ข้อความต้นฉบับในหน้า
เป้นของไม่เที่ยง สักวันหนึ่งก็ต้องเสื่อมสลาย ไม่ให้ไปยึดมั่นถือมั่น ไม่ว่าจะเป็นร่างกายของตนเองและของคนอื่น
เพราะพระนางเป็นผู้มีเมตตาในบูรณของตนเองว่ามีความงามเป็นเลิศ จึงไม่กล้าไปฝากพระทศพล เพราะทวงกลว่าพระบรมศาสดาจะทรงแสดงโทษในรูปของพระนาง ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสารทรงเป็นพุทธมามกะ เป็นพระใสดาบนั้นบุคคลมีความปรารถนาจะอยากให้พระเมสีได้พระสักธรรมบ้าง แม้พระทรงชักชวนไปพระวิหารหลายครั้ง แต่พระนางก็เบียดเบียน
พระราชาจึงใช้กุลบายด้วยการให้เหล่านักวีอุปษณ่ความงามของพระเวหา วันนั้น พระอุทยาน แล้วไปบังร้องใกล้ ๆ สถานที่พระนางเขมาเทวีจะทรงได้นั้น เมื่อพระนางทรงได้ดับคำพระนามพระองค์ นั่งพระประสงค์จะเสด็จไปชมพระอุทยาน จึงทูลขออนุญาตพระราชาเพื่อไปทอดพระเนตร
พระราชาประสงค์จะลำบาญชมพระนางว่า หากพระเทวะจะกลับจากสวนโดยไม่ยอมเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา ก็ให้นับพานางไปให้ได้ นี่ก็เป็นข้อสังเกตว่า ความตั้งใจดีอยากให้คนอื่นได้พบเส้นทางสุงของชีวิต บางครั้งจะชักชวนจนธรรมดา ใช้วิธีละมุนละม่อมไม่ได้ ต้องถึงกับบังคับกัน เหมือนเด็กที่เป็นไข้แล้วไม่อยากทานยา พ่อแม่ก็ต้องบังคับให้กิน แม้นั้นอาจชม แต่เมื่อพ่อแม่เห็นว่ากาลรับประทานยานั้น จะหยาดจากโคลก้นไข่เจี๊ยบ จึงเป็นที่ต้องบังคับให้ถูก
มัย่นั้น พระนางเมตตามีสติชอบพระราชอุทยานด้วยความเพลิดเพลิน เมื่อเสด็จกลับมิไม่เฝ้าพระศพ แล้วราชบุตรบวงเวียนพระราชอาญา บังก็พระองค์ไม่ค่อยชอบพระทัยเท่าใดนัก พระพุทธพระภาคเจ้าทรงเห็นพระนางกำลังเสด็จมา