ประสบการณ์ภายใน

ผลการปฏิบัติธรรม

พระธรรมทายาทนานาชาติ ภาคภาษาจีน

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

  

    ในวันนี้ ผู้สื่อข่าว DNN ขอนำทุกท่านพบกับชีวิตอันงดงาม และผลการปฏิบัติธรรมของภิกษุธรรมทายาทนานาชาติ ภาคภาษาจีน ซึ่งทุกรูปกำลังจะกลั่นสิ่งที่ได้เรียนรู้ ไปเป็นประทีปส่องทางชีวิตให้ผู้คนอีกมากมาย ขณะนี้ พระภิกษุทุกรูปกำลังปฏิบัติธรรมอยู่ ณ สุขสันโดษ และตัวแทนบางท่าน จำนวน 5รูป จะขอนำผลการปฏิบัติธรรมมาถวายคุณครูไม่ใหญ่ ดังต่อไปนี้....

 

 

    พระอธิโก มีชื่อเดิมว่า หลู ฉี เวย อายุ 22ปี เป็นอาจารย์ลัทธิเต๋าท่านหนึ่งในไต้หวัน ท่านกล่าวว่า...เมื่อสมัยเด็กๆ ผมได้มีโอกาสฝึกสมาธิแบบพุทธศาสนามหายานบ้าง แต่เมื่อโตขึ้นก็หันมานับถือลัทธิเต๋า และปฏิบัติธรรมแบบเต๋าตลอดมา จนเมื่อปีที่แล้ว ผมมีโอกาสดูรายการโทรทัศน์ของวัดฝอกวงซัน ได้ชมรายการแนะนำวัดพระธรรมกาย แนะนำประวัติพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และคุณยายอาจารย์ หลังจากนั้น ก็ได้ทราบข่าวการอบรมธรรมทายาทนานาชาติของวัด จึงตัดสินใจมาเข้ารับการอบรมในครั้งนี้ครับ

 

    ผมเคยได้ยินพระเดชพระคุณหลวงพ่อถามลูกๆว่า ใครนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯได้บ้าง ใครเห็นแสงสว่างบ้าง ขยายใหญ่ได้หรือเปล่า แล้วแต่ละคนก็ยกมือกัน พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็จะชื่นชมว่า นั่งได้ดี ถ้าทุกคนนั่งต่อไปแล้ว ทุกคนจะมองเห็นพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เหมือนกับลืมตาเห็น

 

    ตอนนั้นผมคิดว่า สิ่งที่เรานึกเห็นจะชัดเท่ากับตาเนื้อมองเห็นได้อย่างไร แถมตอนนั้นผมนั่งแล้วขาก็ยังปวด ใจยังฟุ้งซ่าน จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่นั่งสมาธิอยู่ ใจของผมหยุดนิ่งมาก ทั้งๆที่ผมไม่ได้ตั้งใจมองไปที่ศูนย์กลางกายเท่าไหร่ แต่ผมก็เห็นองค์พระธรรมกายแก้วใส สง่างาม อยู่ด้านหน้าของผมแล้ว ชัดเจนเหมือนกับลืมตาเห็นเลยทีเดียว ผมไม่ได้ใช้ใจคิดหรือจินตนาการให้เกิดภาพเลย จากนั้น ณ ศูนย์กลางกายฐานที่7 ก็มีจุดสว่างเกิดขึ้น แล้วค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆ สว่างมากๆ แต่แสงนั้นไม่แยงตาเลย ในแสงสว่างนั้นมีองค์พระธรรมกายนั่งอยู่ในกลางดวงแก้วกลมใส ขณะนั้นผมรู้สึกสบายมากๆ และมีความสุข เมื่อผมอยากจะดูองค์พระธรรมกายใกล้ๆว่าเป็นอย่างไร ผมก็สามารถมองเห็นองค์พระ พร้อมกันทุกด้านแบบ 360องศาครับ

 

    ตอนนี้ผมมีความสุขมาก พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ผมอยากทราบเหลือเกินว่า เพราะบุญอะไร ทำให้ผมได้มาบวชที่วัดพระธรรมกาย แต่เพราะเหตุใด ผมถึงต้องมาเป็นอาจารย์ของลัทธิเต๋าก่อนหน้านี้ครับ

 

    สุดท้ายนี้ ผมต้องขอขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ให้โอกาสผมได้มาบวชในครั้งนี้ ผมขอถวายองค์พระภายในเป็นของขวัญแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ขอให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง งามสง่าเช่นนี้ตลอดไป และมีอายุมั่นขวัญยืน นำพาพระพุทธศาสนาเผยแผ่ไปได้อย่างกว้างไกลครับ

 

**********

 

 

    พระอุตฺตโร มีชื่อเดิมว่า หวง หมิง ฟา ชาวสิงคโปร์ ท่านกล่าวว่า...ตอนที่ผมอยู่สิงคโปร์นั้น เคยเรียนรู้พื้นฐานการนั่งสมาธิ แบบคอร์สสั้นๆมาบ้าง หลังจากนั้นก็มีความประทับใจเกี่ยวกับการนั่งสมาธิมาโดยตลอด เพราะสมาธิทำให้ใจของผมสะอาดบริสุทธิ์ มีความสุขและไม่เคร่งเครียดครับ และเมื่อได้มาบวชแล้ว ผมก็นั่งสมาธิโดยท่องบริกรรมภาวนาไปเรื่อยๆ แล้วร่างกายของผมก็จะเบาสบาย ไม่มีความปวดเมื่อยแม้แต่น้อย ไม่นานใจก็เริ่มสงบ หยุดนิ่ง เหมือนกับใจกำลังสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากกิเลสทั้งปวง และรู้สึกได้เลยว่า ใจหยุดนั้นมีความสุขอย่างยิ่ง จนไม่อาจบรรยายออกมาได้เลย

 

    ในบางครั้ง ผมก็มองเห็นความสว่างที่ศูนย์กลางกายฐานที่7 เห็นองค์พระแก้วใสมากๆ ลอยนิ่งอยู่กลางศูนย์กลางของดวงแก้วกลมใส แสงที่แผ่ออกไปเรื่อยๆนั้น เป็นแสงที่นุ่มนวล ไม่แสบตา ทำให้ในวันนั้นทั้งวันผมมีอารมณ์ดีตลอดครับ

 

    ผมขอขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ได้สอนวิธีนั่งสมาธิ ที่ทั้งง่ายและดี ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลงไป และขออวยพรให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อสุขภาพแข็งแรง หล่อไม่รู้จบตลอดไปนะครับ

 

**********

 

 

    พระธมฺมินฺโท มีชื่อเดิมว่า หวัง อี้ อายุ 24ปี เป็นนักศึกษาปริญญาโทจากจีนแผ่นดินใหญ่ ท่านกล่าวว่า...แรงบันดาลใจในการปฏิบัติธรรมของผม คือ แต่ก่อนสุขภาพของผมไม่ค่อยดี ทำให้จิตใจอ่อนแอ ในทางตรงข้าม เมื่อจิตใจเคร่งเครียด ก็มีผลต่อร่างกายทำให้ผมไม่สบายอีกเช่นกัน เมื่อผมได้ยินว่า การทำสมาธิ สามารถปรับสมดุลให้ร่างกายและจิตใจมีความแข็งแรงขึ้น ผมจึงหันมาลองฝึกสมาธิตั้งแต่นั้นครับ

 

    ในตอนแรก ผมฝึกสมาธิแบบอานาปานสติ โดยสูดลมหายใจลึกๆเข้าไปถึงจุด “ตันเถียน” (จุดกลางท้อง บริเวณใต้สะดือสองนิ้วมือ) แต่ต่อมา ก็ได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์ของวัดพระธรรมกาย ที่ไปเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเสฉวน ทำให้ผมได้รู้จักวัดพระธรรมกาย และการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย ท่านได้ชักชวนให้ผมเข้ามาอบรมธรรมทายาทนานาชาติในครั้งนี้ ซึ่งการมาบวชครั้งนี้ ทำให้ผมมีโอกาสนั่งสมาธิมากขึ้น

 

    พอผมนั่งโดยนึกถึงองค์พระแก้วใส ปรากฏว่า ได้ผลเป็นอย่างดี ใจสงบได้ง่าย ร่างกายเบาสบาย เหมือนกายและใจรวมกันเป็นหนึ่ง บางครั้งเมื่อใจหยุดนิ่งไปได้สักระยะ ผมก็มองเห็นองค์พระใสมากขึ้น และมีแสงสว่างออกมาด้วย ทำให้ผมมีความสุขมากเลยครับ

 

    ผมคิดว่า การครองเพศสมณะ และปฏิบัติตนแบบพระนั้นมีข้อดีมากๆ เพราะเมื่อคนรอบข้างมองมา ถ้าเราไม่ได้รับการฝึกตัวที่ดี ทำอะไรเสียงดัง ผู้อื่นก็อาจหมดศรัทธาได้ ดังนั้นจึงต้องสำรวมทั้งกาย วาจา ใจ ตลอด การฝึกเช่นนี้ มีผลอย่างมากต่อการทำให้กาย วาจา ใจ บริสุทธิ์ เหมาะสมกับการปฏิบัติธรรมไปเองโดยอัตโนมัติครับ นอกจากนี้การบวชยังทำให้ผมได้มีเรียนรู้พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากยิ่งขึ้น

 

    ผมต้องกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ทำให้ผมมีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งดีๆ ต่างๆมากมายในครั้งนี้ครับ

 

**********

 

 

    พระคุณินฺโท มีชื่อเดิมว่า จาง จ้าน อายุ 55ปี ลูกศิษย์ของ พระธรรมาจารย์ไห่เทา จากไต้หวัน ท่านกล่าวว่า...ตอนนี้ ผมได้ขึ้นมาปฏิบัติธรรมที่สุขสันโดษ บรรยากาศนั้น ร่มรื่น เย็นสบาย เหมาะกับการนั่งสมาธิอย่างยิ่ง ผมเชื่อว่า ทุกคนเวลานั่งสมาธินานๆคงจะเมื่อย ซึ่งผมเองก็ปวดเมื่อยเอามากๆ แต่ก็พยายามขยับ ปรับไปเรื่อยๆ จนตอนนี้สามารถนั่งสมาธิได้นานติดต่อกันจนหมดเวลาของการนั่งในแต่ละรอบไปได้อย่างสบายๆ

 

    ต่อมา ผมก็มาปรับที่ใจ โดยปล่อยใจสบายๆตามธรรมชาติ เมื่อใจสงบแล้ว บางครั้งก็มองเห็นแสงสว่าง รู้สึกมีความสุขมาก และทำให้เข้าใจว่า ความสุขภายในนั้น เพียงแค่เราเอาใจมาหยุดนิ่งเฉยๆ ก็พร้อมที่จะพรั่งพรูออกมาให้เราได้สัมผัสฟรีๆ ไม่ต้องเสียเงินเลย นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมชอบนั่งสมาธิมากๆครับ

 

    ผมอยากบอกพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นผู้มีมโนปณิธานที่ยิ่งใหญ่ และมีบุญมากๆด้วย ผมจึงอยากจะสร้างบารมีไปกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เมื่อกลับไปไต้หวันแล้ว ผมจะไม่ลืมที่จะปฏิบัติธรรมทุกวัน และไปร่วมสร้างบารมีที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมไทเปครับ

 

**********

 

    พระเมธิโก มีชื่อเดิมว่า เฉิน ฉง เหวิน ชาวมาเลเซีย อายุ 34ปี ท่านกล่าวว่า...ผมเคยทำงานขายประกันมาก่อนครับ ช่วงนั้น ผมต้องทำงานหนักมาตลอด จึงอยากหาเวลาส่วนตัวเป็นรางวัลให้ตัวเองบ้าง คือ การมาฝึกสมาธิครับ ผมตัดสินใจหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และพบว่าหลายแห่งในเมืองไทยจัดบวชระยะสั้น แต่ต้องฟังภาษาไทยเข้าใจถึงจะอบรมได้ ต่อมาทราบว่าที่วัดพระธรรมกายจัดอบรมธรรมทายาทนานาชาติ โดยใช้ภาษาจีน จึงได้ตัดสินใจสมัครเข้ารับการอบรมในครั้งนี้ครับ

 

    พระอาจารย์ได้สอนวิธีการนั่งสมาธิ โดยการปรับร่างกายให้ผ่อนคลาย แล้วมาปรับใจ โดยวางใจไว้กลางท้อง เหนือสะดือ 2นิ้วมือ แรกเริ่มพอหลับตาปุ๊บ ผมก็เห็นทันที ผมเห็นแต่ความมืดครับ จากนั้นผมก็เริ่มใช้ใจมองหาดวงแก้วและองค์พระ ยิ่งจงใจหาก็ยิ่งหาไม่เจอ แต่นึกถึงคำสอนของพระอาจารย์ได้ว่า ให้ทำใจนิ่งๆ เบาๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่7 ไม่ต้องไปคิดอยากได้อะไร ผมจึงนั่งต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองนั่งอยู่ในที่โล่งๆว่างๆ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังขยับไปมา แม้ว่าน้ำหนักผมจะเยอะ แต่พอใจนิ่งถึงระดับหนึ่ง ก็รู้สึกว่าร่างกายของผมนั้นเบาเหมือนจะลอยได้ ใจผมค่อยๆนิ่ง และนิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนมองเห็นแสงสว่าง แต่เป็นแสงที่มีสีเหลือง สีฟ้าและสีต่างๆ มีความสุขมากครับ

 

    ผมขอรับรองว่า ถ้าผมกลับไปมาเลเซียแล้ว จะนำวิชาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน โดยจะนั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 1ชั่วโมง ผมขออวยพรให้พระเดชพระคุณหลวงพ่ออายุยืนยาวนาน เป็นหลักชัยและเป็นเนื้อนาบุญให้กับชาวโลกตลอดไปครับ

 

**********

http://goo.gl/YiXPZ