ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๙
ดวงแก้วคุณยาย
หลวงพ่อเคยกราบเรียนถามคุณยายตั้งแต่สมัยเริ่มเข้าวัดว่า
“ดวงแก้วกายสิทธิ์นี้มีไว้ทำอะไร แล้วเขาเป็นใคร” คุณยายตอบชัดเจนว่า
“เขาไม่ใช่กายทิพย์ ไม่ใช่กายมนุษย์ แต่เขามีลักษณะพิเศษของเขา ถ้าเขา
อยู่กับผู้ที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม เขาจะทำหน้าที่คล้าย ๆ ลูกศิษย์วัด
คือ ดูแลตามสมบัติให้ แต่เขาก็ไม่ใช่เทวดา เขามีสภาพอีกสภาพหนึ่ง คือ
เป็นผู้คอยหล่อเลี้ยงมนุษย์”
ในเวลาที่เจ้าของดวงแก้วตั้งใจปฏิบัติธรรม เขาจะทำหน้าที่ของ
เขาอีกเหมือนกัน คือ ช่วยดึงดูดใจของผู้ปฏิบัติธรรมให้เข้าไปสู่ศูนย์กลาง
กายฐานที่ ๗ ได้ง่ายขึ้น คุณยายท่านใช้คำว่า “ช่วยคุมบุญให้ ช่วยคุมใจ
เวลานั่งสมาธิให้” เพราะว่าเขามีฤทธิ์อยู่ในตัว โบราณจึงเรียกกันว่า
แก้วกายสิทธิ์ และหากใครได้อ่านคัมภีร์โบราณทั้งของจีน ของอินเดีย
และของไทย จะเจอคำาว่าดวงแก้วกายสิทธิ์
แก้วกายสิทธิ์มีฤทธิ์ดังนี้ คือ
ตามสมบัติให้ได้
•
.
เวลาปฏิบัติธรรมช่วยคุมธรรมะให้ได้
• เวลามีอุปสรรค จะช่วยทำหน้าที่เหมือน bodyguard เหมือน
ขุนพล หรือเหมือน รปภ.ที่ดูแลรักษา คุ้มครองเจ้านาย
ดวงแก้วจะอยู่กับผู้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมเท่านั้น
อาหารของ
พวกเราเป็นข้าว เป็นน้ำ แต่อาหารของเขา คือ บุญ แต่เขาทำบุญด้วย
ตัวเองไม่ถนัด ต้องอาศัยบุญจากผู้เป็นเจ้าของดวงแก้ว ตัวเขาในฐานะที่
ไปช่วยตามสมบัติ ช่วยคุ้มครอง ปกป้อง และช่วยคุมธรรมะให้ ก็เลยได้
บุญร่วมไปกับเราด้วย แต่มีข้อแม้ว่า ผู้ที่ได้ดวงแก้วไปต้องตั้งใจสร้างบุญ
หากไม่ตั้งใจสร้างบุญ ก็เหมือนปล่อยให้เขาอดอาหาร เขาจะไม่อยู่ด้วย
ตรงกันข้ามหากตั้งใจสร้างบุญ กายสิทธิ์พวกนี้จะยิ่งรัก ยิ่งเคารพ ยิ่งเทิดทูน
เจ้าของ เพราะเขาได้บุญโดยอาศัยเรา
www.kalyanamitra.org