ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๒
ดวงแก้วคุณยาย
เพราะเหตุที่ดวงแก้วมีความสำคัญและมีอานุภาพมากขนาดนี้
คุณยายท่านจึงชอบใช้ดวงแก้ว ซึ่งต่อมาก็มีคนเอามาถวายท่านเรื่อย ๆ
ท่านบอกว่า “บางดวงก็มีตัว บางดวงไม่มีตัว บางดวงตัวอ่อน บางดวง
ตัวแก่” ความอ่อนความแก่ในที่นี้ หมายถึง บุญบารมีของกายสิทธิ์
ที่นั่งสมาธิอยู่ภายในดวงแก้ว โดยมีดวงแก้วเป็นเรือน ถ้าตัวยิ่งแก่ บารมี
ยิ่งมาก ก็ยิ่งสว่าง สุกสดใส ยิ่งสวย ยิ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมาก ตัวอ่อนก็
หย่อนลงมา ส่วนดวงแก้วที่ไม่มีตัว ก็ต้องไปอัญเชิญมาใส่ ดวงแก้วที่
คุณยายได้มาแม้ตอนแรกไม่ค่อยใส แต่หลายเดือนผ่านไป พอแกะห่อผ้า
ออกดู น่าอัศจรรย์ใจว่า ดวงแก้วกลับใสขึ้น และไม่ใช่ความใสแบบด้าน ๆ
อย่างแก้วเจียระไนธรรมดา แต่เป็นความผ่องใสเหมือนนวลผักคะน้าหรือ
นวลมะม่วง ดวงแก้วจะเปล่งประกาย มีเสน่ห์ มีพลังแผ่ออกมา เป็นเพราะ
คุณยายท่านนำมากลั่นแก้และฝึกงานด้วยอานุภาพพระธรรมกาย
ดวงแก้วเหล่านี้ คุณยายเก็บเอาไว้ใช้งานในเวลาประกอบวิชชา
ธรรมกาย ไม่ได้ใช้เป็นของขลังแต่อย่างใด ท่านเอามาใช้งาน มาฝึกสอน
ท่านบอกว่า “เราทําอย่างไรให้เขาทำอย่างนั้น แต่ก่อนอื่นจะต้องเอามา
สะสางธาตุธรรม ชำระให้สะอาดเสียก่อน” ตอนนั้นครูไม่ใหญ่ฟังไม่รู้เรื่อง
แต่ก็ชอบฟัง ท่านยังบอกอีกว่า “ดวงแก้วทำได้ทุกอย่าง” เช่น ช่วยแก้ไข
ทุกข์ภัยมนุษย์ เขามาขอให้ช่วยอะไรก็ช่วยแก้ไขให้ นอกจากด้วย
อานุภาพแห่งพระธรรมกายแล้ว ก็ใช้กายสิทธิ์ในดวงแก้วไปแก้ไข บางทีก็
ไปปรับปรุงผลหมากรากไม้ คือ สมมุติมีพืชผลจํานวนหมื่นต้น กายสิทธิ์
เขาจะพิสดารกายหมื่นกายเข้าไปอยู่ตรงกลาง แล้วปรับปรุงให้เป็นไปตาม
ต้องการ ฝนแล้งก็ไปทำให้ฝนตก ฝนตกจนน้ำท่วมก็ไปแยกแผ่นดิน ตอน
สงครามก็ปัดระเบิด กายสิทธิ์เหล่านี้นอกจากช่วยเหลือแก้ไขทุกข์มนุษย์
ทุกอย่างแล้ว ยังมีหน้าที่ตามสมบัติเป็นหลักอีกด้วย
www.kalyanamitra.org