ข้อความต้นฉบับในหน้า
ภายในไม่กี่ปี มี 5 โรมาน
ภายในไม่กี่ปี มีตั้ง 5 โรงงาน
ภาพ : วิชิน ปรีดาเกษมศักดิ์ / ประสงค์ เปรียบยอดยิ่ง
มนุษย์เงินเดือน ควรอ่านเรื่องนี้
คนอยากมีกิจการ ควรอ่านเรื่องนี้
คนมีปัญหาธุรกิจ ควรอ่านเรื่องนี้
อยากเลี้ยงลูกให้ดีและกลายเป็นเศรษฐี ควรอ่านเรื่องนี้
ทีสําคัญ..คนอยากรวย อย่าพลาด ในการอ่านเรื่องนี้
ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ มีหลายคน
อยากปฏิวัติความจนจึงไปซื้อหนังสือประเภท
"ตำราสอนให้รวย" มานั่งอ่านกัน แต่อ่านจบไป
หลายเล่ม ก็ยังรวยได้ไม่สมกับที่คาดหวังไว้
แต่วันนี้ เราเจอทางเลือกที่ดีกว่า เพราะ
จะได้คุยกับคนเคยจน ที่ปัจจุบันรวยได้จริง ซึ่ง
เคล็ดลับความรวยของพวกเขาต่างจากค่ารา
ทุกเล่มในท้องตลาด
และนับจากวินาทีนี้ เราขออาสาเป็นตัวแทน
ไปถามถึงเคล็ดลับ ว่าอะไรทำให้เขารวย
เผื่อคุณรู้แล้วอาจกลายเป็นเศรษฐีในอนาคต
คนหนึ่งก็ได้ !
“เขา” และ “เธอ” ผู้นี้ คือ คุณมนู-วรรณพร
ไตรเนตร อดีตมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ๆ คู่หนึ่ง
ที่ฝ่ายสามีทำงานบริษัท ส่วนภรรยารับราชการครู
มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ วรรณนรีและพิมพวรรณ
หรือ น้องยิ้มและน้องหม่อน ปัจจุบันเป็นเจ้าของ
ธุรกิจ หจก.วี.เอ็ม.ที. เอ็นจิเนียริ่ง และ
บริษัท วี.เอ็ม.ที. อินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจ
ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มียอดการผลิตที่มาแรง
และเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้
“ชีวิตเราเหมือนคนในสังคมเมืองส่วนใหญ่
คือเป็นลูกจ้างที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ แต่ดี
หน่อยตรงที่สามีเป็นคนรักความก้าวหน้า
พยายามสร้างเนื้อสร้างตัว ดิ้นรนหาช่องทาง
ลงทุนทำธุรกิจของตัวเองมาโดยตลอด
6 ในที่สุดก็ล้มไม่เป็นท่า ซึ่งเราก็ไม่
ย่อท้อ พยายามเริ่มต้นใหม่ แต่ไม่
ว่าจะเริ่มใหม่สักกี่ครั้ง ผลสุดท้ายก็
ล้มเหลวทุกครั้ง J
ใคร ๆ ก็อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่จะมีสัก
กี่คนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ!
“สามีเริ่มท่าธุรกิจ โดยเริ่มจากใช้เวลาหลังเลิก
งานไปรับออร์เดอร์ชิ้นส่วนยานยนต์จากบริษัทต่าง ๆ
และไปจ้างหลายโรงงานให้ผลิตให้ ทำหน้าที่คล้าย ๆ
พ่อค้าคนกลาง แต่พอทำ ๆ ไป มันไม่ง่ายอย่างที่เรา
คิด เพราะปัญหามาก เนื่องจากของไม่ได้สเปกบ้าง
สั่งเราผลิตแล้ว อยู่ ๆ ก็ยกเลิกไม่เอาบ้าง โดนโกงบ้าง
ทำให้เราขาดทุนมีหนี้สินพะรุงพะรัง และในที่สุดก็ล้ม
ๆ ก็
ไม่เป็นท่า ซึ่งเราก็ไม่ย่อท้อ พยายามเริ่มต้นใหม่ แต่
ไม่ว่าจะเริ่มใหม่สักกี่ครั้ง ผลสุดท้ายก็ล้มเหลวทุกครั้ง
ซึ่งเราล้มอย่างนี้มาถึง 2-3 ครั้งแล้ว จนกระทั่งเราไป
ต่อไม่ได้ เพราะมีหนี้สินเป็นล้าน ๆ อีกทั้งธนาคารก็
กำลังจะมายึดบ้าน ช่วงนั้นพวกเราทั้งเครียด ทั้งกลุ่ม
จึงตัดสินใจเลิกทำธุรกิจ แล้วขายบ้านทิ้งเพื่อปลดหนี้
ตอนนั้นเราก็คิดว่า ต่อไปจะไม่ทำธุรกิจอีกแล้ว
เพราะเข็ดกับปัญหา เช็ดต่อภาวะหนี้สินจำนวนมหาศาล