จักรแก้วและรัตนะ ๗ ประการ : หน้า 32/42

ที่พวกเรารู้จักกันดี คือ รัตนะ ๗ ประการ ในราชนะ ๗ ประการนี้ เวลาที่จักรพระจะบังเกิดขึ้น พระเจ้ามหาสุทโสภนะอารามราชจะทำความบริสุทธิ์กายจากา ใจ ในวันพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งตรงกับวันอุโบสถน ๑๕ คำ ด้วยการรักษาอุโบสถศีลอดอัน ปราศจากชั้นบน ระลึกถึงถึงมาพทุกคำพระองค์ได้บำเพ็ญมา ด้วยความมุ่งมั่นในทุกกาล ในขณะนั้นเอง จักรัตนะจะอุบัติขึ้นทางทิศปราจีน ลอยมาในอากาศ พร้อมกับเปล่งสีมิจิต จะสว่างใสมาก เหล่าพลิกนิกรที่ยืนมองอยู่บนพื้นแผ่นดิน ดั่งเข้าใจว่า "ทำไมหนอ ดวงจันทร์ในคำคืนมืดมิดสองดวง" ผู้จริงๆจึงเข้าใจว่า "ที่ลอยอยู่นั่นเป็นมหาจักรัตนะ ที่บิดขึ้นมาเพื่อพระเจ้า จักรพรรดิเท่านั้น" เมื่อพึงดังนั้น ทุกคนพากันไปลงเสียงอนุโมทนาสาธุกันดังสนั่น เมื่้อจักรัตนะ ลอยมาเวียนประทักษิณรอบพระเจ้า รอบแล้วก็ประดิษฐานอยู่บนพระตูดนั่นสุดสุด พระเจ้ามหาสุทโสภนะ รู้ว่าจักรแก้วบังเกิดขึ้นเฉพาะพระองค์ ทรงเสด็จลูกจากที่ประทับนั่งทรงผ้าสไบจิ้งบ่าเสด็จลงมาถึงจักรัตนะ ประดิษฐาน ใช้พระหัตถ์จับพระเต้าทอง พระหัตถ์ขวาประคองจักรด้านทรงหลังน้ำจากพระเต้าทองต้อนรับ แล้วใช้พระหัตถ์ชูจุดจักรขึ้นพร้อมกับตราสว่า "จักรแก้วงูหมุนไปเกิด จักรแก้วจงพิชิตเกิด" จนพระดำรัส จักรแก้วจะหมุนไปทางทิศตะวันออก พระเจ้ามหาสุทโสภนะพร้อมทั้ง จาตุรงคเณษะจะเหาะขึ้นสู่ท้องฟ้า ด้วยอานามแห่งจักรแก้ว ระยะที่อยู่นานก็ไม่สูญเกินไปหรือด่าเกินไป จะล่วงอายุไม่เพียงสักเท่าไร นั่นคือ ไม่มีใครอยู่บนเพนียดนั่น จะมาภายแยกแยะได้ว่า ผู้ที่เป็นพระราชา ผู้เป็นมหาอำมาให้ ครั้งพระราชาอยากรอโยงลงตรงไหน จักรแก้วก็จะร้อนลงตามใจปรารถนา เมื่อตรวจจากพื้นเสร็จแล้ว จักรแก้วก็พาเหาะขึ้นไปอีก แล้วร่อนลงทะเล