Picture from internet
BANGALORE: The body of an 80-year-old Mundgod monastery monk who died three weeks ago has shown no signs of decomposition.

The KLE hospital in Belgaum had declared the Buddhist spiritual leader, Trippa Lobsung Nyama, dead but his followers insist he has attained samadhi (a deep, blissful, meditative state). All these days the body was kept inside an air-cooled hall where his followers offered prayers. Their belief only got strengthened when the body showed no signs of decomposition weeks after the death.

The Mundgod monastery soon turned into a pilgrimage centre for Buddhists.

A KLE medical team then studied the body. Senior Dr. Vinay Mahishal, who was part of the team, told DNA that they sent their “confidential” report to the KLE medical trust chairman. “There’s no doubt that he is clinically dead. And I am surprised how putrefaction has not yet set in. The body was as serene and shining as on the day of death,” the doctor said.

The hospital authorities explained that when a person stops taking water and food, water content in the body dries up, slowing down, or even temporarily arresting, putrefaction. The monk in question had stopped eating from some time before his death. It does not, however, mean that his body will remain that way for long. It could seem fresh for a while only. The only way to keep it intact for ages is to mummify it and his followers are doing that.

The hospital authorities said the monk’s relatives and associates agree that he is not going to be the same again. But “he was no ordinary mortal” they are convinced. “How else does one explain the non-decomposition of his body,” asks a monk. They are already working on a ‘samadhi sthal’.
 

พระเถระมรณภาพแล้ว 3 สัปดาห์ผิวพรรณยังดูสดใสมีเลือดฝาด

เมืองเบงกาลอสรีระของพระเถระวัย 80 ปีจากวัดมันกอดซึ่งมรณภาพไปเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้วไม่ปรากฎร่องรอยของการเน่าเปื่อยแม้แต่น้อย

ทางโรงพยาบาลเคเอลอี ที่เมืองเบลกัม ได้ออกมาแถลงว่า พระเถระผู้นำทางศาสนาพุทธรูปนี้ ชื่อ ทริพพา ลอพซัง ไนเอม่า ได้มรณภาพแล้วแน่นอน ในขณะเดียวกันทางด้านสานุศิษย์ของท่านยืนยันว่า พระมหาเถระองค์นี้ท่านได้เข้าถึงสมาธิขั้นสูงแล้ว และหลังจากการมรณภาพของท่านแล้ว สรีระของท่านได้ถูกนำไปเก็บไว้ในห้องโถงซึ่งติดเครื่องปรับอากาศอย่างดีเพื่อให้สานุศิษย์ทั้งหลายได้เข้าไปสวดมนต์ถวายสักการะ ศรัทธาของสานุศิษย์ทั้งหลายที่มีต่อพระมหาเถระองค์นี้ได้เพิ่มพูนมากขึ้นเมื่อเห็นสภาพของสรีระของท่านไม่ปรากฎร่องรอยของการเน่าเปื่อยแม้แต่น้อยหลังจากการมรณภาพไปแล้วหลายสัปดาห์

จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้วัดมันกอดแห่งนี้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญของพุทธศาสนิกชนไปโดยฉับพลัน

คณะแพทย์ของโรงพยาบาลเคเอลอีได้ทำการตรวจสรีระของพระมหาเถระหลังจากการมรณภาพแล้ว  ดร. วินัย มหิชอล แพทย์ท่านเป็นหนึ่งของทีมแพทย์โรงพยาบาลเคเอลอีกล่าวว่า จากรายงานผลการตรวจ ดีเอนเอ ที่ส่งไปถึงประธานของ เคเอลอี เมดดิคอล ทรัสต์ ระบุว่า "ไม่มีข้อสงสัยแต่อย่างไรว่า ในทางการแพทย์ถือว่า พระมหาเถระท่านได้มรณภาพแล้ว และผมเองก็รู้สึกประหลาดใจเหมือนกันว่า ทำไมสภาพเน่าเปื่อยจึงไม่ปรากฎขึ้นแก่สรีระของท่าน สภาพสรีระของท่านในขณะนี้ดูสงบและผ่องใสเหมือนกับวันที่ท่านเพิ่งหมดลมหายใจใหม่ๆ” นายแพทย์กล่าว

เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลอธิบายเพิ่มเติมว่า ปกติแล้วเมื่อใดก็ตามที่ร่างกายของคนเราหยุดการได้รับอาหารและน้ำ ปริมาณน้ำในร่างกายที่มีอยู่ของเราจะแห้งลง ปฏิกริยาเคมีก็จะลดลง หรือแม้แต่อาการเน่าเปื่อยชั่วคราวก็อาจเกิดขึ้นได้ แม้ว่าในขณะนั้นเรายังไม่เสียชีวิตก็ตาม  แต่พระมหาเถระองค์ที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้ ท่านได้หยุดการบริโภคอาหารมาระยะหนึ่งแล้วก่อนที่ท่านจะมรณภาพ  อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในขณะนี้ร่างกายของท่านจะยังไม่ปรากฎความเน่าเปื่อยขี้น แต่สภาพสรีระของท่านก็จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในลักษณะนี้ตลอดไป สรีระของท่านจะดูเหมือนสดใสอยู่ได้เช่นนี้ก็สักระยะหนึ่งเท่านั้น  มีวิธีการเดียวที่จะรักษาสรีระของท่านให้คงอยู่ตลอดไปก็คือ การทำมัมมี่กับสรีระของท่าน ซึ่งทางสานุศิษย์ของท่านก็กำลังเตรียมการอยู่

เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลยังกล่าวอีกว่า ทางฝ่ายญาติและผู้เกี่ยวข้องกับพระมหาเถระรูปนี้มีความเห็นตรงกันว่า ถึงอย่างไรพระเถระท่านก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว “ท่านได้สูญเสียความมีชีวิตชีวาไปแล้ว” พวกเขามั่นใจว่าเป็นเช่นนั้น “แต่ว่า ใครจะอธิบายได้ว่า การที่สภาพสรีระของพระเถระท่านไม่เน่าเปื่อยนั้นเป็นเพราะสาเหตุใด” พระภิกษุรูปหนึ่งตั้งคำถาม
 
  ที่มา-http://www.dnaindia.com/report.asp?newsid=1196308
 
 
 
 
 
 
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง