ปกติชาวพุทธทวายจะทุ่มเทให้กับงานพระศาสนามากค่ะ และภูมิใจมากที่มี 3 บุญใหญ่เกิดขึ้น ชาวทวายหลายคนที่ทำงานอยู่ต่างบ้านต่างเมืองถึงกับยอมลางาน พากันเดินทางกลับบ้านเพื่อมาร่วมบุญใหญ่ในครั้งนี้ แล้วไม่ใช่แค่ชาวทวายเท่านั้น ชาวย่างกุ้งก็มา ชาวเมาะละแหม่งก็มา ฯ ทำให้พิธีตักบาตรมีผู้มีบุญมาร่วมอย่างล้นหลาม ถามกี่คนก็ตอบอย่างเดียวกันว่า ปีติมาก ใจสว่างมาก ขนาดบนท้องฟ้าพระอาทิตย์ยังทรงกลดเลยค่ะ
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเมืองทวาย
เพื่อขอปูผ้ากระสอบ ขยายลานตักบาตรให้ไกลขึ้น
ท่านยืนพนมมือส่งคณะสงฆ์ทุกรูปเข้าสู่ลานตักบาตร
ท่ามกลางกลิ่นไอแบบดั้งเดิมของเมืองทวาย
จะสังเกตุเห็นว่าแทบทุกคนจะกล่าวคำอาราธนาศีล 5 ได้
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเมืองทวาย
งานนี้มีแต่คนปลื้มค่ะ ขนาดคุณอูคิมหม่องเอ เฮดจัดงานก็ปลื้มไม่หยุด ได้กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณหลวงพ่อวัดพระธรรมกาย ที่ส่งทีมงานมาช่วยจัดงานบุญใหญ่ในครั้งนี้ ผมและคนเมียนม่าร์ที่มาร่วมงานทุกคนรู้สึกปลื้มมากๆ ตอนนี้ผมสามารถพูดคำว่า ออบบิ ออมบิ ออมบิ ได้อย่างเต็มปากด้วยความภาคภูมิใจครับ งานครั้งนี้นับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ทุกกิจกรรมมีคนมาร่วมงานเยอะมากๆ พวกเราใช้เวลา 2-3 เดือนเพื่อเตรียมงาน ตั้งแต่ไปอบรมที่จังหวัดกาญจนบุรี เตรียมงานกันอย่างไม่หยุดพัก และตลอด 2-3 วันที่ผ่านมาก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลยครับ เราใช้ทั้งความพยามยาม ปัญญา วิริยะ จนงานประสบความสำเร็จ ถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะให้มีการจัดงานให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ ให้มีพระมามากกว่านี้ และอยากให้จัดงานเช่นนี้ทุกๆปีครับ พวกเราจะช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในเมียนมาร์ให้ดีที่สุดครับ”
ในพิธีจุดประทีปบอกได้เลยว่าอะเมซซิ่งสุดๆค่ะ เพราะผู้มีบุญพากันมาร่วมงานชนิดเยอะจนนับไม่ไหว แล้วก็เข้าสู่พื้นที่แบบไหลเข้าไปไม่หยุด แป๊บเดียวโคมลานหมื่นกว่าโคมก็มีคนนั่งเต็มทุกโคม บางโคมนั่งกันมากกว่าหนึ่งคน บางโคมก็นั่งกันทั้งครอบครัว แล้วที่เหลือก็ล้นขึ้นไปอยู่ตามขอบสนามกีฬา แล้วที่ยังเข้าไม่ได้ก็อีกเยอะมโหฬารค่ะ แต่พอพิธีกรรมเริ่มทุกอย่างก็สงบ สวดมนต์ก็พร้อมเพรียงเสียงใสแจ๋ว พอนั่งสมาธิ(Meditation)ตามเสียงนำนั่งเป็นภาษาเมียนม่าร์ของคุณครูไม่ใหญ่ก็ยิ่งสงบเข้าไปอีก ผู้มีบุญที่นี่ใจใสมากค่ะ พอถามว่านั่งสมาธิตามเสียงนำนั่งของคุณครูไม่ใหญ่ได้ผลเป็นอย่างไร หลายคนจะตอบคล้ายๆกันอย่างน่าอัศจรรย์เลยว่า “ใจสงบมาก รู้สึกมีปีติอยู่ในใจ ในใจก็มีแต่พระพุทธรูป มีความสุขมากๆ” การจุดประทีปในวันนั้นจึงสว่างไปทั้งดวงใจ โคมลาน โคมลอย แถมพระจันทร์ยังทรงกลดสวยงามมากอีกด้วยค่ะ
สัญลักษร์สำคัญทางพระพุทธศาสนาของชาวเมียนม่าร์
3 บุญใหญ่ เพื่อการสืบทอดพระพุทธศาสนาในทวายให้รุ่งเรืองในครั้งนี้ สำเร็จได้ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย ทั้งไทยและเมียนม่าร์ ทั้งคณะสงฆ์และญาติโยม ผลบุญเป็นของทุกท่าน ผลงานเป็นของทุกคนจ้า
อย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เอะก๊ะ วอน ต๊ะ ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่เซ็นต์หนังสืออนุมัติให้จัดงานในครั้งนี้ ท่านกล่าวเปิดใจด้วยความปีติว่า “งานบุญในครั้งนี้จัดได้ยิ่งใหญ่มาก ภาพงานก็น่าทึ่งมากๆ สาธุชนมากันอย่างคับคั่ง แต่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก บอกได้คำเดียวว่า ปลื้ม เราเป็นชาวพุทธเหมือนกัน มีเป้าหมายเดียวกัน เราต้องสามัคคีกัน เพื่อให้พระศาสนามีความมั่นคงแข็งแรง เราต้องช่วยกัน ความสามัคคีจะก่อให้เกิดความสุข ต่อจากนี้เราจะต้องมีการพบเจอ พูดคุย ร่วมงานกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยกันทำให้พระพุทธศาสนาทั้ง 2 ประเทศเข้มแข็ง งานครั้งนี้ประสบผลสำเร็จจริงๆ” และตอนนี้พระเถระมหาเถระหลายองค์ก็ติดต่อกับพระอินทะยานะไว้ว่า “นับจากนี้ไปถ้ามีอะไรจะให้ช่วย ให้รีบบอกรีบกล่าวมา จะขอช่วยทุกอย่าง!”
ส่วนน้อง เว ยาน อู้ อาสาสมัครอายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยทวาย บอกว่า “งานนี้ผมปลื้มมากๆเลยครับ ตอนตักบาตรผมได้เห็นและใส่บาตรพระเยอะๆ น้ำตาลูกผู้ชายของผมก็ไหลออกมาเอง และยิ่งช่วงที่เดินธุดงค์ ผมเห็นพระภิกษุท่านเดินอย่างสงบเสงี่ยม สง่างาม ดูน่าเลื่อมใสศรัทธามากเลยครับ ภาพที่เห็นเบื้องหน้านี้...ทำให้ผมอยากบวช..และอยากเดินธุดงค์แบบนี้บ้าง ปีหน้าผมจะอายุครบ 20 ปี ผมจะไปสมัครบวชที่วัดพระธรรมกาย และผมก็อยากร่วมเดินธุดงค์ที่เมืองไทยด้วยครับ ผมจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างไรบ้างครับ? หลวงพ่อครับเมื่อมีงานบุญใหญ่ที่ทวาย คณะชาวไทยพุทธก็มาร่วมรับบุญจัดงาน ดังนั้นในวันที่ 6 ธันวาคมที่จะถึงนี้พวกผมและคณะชาวทวายก็จะมาร่วมรับบุญในงานธุดงค์อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่กาญจนบุรีด้วยครับ”
มิงกะลาบาแด พญา (กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพรักสูงสุด)
วันนี้ผู้สื่อข่าวบุญสว่างขอนำเรื่องราวความปลื้ม ที่ไม่มีวันหยุดปลื้มของงานบุญ 3 บุญใหญ่เมืองทวายมาฝากเป็นฉบับสุดท้ายค่ะ
ซึ่งกว่าจะมีภาพความสำเร็จในวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยค่ะ แต่เมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นมาได้ จึงทำให้ทุกคนมีความสุขและเกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตใจของผู้มีส่วนร่วมทุกคน อย่างเช่น ซานทู ชาวทวายเจ้าของร้านอาหาร “มิสยู” ร้านอาหารไทยที่อร่อยที่สุดในทวาย
วันรุ่งขึ้นหลังจากวันงาน (7 พ.ย.57) ผมนิมนต์พระภิกษุมาฉันภัตตาหารที่ร้านของผม และผมตัดสินใจหักดิบ เลิกขายเบียร์ตลอดไปเลยครับ!! และก็แปลกครับ ตอนนี้ลูกค้ามาเยอะกว่าเดิมอีก ผมขายดีขึ้นกว่าเดิมมากๆมหาศาล
(ขวา) ซานทู กับรอยยิ้มของผู้มีชัย ตัดใจหักดิบเลิกขายเบียร์ตลอดไป