แด่คุณครูด้วยดวงใจ : หน้า 5/10

แด่คุณครูด้วยดวงใจ โดย พระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทตตชีโว) เพราะฉะนั้น คุณสมบัติของครูในข้อนี้จึงแปลครุว่า "น่าเคารพ" คือ ศิษย์ตระหนักในคุณความดีของท่าน จนอดเสียไม่ได้ที่จะแสดงความเคารพ เป็นความน่าเคารพที่ท่านประพฤติตัวสมควร แก่ความเป็นครูบาอาจารย์ ทำให้ลูกศิษย์เกิดความมั่นใจ อบอุ่นใจ เป็นทั้งที่พึ่งที่ปรึกษา ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็เชื่อสนิทใจว่า ท่านจะให้ ความปลอดภัยแก่เขาได้ อุปมา ความมั่นคง เข้มแข็งของครูอาจารย์ เสมือนขุนเขา ไม่มีวันจะถล่มทลาย เพราะ แรงลม ยึดเกาะพึ่งพิงได้ อย่างปลอดภัยทุกเมื่อ การที่ครูอาจารย์คนใดคนหนึ่ง จะได้ลักษณะอย่างนี้มา ต้องเป็นผู้ที่เตรียมการสอน มาอย่างดีทุกครั้งที่เข้า สอน ถึงท่านจะไม่ฉลาดเฉลียวขนาดได้เกียรตินิยม แต่เวลาสอนท่านสามารถทำให้ศิษย์เกิดความมั่นใจว่า คำ สอนของท่าน ไม่ผิดพลาด มีภูมิรู้พอตัว โต้ตอบปัญหาได้ไม่ติดขัด และยังมีอุปกรณ์การสอนพร้อมมูล ยิ่งกว่านั้น ท่านจะต้องเป็นคนไม่มีอคติ ลำเอียงเพราะรัก เพราะเกลียด เพราะหลง หรือเพราะกลัวภัยอำนาจมืด ท่านทำ อะไรคงเส้นคงวา ต่อหน้าอย่างไร ลับหลังก็อย่างนั้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม มีความเมตตากรุณาต่อศิษย์ สมเป็นครูคน มีความหนักแน่น มั่นคง ไม่หวั่นไหวด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หรือความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เรื่องส่วนตัว เรื่องครอบครัว และหน้าที่ความรับผิดชอบของท่าน ไม่มีบกพร่องเลย ลักษณะอย่างนี้จะทำให้ศิษย์เคารพท่าน เกิดความประทับใจที่ลึกซึ้งเพิ่มขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง คือ ท่านมีทั้งความ น่ารักและน่าเคารพ ครูบางคนน่ารักแต่ไม่ถึงกับน่าเคารพ ความประทับใจจึงไม่นานนัก คุณสมบัติข้อที่ 3. น่าเทิดทูน (ภาวนิโย) เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในฐานะที่ท่านเป็นครูผู้ทรงความรู้ มีภูมิปัญญาเป็นเลิศ ความฉลาดปราดเปรื่องของ ท่านมีมาก จนเป็นที่ยอมรับของทุกคนในวงการ คุณสมบัติประการนี้ ทำให้ศิษย์เกิดความเลื่อมใสว่า ท่านไม่ เพียงแต่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมเท่านั้น ยังมีความสามารถยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งไม่มีสอง ชาตินี้ไม่มีวันที่ท่านจะเป็น รองใคร อุปมาเสมือนท่านมีเดชมีฤทธิ์ดั่งดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน โชติช่วงชัชชวาล เป็นใหญ่ในท้องฟ้า ไม่มีเมฆ หมอกมาบดบัง เห็นท่านแล้วก็มีความเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าเราจะมีปัญหายุ่งยากซับซ้อนเพียงใด ท่านย่อมแก้ไขให้ เราได้หมดทั้งสิ้น การที่ใครจะมีคุณสมบัติอย่างนี้ได้ ต้องเพียบพร้อมไปด้วยภูมิปัญญาทางโลก และเต็มเปี่ยมไป ด้วยภูมิปัญญาทางธรรม เมื่อจะพูดก็พูดดี เมื่อลงมือทำก็ยิ่งทำได้ดีกว่าพูดเสียอีก นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ตั้งใจใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ ยิ่งประวัติของท่านดีเด่นมาตลอดในเรื่องการเรียน เราก็ยิ่ง เชื่อถือในคำสอนมากขึ้น ถึงแม้จะยังไม่ได้นำคำสอนของท่านไปปฏิบัติ ก็ปักใจเชื่อ 100 % เสียแล้วว่า ทำเมื่อ ไร ต้องได้ผลเป็นเยี่ยมเมื่อนั้น คุณสมบัติข้อนี้ ย่อมทำให้ศิษย์เกิดความประทับใจเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง คือทั้งรัก ทั้งเคารพ ทั้งเทิดทูน อยาก ประกาศให้ชาวโลกรู้ ด้วยความภูมิใจว่า เราเป็นลูกศิษย์ของท่าน หากทำได้ก็อยากให้ ชาวโลกทั้งหมดมีความ เคารพเทิดทูนท่านเช่นเดียวกับเราด้วย คุณสมบัติข้อที่ 4. ฉลาดตักเตือนพร่ำสอน (วัตตา) คือรู้จักพูดชี้แจงให้เข้าใจ มีความสามารถพูดโน้มน้าวให้ทำตามในสิ่งที่ดี เมื่อคราวศิษย์เหลิง ซุกซน เกเร ก็ดูว่า ชี้แจงแสดงเหตุผลให้เข้าใจ สู้อดทนไช พร่ำสอน ขนาบแล้วขนาบอีกไม่ยอมหยุด เหมือนดังที่พระ สัมมาสัมพุทธเจ้า เคยตรัสเล่าว่า พระองค์ทรงเอาใจใส่ดูแลพระภิกษุสงฆ์อย่างใกล้ชิด ทรงเคี่ยวเข็ญไม่ยอมลด ราวาศอก เพื่อให้พระสงฆ์สาวกของพระองค์ เค้นความสามารถทุกหยดหยาดที่มีอยู่ในตัว เอาออกมาใช้งานให้ เต็มที่ ทรงกล่าวยืนยันว่า "อานนท์....เราไม่พยายามทำกะพวกเธออย่างทะนุถนอม เหมือนพวกช่างหม้อที่ทำ - 5-