้ที่อยู่ในแถบเอเชียใต้ หลายคนต้องติดสินบนเจ้าหน้าที่
จึงจะได้รับความสะดวกในการรักษาตัวที่โรงพยาบาล
แม้แต่มารดาที่เพิ่งคลอดบุตร ถ้าอยากจะเห็นหน้าลูกที่เพิ่งเกิด ก็ต้อง
จ่ายเงินพิเศษให้เจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้
ยังมีการทุจริตในภาคการศึกษา ทำให้อัตราการไม่รู้หนังสือเพิ่มสูงขึ้น
รายงานขององค์การสหประชาชาติชุดนี้ได้รับการเปิดเผยในประเทศอินโดนีเซีย
ซึ่งประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโฮโยโน ของอินโดนีเซีย ก็เห็นด้วยว่า
จะต้องเร่งแก้ปัญหาการเรียกเก็บเงินสินบนเล็ก ๆ น้อย ๆ
และรัฐบาลอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่า
รัฐเอาจริงกับปัญหานี้ เพราะเป็นที่รู้กันว่า
อินโดนีเซียถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุดในโลก. |