ณ ป่าประดู่ลาย
อานิสงส์ฉันมื้อเดียวเอกาสะนิกังคะ* คือ ถือการฉันในอาสนะเดียวเป็นวัตรหรือที่เรียกกันว่า
ฉันเอกา หมายถึง การฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียวต่อวันเท่านั้นภิกษุทั้งหลาย เราฉันอาหารหนเดียว เมื่อเราฉันอาหารมื้อเดียวอยู่แล รู้สึกว่ามีอาพาธน้อย เบากาย มีกำลังและอยู่อย่างผาสุข
ภิกษุทั้งหลาย ถึงพวกเธอก็จงฉันอาหารหนเดียวเถิด แม้พวกเธอฉันอาหารหนเดียว ก็จะรู้สึกว่ามีอาพาธน้อย ลำบากกายน้อยเบากาย มีกำลัง และอยู่อยาางผาสุข
กกจูปมสูตร เล่ม ๘ หน้า ๒๕๖
ฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียว เพื่อจะได้ไม่ติดในรสชาติอาหารเอกาสะนิกังคะ คือ ถือการฉันในอาสนะเดียวเป็นวัตร หรือที่เรียกกันว่า ฉันเอกา หมายถึง การฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียวต่อวันเท่านั้นโดยพระภิกษุที่ถือปฏิบัติอย่าง อุกฤษฏ์หรืออย่างเข้มงวด จะรับภัตตาหารเฉพาะในช่วงก่อนที่จะลงมือฉันเท่านั้น เมื่อเริ่มลงมือฉันภัตตาหารแล้ว จะรับได้แต่เภสัช หรือยารักษาโรค เช่น เนยใส, เนยข้น, น้ำมัน, น้ำผึ้ง และน้ำอ้อย เป็นต้น
สำหรับพระภิกษุที่ถือปฏิบัติอย่างกลาง สามารถที่จะรับภัตตาหารจากญาติโยมเพิ่มได้ตราบเท่าที่ภัตตาหารในบาตรยังไม่ หมด เพื่อเป็นการรักษาศรัทธาญาติ โยม แต่จะรับเท่าที่ตัวเองพอฉันหมด หรือพูดง่ายๆ ว่า ประมาณในการฉัน นั่นเองส่วนพระภิกษุที่ถือปฏิบัติอย่างเบา สามารถที่จะรับภัตตาหารจากญาติโยมเพิ่มได้ตราบเท่าที่ยังไม่ลุกจากอาสนะ
ฉันด้วยความไม่ติดในรสชาติอาหาร
สำหรับวัตถุประสงค์ของการฉันมื้อเดียวเป็นไปเพื่อ..1. กำจัดความอึดอัด หรือความแน่นท้อง อันเนื่องมาจากการฉันภัตตาหารมากเกินไปซึ่ง ก็จะทำให้ร่างกายเบาสบาย กระปรี้กระเปร่า สดชื่น และสามารถบำเพ็ญสมณธรรมอย่างสะดวกสบาย2. เพื่อจะได้ไม่ติดในรสชาติอาหาร3. ฝึกให้เราเป็นผู้มีความมักน้อย เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติมได้ในข้อวัตรปฏิบัติสำหรับการธุดงค์ : อานิสงส์การถือธุดงควัตร(ภาคพิเศษ) ตอนที่ 2
เป็นคนว่าง่ายกันเถอะ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุบางรูปในพระธรรมวินัยนี้ก็ฉันนั้น เป็นคนสงบเสงี่ยมจัด เป็นคนเจียมตัวจัด เป็นคนเยือกเย็นจัดได้ก็เพียงชั่วเวลา ที่ยังไม่ได้กระทบถ้อยคำอันไม่เป็นที่พอใจเท่านั้น
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อน้นแหละควรทราบว่า เธอเป็นคนสงบเสงี่ยม เป็นคนเจียมตัว เป็นคนเยือกเย็นจริง
ภิกษุทั้งหลาย เราไม่เรียกภิกษุรูปที่เป็นคนว่าง่าย ถึงความเป็นคนว่าง่าย เพราะเหตุได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารว่า เป็นคนว่าง่ายเลยข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะภิกษุรูปนั้น เมื่อไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารนั้นก็จะไม่เป็นคนว่าง่าย จะไม่ถึงความเป็นคนว่าง่ายได้
กกจูปมสูตร เล่ม ๑๘ หน้า ๒๕๙
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็นคนว่าง่ายทางถ้อยแห่งคำถ้อยคำอันควรกล่าวดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางแห่งถ้อยคำที่บุคคลอื่นจะพึงกล่าวกะท่านมีอยู่ ๕ ประการ คือ
๑. กล่าวโดยกาลอันสมควรหรือไม่สมควร
๒. กล่าวด้วยเรื่องจริงหรือไม่จริง
๓. กล่าวด้วยคำอ่อนหวานหรือคำหยาบคาย
๔. กล่าวด้วยคำประกอบด้วยประโยชน์หรือไม่ประกอบด้วยประโยชน์
๕. มีจิตเมตตาหรือมีโทสะในภายในกล่าว
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลอื่นจะกล่าวโดยกาลอันสมควรหรือไม่สมควรก็ตาม จะกล่าวด้วยเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ตาม จะกล่าวถ้อยคำอ่อนหวานหรือหยาบคายก็ตาม จะกล่าวถ้อยคำประกอบด้วยประโยชน์หรือไม่ประกอบด้วยประโยชน์ก็ตาม แม้ในข้อนั้น พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
จิตของเราจักไม่แปรปรวน เราจะไม่เปล่งวาจาชั่ว เราจะอนุเคราะห์ด้วยประโยชน์ เราจะมีจิตเมตตา ไม่มีโทสะในภายใน แผ่เมตตาไปถึงบุคคลนั้นและเราจะแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท ไปตลอดโลกทุกทิศทุกทางซึ่งเป็นอารมย์ของจิตนั้น
http://goo.gl/6pjDd