การพัฒนาตนเองและการวิจัยด้านพระพุทธศาสนา Dhamma TIME เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2559 หน้า 39
หน้าที่ 39 / 44

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอการพัฒนาตนเองและการวิจัยในด้านพระพุทธศาสนา โดยมุ่งเน้นการวิจัยในภาคใต้เชียงใหม่และการเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติในยุโรปและอเมริกา งานวิจัยได้เปิดโอกาสให้ค้นคว้าข้อมูลคัมภีร์พระโบราณจากแหล่งต่าง ๆ รวมถึงประเทศในเอเชียซึ่งทำให้ทีมวิจัยสามารถแบ่งความรับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเอกสารโบราณถูกจัดอยู่ในสามประเภทที่สำคัญและการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ช่วยส่งเสริมความเข้าใจและอนุรักษ์ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ. รายละเอียดเพิ่มเติมที่สามารถศึกษาต่อได้ที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-การพัฒนาตนเอง
-การวิจัยด้านพระพุทธศาสนา
-การอนุรักษ์คัมภีร์โบราณ
-การประชุมระดับนานาชาติ
-แหล่งข้อมูลในเอเชีย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พัฒนาตนเองและเรียนรู้เกี่ยวกับการวิจัยตาม ระบบสากลในภาคใต้เชียงใหม่ และเข้าร่วม ประชุมด้านวิทยากรพระพุทธศาสนาที่มีการประชุม ในระดับนานาชาติในทวีปยุโรป ตามด้วยทวีป อเมริกา จนทำให้ทราบว่าสแหล่งข้อมูลคัมภีร์พระ โบราณและร่องรอยหลักฐานธรรมภายในอยู่หลาย แห่ง ตอบมาทางสถาบันฯ มีงานนักวิจัยมาเพิ่ม มากขึ้น จึงทำให้สามารถแบ่งความรับผิดชอบ ทำงานวิจัยไปมแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น ที่ปร เอเชีย อันได้แก่จีนกลาง เอเชียใต้ เอเชียตะวัน ออก และเอเชียอาคเนย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศลาวเวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ศรีลังกา รวมทั้งไทยด้วย ต้องถือว่าคณะนักวิจัยสถาบันฯ เริ่มต้น ทำงานโดยมีเงินทุนจากศูนย์ก็ตแต่เราก็ ขวนขวายเข้าพบกับผู้ นักปราชญ์ ทั้งชาวไทยและ ต่างประเทศที่มีความสามารถในการอ่านอักษร โบราณและทำงานในด้านการอนุรักษ์วีรวรรต คัมภีร์พระโบราณ และต่อมาได้ลงไปทำงานภาค สนามกับผู้เชี่ยวชาญอีกหลายท่านผลการศึกษาจ บว่า เอกสารโบราณนั้นอยู่ ๓ ประเภท คือ ๑ ดีลาจิด้า ๒ การบันทึกในคัมภีร์ใดบ้างหรือ เปลือกไม้ ๓. วัสดุที่มีจารึก ซึ่งไม่ใช่แบบ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More