กรมอุตุนิยมวิทยา คาดสงกรานต์ในปีนี้อากาศจะไม่ร้อนเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่หลายจังหวัดอากาศหนาวเย็น...กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า วันนี้ (31 มีนาคม) ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร มีอากาศเย็นต่อไปอีก 1-2 วัน ทั้งนี้ อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้นในตอนกลางวัน 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนกลางคืนและตอนเช้าอากาศจะหนาวเย็นพร้อมกันนี้ กรมอุตุฯ ยังเปิดเผยว่า ช่วง 4-5 เมษายน มวลอากาศเย็นจะพัดเข้าสู่ประเทศไทย ทำให้ไทยมีทั้งฝนตก และหนาวเย็นอีกครั้ง และคาดการณ์ว่าสงกรานต์ปีนี้อากาศจะไม่ร้อนดังเช่นทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัยกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัย พายุฤดูร้อน ฉบับที่ 3 โดบระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นและอากาศจะเย็นลง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บที่อาจตกตกได้บางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-25 มีนาคม 2554สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-26 มีนาคม นี้ไว้ด้วย
ฝนตกรับอรุณแต่ละท้องที่น้ำถ่วมขัง รถติดสีลมงามวงศ์วาน
อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จากอากาศร้อนกลายเป็นฝนตกสลับกับอากาศหนาว...อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จากอากาศร้อน กลายเป็นฝนตกสลับกับอากาศหนาว เข้ามาแทนที่ ทำให้หลาย ๆ คน ต่างวิตกกังวลว่า ที่สภาพอากาศแปรปรวนเช่นนี้ เป็นผลพวงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่นใช่หรือไม่ สำหรับสภาพอากาศของภายในประเทศไทย ในขณะนี้ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกมาชี้แจงว่า เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีคลื่นกระแสลมตะวันตกกำลังแรงนำความชื้นมาไทยจนทำให้ฝนตกหนัก ในหลายพื้นที่ รวมถึงกรุงเทพฯ และเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ที่เข้ามาทางด้านตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้อากาศเปลี่ยนอย่างฉับพลัน มีฝนตก และอุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็วบางพื้นที่ลดเหลือแค่ 10 องศาเซลเซียส ในขณะที่กรุงเทพฯ มีอุณหภูมิอยู่ที่ 18-20 องศาเซสเซียสและจากลักษณะอากาศที่เกิดในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคมที่กำลังเข้าสู่หน้าร้อน แต่กลับมีอากาศเย็นผิดปกติอยู่นานหลายวัน หรือที่เรียกว่า เอ็กซ์ตรีมอีเว้น หรือเป็นเหตุที่ผิดปกตินั้น เชื่อว่าสภาพอากาศจะเป็นแบบนี้ไปอีก 1-2 วัน ก่อนที่อากาศจะอุ่นขึ้น และในวันที่ 22 - 23 มีนาคม จะมีมวลอากาศเย็นจากจีนเข้ามาอีกระลอก ทำให้มีฝนตกอีก 2-3 วัน ก่อนอากาศจะกลับเข้าสู่หน้าร้อนตามปกติ อย่างไรก็ตาม สาเหตุของความปกติที่เกิดขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้อากาศแปรปรวน จนถึงขั้นหนาวแบบฉับพลันนั้น ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว หรือสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น อย่างที่หลาย ๆ คนกังวลอยู่แน่นอน
สภาพอากาศโดยรวมในแต่ละพื้นที่ของประเทศไทยภาคเหนือจังหวัดแพร่ด้วยสภาพอากาศที่เย็นฉับพลัน ทำให้วัว ของชาวบ้านที่แพร่ หมู่บ้านทุ่งล้อม ตำบลห้วยม้า อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ แข็งตายถึง 11 ตัว และวัวที่เหลือ 20 ตัว ชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้ขนมารวมกัน ก่อนจะก่อไฟ และหากระสอบมาคลุมวัว เพื่อให้ความอบอุ่น แต่ชาวบ้านเชื่อว่า หากสภาพอากาศยังคงหนาวเย็นอยู่เช่นนี้ วัว ที่เหลืออาจจะตายหมดจังหวัดลำปางขณะที่อุณหภูมิในพื้นที่ราบอยู่ที่ 10 องศาเซสเซียส และบนยอดดอยเหลือเพียง 3 องศาเซสเซียส ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ราบและตามยอดดอย ต้องใช้วิธีก่อไฟ เพื่อสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ ตำบลบ้านสา อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง พบนกนางแอ่นตะโพกแดง สัตว์ป่าคุ้มครองที่หายาก ตกมาตายนับสิบตัว ชาวบ้านเชื่อว่า นกนางแอ่นตะโพกแดง ไม่สามรถอพพยหนีอากาศหนาวได้ทัน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจังหวัดเลยในพื้นที่จังหวัดเลยประสบปัญหาจากสภาพอากาศหนาวเย็นติดต่อกัน 3 วัน ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปรับสภาพร่างกายไม่ทัน จนต้องล้มป่วย ทั้งนี้ ในพื้นที่เทศบาลตำบลนาด้วง ได้พบนกนางแอ่นตกลงมาตาย เชื่อว่า อพยพไปยังพื้นที่อื่นไม่ทันจังหวัดสกลนครหลังจากที่อากาศในพื้นที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน ทำให้ตอนนี้ อุณหภูมิในพื้นที่ราบลดต่ำกว่า 15 องศาเซสเซียส ประชาชนต้องหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ รวมถึง การก่อไฟ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย สำหรับบนยอดเขาภูพานอุณหภูมิ อยู่ที่ประมาณ 2-3 องศาเซสเซียส
ด้วยสภาพอากาศที่ยังคงหนาวเย็นสลับกับมีฝนตก ไปอย่างน้อยอีก 2-3 วัน ขอให้ประชาชน อย่าลืมพกร่มติดตัวก่อนออกนอกบ้านทุกครั้ง รวมถึงการสวมเสื้อผ้าหนา ๆ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับมือกับสภาพอากาศในขณะนี้
ที่มา www. kapook.com
http://goo.gl/y7XI9