ข้อความต้นฉบับในหน้า
แด่คุณครูด้วยดวงใจ โดย พระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทตตชีโว)
แก่หม้อที่ยังเปียกยังดิบอยู่ อานนท์....เราจักขนาบแล้วขนาบอีกไม่มีหยุด อานนท์...เราจักชี้โทษแล้วชี้โทษอีกไม่
มีหยุด ผู้ใดมีมรรคผลเป็นแก่นสาร ผู้นั้นจักทนอยู่ได้" การรู้จักพูดพร่ำสอนให้ได้ผลอย่างนี้ เป็นความสามารถ
ในการถ่ายทอดความรู้
คุณสมบัติประการนี้
เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งทั้งในบุคคลทั่วไปและในหมู่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ถ้าใครมีคุณสมบัติ
เช่นนี้อยู่กับตัว ต้องถือว่า มีวิญญาณแห่งความเป็นครูอยู่โดยเฉพาะ อย่าว่าแต่บุคคลธรรมดาเลย แม้พระพุทธเจ้า
ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ประเภทหนึ่งเรียกว่า พระปัจเจกพุทธเจ้า คือ พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้แล้วไม่สอนใคร เพราะขาดคุณสมบัติ
ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้
ส่วนประเภทที่สองเรียกว่า พระสัพพัญญูพุทธเจ้า คือพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้แล้วทรงถ่ายทอดความรู้นั้นให้
รู้โดยทั่วกันและทรงถ่ายทอดความรู้ได้เก่งที่สุดในโลกด้วย
พระสัพพัญญูพุทธเจ้านั้น กว่าจะบังเกิดขึ้นสักพระองค์ก็นานเป็นกัป เกิดขึ้นทีละพระองค์ และเมื่อเกิดขึ้น
แล้วก็สามารถรื้อสัตว์ขนสัตว์ ให้พ้นจากกองทุกข์ได้ หมดกิเลสเข้าพระนิพพานตามพระองค์ไปด้วย แต่พระปัจเจก
พุทธเจ้า เกิดขึ้นบ่อย ๆ บางทีนับเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสน แต่ท่านไม่สอนใครเลย
การรู้จักพร่ำสอนให้ได้ผลอย่างนี้ ท่านทำอย่างสม่ำเสมอกับลูกศิษย์ทุกวัย เมื่อยังเด็กเราชน เราดื้อ เกเร
สารพัด นอกจากท่านจะดูว่าแล้ว ยังแถมหวดด้วยไม้เรียวเข้าให้อีก แต่ละขวับของท่านได้ผลชะงัด ภาษาไม้เรียว
ของท่าน ทำให้เรากลัวลาน ราวกับหนูกลัวแมว ตอนนั้นเราไม่รักท่านเลย แต่พอโตขึ้นจึงสำนึกได้ว่า ที่เราได้
ดิบได้ดีมาทุกวันนี้ เพราะไม้เรียวของท่านแท้ ๆ ท่านไม่ห่วงไม่เคยกลัวเลยว่า ศิษย์จะไม่รัก แต่กลัวศิษย์จะโง่
ส่วนศิษย์นั้น ทั้งกลัวทั้งเกรง แต่ก็ไม่เคยโกรธท่าน ผู้ปกครองในปัจจุบันไม่ค่อยเข้าใจ โกรธแค้นเมื่อเด็กของเขา
ถูกเฆี่ยนตี เรื่องนี้ขอให้พิจารณาให้ดี ครูนั้นท่านเพี้ยนก็เฆี่ยนด้วยความเอ็นดู ท่านใช้ไม้เรียว ไม่ได้ใช้ไม้ตะพด
ไม่ทำให้ถึงบาดเจ็บสาหัสหรอก อย่ากลัวเลย
ในความรู้สึกของท่านลูกศิษย์ก็เหมือนเลือดเนื้อเชื้อไข ถึงคราวลงโทษท่านไม่ยั้งมือ แต่เมื่อตกทุกข์ได้ยาก
ท่านก็ติดตามช่วยเหลือ เมื่อเราเจ็บป่วยหายหน้าไป ครูประเภทนี้ กลับตามไปดูแลถึงบ้าน มีครูบางประเภทไม่
เอาเรื่องเอาราว ลูกศิษย์จะทำดีหรือไม่ดีก็ไม่ใส่ใจ ครูพวกนี้เรารักท่านเมื่อเรายังเด็ก แต่พอโตแล้วเรากลับคิดถึง
ครูที่ว่ากล่าวเฆี่ยนตี รอยไม้เรียวที่ประทับกาย เราย้ำเตือนให้ระลึกถึงพระคุณของท่านจนวันตาย
เพราะฉะนั้น ถ้าใครได้พบครูบาอาจารย์ที่มีความสามารถในการพูดตักเตือนพร่ำสอนอย่างนี้ ก็นับว่าเป็นบุญ
ตัว อย่าด่วนหลบหนีหน้าไปจากท่าน "วิสัยครูดูอย่างเหมือนช่างปั้น ต้องคาดคั้นโขลกสับแทบจับไข้ ไม่สันทัด
ขัดแต่งรุนแรงไป ก็บรรลัยแยกร้าวลงแหลกราญ อันภูมิครูดูได้จากลูกศิษย์ เหมือนดูช่างชาญประดิษฐ์จากเชิง
สาน มีลูกศิษย์หัวรั้นอันธพาล เขาประจานด่าครูไม่ดูแล"
คุณสมบัติข้อที่ 5. อดทนต่อถ้อยคำของศิษย์ (วจนักขโม
คือพร้อมที่จะรับฟังคำปรึกษาซักถามอยู่เสมอ อดทนฟังได้แม้เรื่องไร้สาระ ไม่เบื่อ ไม่รำคาญ แม้จะเป็นคำ
ถามโง่ ๆ ไม่น่าถาม ก็สู้ทนอธิบาย เพราะท่านกลับมองเห็นเป็นอาการของความคิดสร้างสรรค์ ที่เพิ่งเริ่มเกิด
เห็นอกเห็นใจ พร้อมที่จะเป็นกำลังใจ ให้ศิษย์ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ศิษย์บางคนสติปัญญาโง่ทึบก็อุตส่าห์ตาม
สอน บางคนพูดจาก้าวร้าว กระด้าง หยาบคาย เพราะพ่อแม่ไม่อบรม หรือเคยชินมาอย่างนั้น ก็อดทนให้อภัย
แม้ศิษย์เกเร จะแกล้งพูดยอกย้อน ยียวน ยโสโอหัง ก็ไม่ถือโทษ อุปมาใจท่าน หนักแน่นเสมือนแผ่นดินไม่สะทก
-6.