นิตยสาร ScienceDaily (วันที่ 21 มกราคม 2552) –รายงานว่าในขณะที่อากาศหนาวจัดกำลังกระหน่ำพื้นที่หลายแห่งของทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งดูเหมือนว่า ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นนี้ช่างตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่ว่า ภาวะโลกร้อนยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง จากการสำรวจครั้งใหม่พบว่า นักวิทยาศาสตร์ต่างมีความเห็นพ้องต้องกันอย่างเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับข้อแท้จริงที่ว่า สภาพทางภูมิอากาศของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงและสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนี้มาจากมนุษย์

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ด้านสาขาสภาวะแวดล้อมของโลกจำนวน 3,146 คนได้ทำการสำรวจพื้นที่ทั่วโลกแล้วเห็นพ้องตรงกันอย่างสะเทือนใจว่า   ในระหว่าง 200 ปีเศษที่ผ่านมา อุณหภูมิของโลกโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นมาโดยลำดับ และการกระทำของมนุษย์นั่นแหละเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มสูงขึ้น

นายปีเตอร์ โดแรน (Peter Doran) ศาสตราจาย์เกี่ยวกับโลกและสิ่งแวดล้อมแห่งมหาวิทยาลัยอิลินอยด์ มลรัฐชิคาโก ได้ร่วมกับอดีตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอีกท่านหนึ่งชื่อแม็กกี้ เคนเดลล์ ซิมเมอร์แมน (Maggie Kendall Zimmerman) ทำการสำรวจสภาวะแวดล้อมของโลกเมื่อปลายปีที่แล้ว

ผลจากการสำรวจได้ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านใน นิตยสาร Eos, Transactions, American Geophysical Union.

และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาที่ว่า พวกนักวิทยาศาสตร์เป็นพวกที่ตื่นตระหนกเร็วเกินไปเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน และข้อโต้แย้งต่อความเห็นที่ว่า มนุษย์เป็นผู้ที่สร้างผลกระทบให้เกิดสภาวะโลกร้อนขึ้น Doran และ Kendall Zimmerman จึงได้ร่วมกันสำรวจความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์ในสาขาเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมของโลกที่พวกเขาสามารถหาได้ และติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านสิ่งแวดล้อมของโลกมากกว่า 10,200 คนที่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนรายชื่อที่จัดทำขึ้นเมื่อปี 2007 โดยผู้อำนวยการภาควิชา Geoscience ของสถาบัน The American Geological Institute เพื่อขอความเห็นในเรื่องที่ตนกำลังสำรวจอยู่

ผู้ชำนาญการด้านวิชาการและศูนย์งานวิจัยของรัฐบาลหลายแห่งได้ร่วมกันส่ง e-mail เพื่อเชิญชวนให้มีส่วนร่วมในการลงคะแนน online ผ่านเวปไซท์ชื่อ questionpro.com  ผู้ที่ได้รับ e-mail เชิญชวนเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าร่วมลงคะแนนได้ และหมายเลข Computer IP ของผู้ลงคะแนนจะถูกบันทึกไว้เพื่อตรวจสอบและป้องกันการลงคะแนนซ้ำ  คำถามที่ถามในแบบสอบถามที่ส่งออกไปได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญในการทำแบบสอบถาม เพื่อป้องกันการลำเอียง อันเกิดจากการใช้คำพูดในการตั้งคำถาม เป็นต้นว่า มีการชี้นำคำตอบในประโยคที่ถาม  และในแบบสอบถามชุดนี้มีแค่ 9 คำถามเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นแบบสอบถามสั้นๆ ที่ใช้เวลาในการทำเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็เสร็จ

ในจำนวนคำถามทั้ง 9 ข้อนี้มีเพียง 2 คำถามเท่านั้นที่เป็นหัวใจสำคัญ คือ ข้อที่ถามว่า ระดับอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกได้เพิ่มสูงขึ้นใช่หรือไม่เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนปี 1800 และคำถามอีกข้อที่ว่า พฤติกรรมของมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญใช่หรือไม่ที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเปลี่ยนแปลง

ผลจากการสำรวจ ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของนักวิทยาศาสตร์เห็นด้วยกับคำถามในข้อแรกนี้ และ 82 เปอร์เซ็นต์เห็นด้วยกับคำถามข้อที่ 2

ส่วนในการตอบคำถามเชิงวิเคราะห์ของกลุ่มย่อย Doran พบว่า นักภูมิอากาศวิทยาที่กระตือรือร้นในการทำการวิจัยแสดงออกอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า สาเหตุของสภาวะโลกร้อนนั้น 97% มนุษย์มีบทบาทสำคัญ ส่วนพวกนักธรณีวิทยาด้านปิโตรเลียม (Petroleum geologists) และนักอุตุนิยมวิทยา (Meteorologists) กลับเป็นกลุ่มคนหลักที่ยังแสดงข้อกังขาในเรื่องนี้ โดย 47% ของกลุ่มแรก และ 64% ของกลุ่ม 2 เท่านั้นที่เชื่อว่า มนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องการทำให้โลกร้อนขึ้น Doran ได้เปรียบเทียบข้อมูลจากแบบสอบถามที่ทำขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ที่ให้มีการลงคะแนน แสดงให้เห็นว่า เพียงแค่ 58% ของสาธารณชนคิดว่า พฤติกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนขึ้น

“การโต้แย้งของทางนักธรณีวิทยาด้านปิโตรเลียม (The Petroleum geologists) ในประเด็นนี้นั้นไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจนัก แต่การไม่เห็นด้วยจากทางด้านนักอุตุนิยมวิทยา (The meteorologists) นั้นน่าสนใจ” เขากล่าว “สาธารณชนจำนวนมากคิดว่า นักอุตุนิยมวิทยารู้เรื่องเกี่ยวกับภูมิอากาศเป็นอย่างดี แต่จริงๆ แล้ว พวกนักอุตุนิยมวิทยาส่วนมากจะศึกษาเรื่องของอากาศ และปรากฎการณ์ต่างๆ เพียงแค่ในระยะสั้นๆ ของการเกิดเหตุการณ์เท่านั้น

เขาจึงไม่รู้สึกประหลาดใจที่ข้อมูลปรากฎออกมาว่า นักอุตุนิยมวิทยาเกือบจะมีความเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์กับทางนักภูมิอากาศวิทยา

“เพราะคนสองกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ทำการศึกษาและเผยแพร่เกี่ยวกับเรื่องภูมิอากาศของโลก ดังนั้นผมจึงคาดการณ์ว่า สาระสำคัญที่เราสามารถนำกลับมาด้วยได้เพื่อใช้อ้างอิงต่อไปก็คือ ยิ่งเรารู้เรื่องของภูมิอากาศมากเท่าไร เราจะยิ่งเชื่อเรื่องสภาวะโลกร้อนและเชื่อว่ามนุษย์เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งนี้มากขึ้นเท่านั้น

Doran และ Kendall Zimmerman กล่าวว่า “การโต้แย้งกันในหัวข้อที่ว่า โลกกำลังเกิดสภาวะโลกร้อนจริงหรือ และในหัวข้อบทบาทของพฤติกรรมของมนุษย์ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้มีการทำอะไรอย่างจริงจังในหมู่ผู้ที่เข้าใจถึงความแตกต่างของภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้น รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกระบวนเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศในระยะยาว” พวกเขาทั้งสองเขียนทิ้งท้ายเอาไว้ว่า สิ่งที่ท้าทายในขณะนี้ก็คือ จะทำอย่างไรที่จะสื่อสารเรื่องนี้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกับผู้ที่ทำหน้าที่ออกนโยบายต่างๆ และกับสาธารณชนผู้ซึ่งยังคงได้รับข้อมูลอย่างผิดๆ จากการถกเถียงกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์ด้วยกันเอง

 

ที่มา-http://www.sciencedaily.com/releases/2009/01/090119210532.htm

แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

บทความที่เกี่ยวข้อง