คำบรรยายเกี่ยวกับราชธานีและกำแพงน่าพิศวง : หน้า 31/42

ด้านนอกเป็นเมืองที่อบอุ่นสมบูรณ์อย่างทรงพฤกษ์ธรรมชาติน้ำลำปลาอาหาร ผู้คนอาศัยกันเน้นแน่น เป็นราชธานีที่ไม่เปลืองเสียงอย่างเช่น เสียงมา เสียงช้าง เสียงรถ เสียงกลาง เสียงตะโพน เสียงพิณ เสียงขับร้อง เสียงกลอง เสียงประชามติและเสียงของการเชิญ เช่น เชิญให้มาดมิน ผู้คนในเมืองมีแต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งบัน พูดจาไพเราะ ฟังแล้วทำให้จิตใจปลอดโปร่งเบาสบาย ความสมบูรณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ก็ด้วยอานุภาพบุญ ของพระเจ้าจักรพรรดิ และของผู้คนในยุคสมัยนั้น ที่มีศีลธรรม คือ มีศีล ๕ เป็นปกติ ราชธิษณีล้อมรอบด้วยกำแพง ๗ ชั้น แต่ละชั้นมีความวิจิตพิสดารน่าศัวรรย์ กำแพงทั้งหมด ๗ ชั้น ล้วนสร้างด้วยหินชะเหลียว ดึงดูดกำแพงชั้น ๗ สร้างด้วยทองคำ มีสีสีเหลืองอร่ามสง่างามฉบับไปว่าถนต่อน ผู้อื่นได้พบเห็นต่างเกิดความปีติเอกบานใจ กำแพงชั้นที่ดึงออกมา สร้างด้วยเงิน แสงเงินสองประกายแวววับจับตา จับใจ รัศมีสิ่งเปล่งประกายออกมา แม้กระทั่งไม่ใช่หยูกก็พอจะเป็นสิ่งงินไปด้วย ถัดจากกำแพงเงินเป็นกำแพงที่สร้างด้วยแก้วไฟฟุธ มีสีอิริยะระยับจับตา ยังความเบิกบานให้เกิดขึ้น กำแพงชั้นที่ ๕ เป็นกำแพงที่สร้างด้วยแก้วทิพย์ มีสีเกราะเรืองพระอาทิตย์ ยามอัสลง ดูแล้วเพลินตาเพลินใจ ทำให้คลายจากความทุกข์โศก กำแพงชั้นที่ ๖ สร้างด้วยแก้วบุษราคามีสีเหลืองอร่าม นวลตาเย็นใจ ใครได้เห็นแล้วใจจะสงบเยือกเย็น และกำแพงชั้นสุดท้าย คือ ชั้นที่ ๗ สร้างด้วยแก้วทุกอย่างมารวมกัน ผลผสมกันได้อย่างจิตติพิสดารงามมาก ใครได้เห็นต่างพากันพอใจ ร้องไห้เลียนเสมอๆ ชุ่มกายยามสารภาพและผนึกใจแม้จะกล่าวชมคล้ายคลึงกัน ก็จะมีความพอใจไม่แพ้กัน ลักษณะนี้จะแสดงให้เห็นว่า อาณาจักรของพระเจ้าจักรพรรดิ มีความพิเศษแปลกไปกว่าราชอาณาจักรธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง มหาสมบัติประจำตัวของพระเจ้าจักรพรรดิ