กุหกชาดก ชาดกว่าด้วยพูดดีได้เงินได้ทอง

เศรษฐีได้นำทองคำไปฝังไว้ใกล้ๆ บรรณศาลาของดาบส และได้ฝากฝังดาบสให้เป็นผู้ดูแลทองคำนั้น ดาบสปลอมหรือชฎิลโฏงได้ถือโอกาสขุดเอาทองคำของเศรษฐีในยามค่ำคืนไปแอบซ่อนไว้ที่อื่นจนหมดสิ้น https://dmc.tv/a26493

บทความธรรมะ Dhamma Articles > นิทานชาดก 500 ชาติ
[ 6 ต.ค. 2563 ] - [ ผู้อ่าน : 18273 ]

ชาดก 500 ชาติ

กุหกชาดก-ชาดกว่าด้วยพูดดีได้เงินได้ทอง

พระศาสดาทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร

พระศาสดาทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร
  
        ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภิกษุผู้มักหลอกลวงรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนาดังนี้
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตทรงครองราชสมบัติในกรุงพาราณสี ชฎิลโกงผู้หนึ่งเป็นดาบสหลอกลวงอาศัยอยู่ในหมู่บ้านตำบลหนึ่ง
 
กรุงพาราณสีปกครองโดยพระเจ้าพรหมทัต
 
กรุงพาราณสีปกครองโดยพระเจ้าพรหมทัต
 
        “ ดูดาบสผู้นี้สิ ข้าได้ยินว่าท่านมีตาทิพย์ หูทิพย์ด้วยนะ ” “ จริงรึ แบบนี้พวกเราต้องฝากตัวท่านเป็นศิษย์ซะแล้ว ” “ เฮอะ ๆ ๆ ๆ พวกชาวบ้านนี่โง่จริง ๆ
แค่แต่งตัวเป็นนักบวช นั่งอยู่นิ่ง ๆ  ก็มีคนมากราบไหว้เรา เฮอะ ๆ ๆ ” เศรษฐีผู้หนึ่งเห็นดาบสนั้นแล้วเกิดความเลื่อมใส ด้วยเชื่อว่าดาบสนั้นเป็นผู้มีศีล
จึงได้สร้างศาลาในป่าถวาย
 
ชฎิลโกงปลอมตัวเป็นดาบสเพื่อหลอกลวงชาวบ้าน
 
ชฎิลโกงปลอมตัวเป็นดาบสเพื่อหลอกลวงชาวบ้าน
 
        “ ท่านดาบส เราขอถวายศาลานี้ให้ท่านใช้บำเพ็ญเพียร ” ไม่เพียงสร้างศาลาถวายเท่านั้นเศรษฐียังปรนนิบัติดาบสนั้นด้วยอาหารประณีตในเรือนของตน
“ อาหารพวกนี้ ข้าให้พ่อครัวที่บ้านปรุงสุดฝีมือ เชิญท่านกินตามสบายเถิด ” “ เกรงใจแล้ว ๆ ” ครั้งนั้นมีข่าวว่าโจรร้ายออกปล้นชาวบ้าน

ชาวบ้านต่างพากันพูดถึงดาบสด้วยความเลื่อมใส
 
ชาวบ้านต่างพากันพูดถึงดาบสด้วยความเลื่อมใส
 
        เศรษฐีกลัวทองคำของตนจะถูกปล้นจึงนำเอาทอง ๑๐๐ แท่งนั้นไปยังศาลาของดาบส แล้วก็ฝังไว้ในดินข้างศาลา “ ท่านดาบสข้าขอฝากทองคำนี้
ให้ท่านช่วยดูแลด้วยเถิด ” “ อย่าห่วงไปเลย ขึ้นชื่อว่าความโลภในสิ่งของผู้อื่น ไม่มีในหมู่บรรพชิตเราเลย ”
 
ชฎิลโกงมีควากระหยิ่มในใจที่ตนสามารถหลอกลวงชาวบ้านได้สำเร็จ
 
ชฎิลโกงมีควากระหยิ่มในใจที่ตนสามารถหลอกลวงชาวบ้านได้สำเร็จ
 
        “ เช่นนั้นข้าก็สบายใจ ท่านช่างเป็นผู้มีศีลน่าเลื่อมใสยิ่งนัก ” “ เหอะ ๆ ๆ อยู่ดี ๆ ก็มีลาภก้อนโตมาให้เรา เจ้าเศรษฐีนี้ช่างโง่จริง ๆ ” ดาบสชั่วคิดหาทาง
ขโมยทองของเศรษฐี จึงออกอุบายทยอยขุดทองไปแอบซ่อนไว้ที่อื่น เมื่อล่วงไปได้สองสามวันดาบสนั้นก็เริ่มลงมือขโมยทอง
 
เศรษฐีได้สร้างบรรณศาลาถวายให้ท่านดาบสได้พักอาศัย
 
เศรษฐีได้สร้างบรรณศาลาถวายให้ท่านดาบสได้พักอาศัย
 
        “ โอ้โห ทองทั้งนั้นเลย คราวนี้เรารวยแล้วล่ะ ไม่ต้องมาแกล้งถือศีลบำเพ็ญตบะอีกแล้ว ทอง ” ดาบสนั้นขุดทองในเวลากลางคืน แล้วนำไปแอบซ่อน
ในเวลาตอนเช้า ระหว่างที่เดินทางไปกินอาหารที่บ้านเศรษฐี เพียงไม่กี่วัน ทอง ๑๐๐ แท่ง ก็ถูกขุดไปจนหมดสิ้น
 
เศรษฐีได้น้อมถวาย<a href=http://www.dmc.tv/search/ภัตตาหาร title='ภัตตาหาร' target=_blank><font color=#333333>ภัตตาหาร</font></a>อย่างดีแก่ท่านดาบสในเรือนของตน
 
เศรษฐีได้น้อมถวายภัตตาหารอย่างดีแก่ท่านดาบสในเรือนของตน
 
        “ ทองทั้งหมดนี้เป็นของข้าแต่เพียงผู้เดียว ฮ่า  ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” เมื่อขนทองไปจนหมดสิ้นแล้ว ดาบสชั่วก็คิดหลบก็คิดหลบหนี พอวันรุ่งขึ้นเมื่อดาบส
ทำกินอาหารในเรือนของเศรษฐีเสร็จแล้ว จึงกล่าวลาเศรษฐี “ ท่านเศรษฐี ข้าอยู่ที่ศาลานี้มาก็นานพอสมควร
 
มีโจรร้ายออกปล้นสะดมชาวบ้าน
 
มีโจรร้ายออกปล้นสะดมชาวบ้าน
     
        ขึ้นชื่อว่าบรรพชิตพัวพันอยู่กับคฤหัสถ์มากไปก็จะไม่ดี ” “ ถ้าอย่างนั้น ท่านดาบสจะให้ข้าทำอย่างไรกันรึ ” “ ข้าว่าสมควรแก่เวลาแล้ว ที่ข้าจะต้องออกเดินทาง
ไปบำเพ็ญเพียรที่อื่นเสียที ” “ ท่านดาบสอยู่ต่ออีกหน่อยเถิด ชาวบ้านที่เลื่อมใสท่านจะได้มีที่พึง ” แม้เศรษฐีจะอ้อนวอนแล้วอ้อนวอนเล่าก็ไม่เป็นผล
 
เศรษฐีนำทองคำ ๑๐๐ แท่งมาฝังไว้ใกล้บรรณศาลาของท่านดาบส
 
เศรษฐีนำทองคำ ๑๐๐ แท่งมาฝังไว้ใกล้บรรณศาลาของท่านดาบส
 
        ด้วยเป็นอุบายของดาบสที่ต้องการหลบหนีไปจากที่นั้นพร้อมทองคำที่ขโมยมา “ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็นิมนต์ไปเถิดท่านดาบส ข้าคงส่งท่านได้แค่นี้แหละ ”
เศรษฐีส่งดาบสถึงประตูบ้านแล้วจึงกลับ ฝ่ายดาบสนั้นแม้จะมีโอกาสหนีแล้ว แต่ก็กลัวเศรษฐีจะคิดสงสัย จึงวางแผนลวงให้เศรษฐีเชื่อใจ
และหมดความสงสัยในตน
 
ท่านเศรษฐีได้ฝากให้ดาบสช่วยดูแลทองคำที่ตนฝั่งไว้
 
ท่านเศรษฐีได้ฝากให้ดาบสช่วยดูแลทองคำที่ตนฝั่งไว้
 
        “ เจ้าเศรษฐีนั่น จะสงสัยข้าหรือเปล่านะ ถ้าเกิดมันสงสัยแล้วตามมาก็คงแย่แน่ แบบนี้ข้าต้องแกล้งหลอกให้มันเชื่อใจ ” คิดได้ดังนี้แล้วดาบสจึงเอาหญ้า
วางไว้ระหว่างชฎาแล้วเดินย้อนกลับมายังเรือนของเศรษฐี “ อ้าว ท่านดาบส ท่านกลับมาด้วยเหตุอะไรกันรึ หรือท่านเปลี่ยนใจแล้ว ”

ดาบสได้แอบทยอยขุดทองคำในยามค่ำคืน
 
ดาบสได้แอบทยอยขุดทองคำในยามค่ำคืน
  
        “ ปะปะ ปล่าวเลย ที่ข้ากลับมานี่ ก็เพราะหญ้าเส้นหนึ่ง เกี่ยวชฎาของข้าไปจากชายคาเรือนของท่าน ขึ้นชื่อว่าการลักขโมย มันไม่สมควรแก่ดาบสเยี่ยงข้า
ข้าจึงต้องเอามันมาคืนให้ท่าน ” “ ไม่เห็นต้องลำบากเลยท่านดาบส จงทิ้งมันไป แล้วเดินทางต่อเถิด ” “ ดาบสผู้นี้ช่างน่านับถือยิ่งนัก ไม่ถือเอาของของผู้อื่น
 
ดาบสได้ขุดทองคำทั้งหมดจนครบ ๑๐๐ แท่ง    

ดาบสได้ขุดทองคำทั้งหมดจนครบ ๑๐๐ แท่ง
 
        แม้เพียงเส้นหญ้าก็ยังเอามาคืนเรา ช่างน่านับถือจริง ๆ  เลย ” ในครั้งนั้นมีบัณฑิตผู้หนึ่งเดินทางไปยังชนบทชายแดน เพื่อต้องการสิ่งของแล้วได้อาศัย
พักแรมที่บ้านท่านเศรษฐี เศรษฐีได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แล้วได้กล่าวสรรเสริญดาบสนั้นให้บัณฑิตฟัง “ น่าเสียดาย ท่านมาถึงที่นี่ช้าไป ไม่เช่นนั้น
คงได้มีโอกาสพบกับดาบสผู้น่าเลื่อมใสเป็นแน่ ”

ดาบสได้แอบนำทองคำทั้งหมดไปซ่อนไว้ในที่ของตน
 
ดาบสได้แอบนำทองคำทั้งหมดไปซ่อนไว้ในที่ของตน
  
        “ ดาบสที่ท่านพูดถึง น่าเลื่อมใสอย่างไรรึ ” “ ดาบสที่ข้าพูดถึงนี้เป็นผู้อยู่ในศีล แม้เพียงเส้นหญ้าเกี่ยวชฎาไป ก็ยังนำมาคืนแก้ข้า ” บัณฑิตได้ฟังคำ
ของเศรษฐีแล้ว ก็เกิดสงสัยในพฤติกรรมของดาบส คิดว่าดาบสผู้นี้ต้องถือเอาอะไรของเศรษฐีติดไปด้วยแน่ “ ดาบสนี้มีพฤติกรรมน่าสงสัยจริง ๆ
 
ดาบสได้อำลาท่านเศรษฐีเพื่อเดินทางไปแสวงโมกขธรรมยังเมืองอื่น
 
ดาบสได้อำลาท่านเศรษฐีเพื่อเดินทางไปแสวงโมกขธรรมยังเมืองอื่น
 
        ท่านเศรษฐีก่อนที่ดาบสจะจากไปนั้น ท่านได้ฝากฝังอะไรไว้กับดาบสผู้นั้นบ้างหรือไม่ ”  “ เอ้ ขอข้านึกก่อนนะ อ้อใช่แล้ว เราฝากให้ท่านดาบสช่วยดูแล
ทองคำ ๑๐๐ แท่งของเราไว้ ” “ ถ้าเช่นนั้นท่านจงรีบไปตรวจตราดูทองนั่นเถิด ”
 
ดาบสเดินย้อนกลับมายังบ้านเศรษฐีเพื่อทำตามแผนการที่ตนวางไว้
 
ดาบสเดินย้อนกลับมายังบ้านเศรษฐีเพื่อทำตามแผนการที่ตนวางไว้
 
        แม้เศรษฐีจะยังไม่ปักใจเชื่อแต่ก็รีบไปยังบรรณศาลาของดาบส แล้วให้คนงานช่วยกันขุดเอาทองคำขึ้นมา “ ข้าว่าท่านดาบส ไม่ขโมยทองคำของข้าไปหรอก ”
“ ท่านเศรษฐีขอรับ เราขุดหาทองตามที่ท่านบอกแล้ว แต่ไม่พบเลยขขอรับ ”
 
ดาบสแสร้งทำเป็นคืนหญ้าที่ติดศีรษะของตนคืนให้กับท่านเศรษฐี
 
ดาบสแสร้งทำเป็นคืนหญ้าที่ติดศีรษะของตนคืนให้กับท่านเศรษฐี
 
        “ อะไรกัน ก็เราฝังทองนั่นด้วยมือของเราเอง พวกเจ้าหาทั่วแล้วรึ เร่งมือขุดหาให้เจอให้ได้ ” คนงานของเศรษฐีขุดหารอบบรรณศาลาจนทั่ว แต่ก็ไม่พบทองคำ
ของเศรษฐี จึงรู้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าดาบสนั้นเป็นผู้ขโมยไป “ ของของท่านผู้อื่นไม่ได้เอาไปหรอก ดาบสนั้นเป็นคนเอาไปอย่างแน่นอน ”

บัณฑิตหนุ่มได้เดินทางมายังชนบทชายแดน
 
บัณฑิตหนุ่มได้เดินทางมายังชนบทชายแดน
 
       “ โธ่ เราหลงเชื่อให้การดูแลเป็นอย่างดี นี่เราเลี้ยงโจรไว้แท้ ๆ ” “ ข้าว่าเรารีบตามดาบสนั้นไปดีกว่า ” เศรษฐีและบัณฑิตหนุ่มเร่งติดตามดาบส ไม่นานก็ตามทัน
และสามารถจับดาบสเอาไว้ได้ “ เจ้าดาบสชั่ว เจ้าหัวขโมย เสียแรงที่ข้าสร้างศาลาให้พัก ปรนนิบัติไว้ใจ ฝากฝั่งทองคำไว้กับเจ้า
 
ท่านเศรษฐีได้เล่าเรื่องราวของดาบสให้แก่บัณฑิตหนุ่มได้ฟัง
 
ท่านเศรษฐีได้เล่าเรื่องราวของดาบสให้แก่บัณฑิตหนุ่มได้ฟัง
 
       เจ้ากลับขโมยทองคำของข้าไปสะได้ “ ไอ้เราก็หลงนึกว่าเป็นคนดี แบบนี้ต้องโดน นี่แน่ะ ๆ เจ้านักบวชเก้ เอ้ย” “ โอย โอย โอ้ย เจ็บ ข้ายอมแล้ว
ข้ายอมแล้ว อย่าทำร้ายข้าเลยนะ อย่า ข้ายอมแล้ว โอ้ย หยุดได้แล้ว ” ชาวบ้านที่ติดตามมาด้วยพากันรุมทำร้ายดาบส บ้างก็ทุบตี บ้างก็แตะ

ท่านเศรษฐีได้ให้คนของตนขุดหาทองที่ตนได้ฝังไว้
 
ท่านเศรษฐีได้ให้คนของตนขุดหาทองที่ตนได้ฝังไว้
 
        เมื่อถูกทุบตีจนทนไม่ไหว ดาบสจึงยอมคืนทองทั้งหมดให้แก่เศรษฐี “ ข้ายอมแล้ว ข้ายอมแล้ว นี่ทองทั้งหมดของท่าน เอาไปเลย ข้าไม่เอาแล้ว ”
เมื่อดาบสยอมรับผิดและคืนทองให้แก้เศรษฐีแล้ว บัณฑิตหนุ่มจึงได้ให้โอวาทแก่เศรษฐี
 
เศรษฐีรู้สึกโกรธแค้นมากที่ตนเสียรู้ดาบสขี้โกง
 
เศรษฐีรู้สึกโกรธแค้นมากที่ตนเสียรู้ดาบสขี้โกง
 
        “ ดาบสนี่ขโมยทองคำ ๑๐๐ แท่งของท่านไป ท่านยังไม่ข้องใจ กลับมาข้องใจในเรื่องเพียงเส้นหญ้าเพียงเส้นเดียว ” “ นั่นสินะ ขอบใจท่านมากที่ช่วยเรา
ไม่เช่นนั้นเราคงไม่ได้ทองคำคืนเป็นแน่ ” “ ท่านดาบสถ้อยคำของท่านช่างไพเราะอ่อนหวานเสียนี่กระไร ท่านรังเกียจกระทั่งหญ้าเส้นเดียว
 
คนของท่านเศรษฐีได้พากันรุมทำร้ายชฎิลโกงในคราบของดาบส
 
คนของท่านเศรษฐีได้พากันรุมทำร้ายชฎิลโกงในคราบของดาบส
 
        แต่เมื่อขโมยทองคำไปตั้ง ๑๐๐ แท่ง กลับไม่รังเกียจเลยนะ ” บัณฑิตหนุ่มครั้นติเตียนดาบสนั้นแล้วก็ให้โอวาสแก่ดาบส “ ดูกรชฎิลโกง ท่านอย่าได้ทำกรรม
เห็นปานนี้ต่อไปอีก ดังนี้แล้วก็ไปตามยถากรรม ” 
 
ดาบสโกงยอมคืนทองคำทั้งหมดให้กับท่านเศรษฐี
 
ดาบสโกงยอมคืนทองคำทั้งหมดให้กับท่านเศรษฐี
 
         พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้แล้ว จึงตรัสว่า “ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้นที่ภิกษุนี้เป็นผู้หลอกลวง แม้ในกาลก่อนก็ได้เป็นผู้หลอกลวง
แล้วเหมือนกัน ดังนี้แล้ว ทรงประชุมชาดกว่า 
 
 
บัณฑิตหนุ่มได้ให้โอวาทแก่ชฎิลโกง
 
บัณฑิตหนุ่มได้ให้โอวาทแก่ชฎิลโกง
 
 
ดาบสโกงในครั้งนั้น ได้มาเป็น ภิกษุหลอกลวงในครั้งนี้
บุรุษผู้เป็นบัณฑิต เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า

 
 




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ธัมมัทธชชาดก ชาดกว่าด้วยพูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง
      เกฬิสีลชาดก ชาดกว่าด้วยปัญญาสำคัญกว่าร่างกาย
      ปานียชาดก ชาดกว่าด้วยการทำบาปแล้วรังเกียจบาปที่ทำ
      ชนสันธชาดก ชาดกว่าด้วยเหตุที่ทำจิตให้เดือดร้อน
      ฆตาสนชาดก ชาดกว่าด้วยภัยที่เกิดจากที่พึ่ง
      มหาสุวราชชาดก ชาดกว่าด้วยความพอเพียง
      ฌานโสธนชาดก ชาดกว่าด้วยสุขเกิดจากสมาบัติ
      สุนักขชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดย่อมช่วยตัวเองได้
      สังวรมหาราชชาดก ชาดกว่าด้วยพระราชาผู้มีศีลาจารวัตรที่ดีงาม
      อสัมปทานชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รับของทำให้เกิดการแตกร้าว
      สัจจังกิรชาดก ชาดกว่าด้วยไม้ลอยน้ำดีกว่าคนอกตัญญู
      สัมโมทมานชาดก ชาดกว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน
      อภิณหชาดก ชาดกว่าด้วยการเห็นกันบ่อยๆ