ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๑
ดวงแก้วคุณยาย
คุณยายเคยเล่าว่า ดวงแก้วเป็นสิ่งที่ต้องเลี้ยงด้วยบุญ ต้องใจใส
มิฉะนั้นเขาจะไม่อยู่ด้วย เพราะเขาเป็นกายสิทธิ์ แวบหายได้ถ้าเจ้าของ
ไม่มีบุญหล่อเลี้ยงพอ ถ้าเราเอาบุญหล่อเลี้ยง เขาก็จะร่วมมือกับเรา ถ้า
เราจะใช้ให้เขาทําอะไรก็ให้นึกถึงเขาไว้ที่ศูนย์กลางกายให้ชัดแจ่ม
น้อยให้มีความรู้สึกว่าเขาอยู่ในตัวเรา ชัดใสแจ่มทีกลางกาย
อย่าง
ถ้าชัดใสแจ่ม
แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางธุรกิจหรืออะไรก็จะแจ่มหมดเลย ถ้าได้ขนาดนี้
จะเอาอะไรก็ได้
คุณยายยังเล่าว่า แก้วดวงใหญ่ข้างในมีฤทธิ์มาก ลดหลั่นกันลงมา
ตามขนาด ดวงเล็กก็มีฤทธิ์ในระดับหนึ่ง ยิ่งใหญ่มากเท่าไรก็ยิ่งมีฤทธิ์
มากขึ้นไปตามลำาดับ ดวงแก้วทั้งหมดซ้อนเข้าไปในทีเดียวกัน แต่มีฤทธิ์
ไม่เท่ากัน กำลังฤทธิ์ของแต่ละดวงขึ้นอยู่กับกำลังบุญของเจ้าของด้วย
กำลังบุญของเจ้าของจะไปหล่อเลี้ยงเขา ฤทธิ์จะเยอะตามกำลังบุญ
ดวงแก้วทุกดวงมีฤทธิ์ทั้งนั้น เพียงแต่กำลังฤทธิ์ไม่เท่ากัน เหมือนนักมวย
รุ่น Flyweight กับ Heavyweight จะไปเท่ากันได้อย่างไร หรือแมวจะมี
กำลังเท่ากับเสือก็ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นกำลังฤทธิ์เขาจะแตกต่างกันไปตาม
กำลังบุญของเจ้าของ แล้วต้องคุยกับเขาบ่อย ๆ ต้องพูดกับเขาเรื่อย ๆ
พูดบ่อย ๆ เขาฟังได้เป็นสิบ ๆ เรื่อง เขาไม่ได้มีกายเดียว แต่สามารถ
ปาฏิหาริย์กายได้นับไม่ถ้วน คุณยายท่านสอนเขาไว้หมดแล้ว เขารู้เรื่อง
หมด บอกได้หลาย ๆ เรื่อง แต่ให้บอกเรื่องหลัก ๆ ก่อน เช่น ขอให้คนนั้น
คนนี้ทําแผ่นทอง ถ้าอยากได้อะไรเร็ว ๆ ก็ต้องเห็นเขาขัดใสแจ่มก่อน
กายสิทธิ์เขาจะรู้ว่าเรารักเขาจริง ถ้ารักกันจริงอะไรก็ยอม ถ้าเรานึกให้เขา
สว่าง ๆ ให้กายเขาสวย ๆ เขายิ่งชอบมาก เพราะกายสิทธิ์เกิดขึ้นด้วย
บุญฤทธิ์ คือ อานุภาพแห่งบุญ เกิดขึ้นมาแบบไม่มีพ่อไม่มีแม่ จึงเรียกว่า
กายสิทธิ์
ๆ
ๆ
www.kalyanamitra.org