การฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในศรีลังกา : หน้า 27/65

นับจากนั้น ท่านก็พากเพียรเร่งศึกษา หาความรู้ทางด้านศาสนาและฝึกแสดงธรรม อย่างสมำเสมอ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำ ภารกิจอันยิ่งใหญ่ในอนาคต นอกจากนี้ท่าน ยังฝึกฝนอบรมตนเองอย่างจริงจัง จนกระทั่ง มีศาสตราวุธที่งาม น่าอิสระใคร่ สร้าง ต่อมา เมื่ออายุได้ 21 ปี ท่านอุปสมบทเป็น พระภิกษุที่วัดที่บูรณะตาม เมืองไกล่มโลบ ยุคนั้น จัดว่าเป็นยุคมิคของศาสนาพุทธ ในศรีล้านกอย่างแท้จริง ชาวพุทธถูกดัดแปลง บ่มแหงอย่างหนัก อา ที่ ห้ามประกอบพิธี ทางศาสนา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ก็ไม่ให้เป็นวันหยุดอีกต่อไป พระภิกษุถูกดุดูเบื้องเนิ่นในรูปแบบต่าง ๆ และมีการเขียน บทความใกล้ศาสนาพุทธอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ในสมัยนั้น ชาวพุทธต่างพากันท้อแท้หวัง และเชื่อว่าศาสนาพุทธจะต้องสูญสิ้นไปจาก แผ่นดินศรีลังกาแน่นอน แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ พระคุณนักเคราะห์กลังไม่หวั่นไหว ท่านมุ่งมั่นอบกู้ พระพุทธศาสนาอย่างจริงจังโดยใช้ปัญญาเป็นอาวุธ ทั้งด้วยการเขียนบทความ และโต้ตอบ กับนักบวชต่างศาสนาด้วยความกล้าหาญทุ่มกลางสาธารณชนถึง 5 ครั้ง ด้วยความที่ท่านแตกฉานในคำสอนของทั้ง 2 ศาสนา และมีทัศนคติเป็นเลิศ ดั่งที่ปรากฏ ให้เห็นตั้งแต่แต่นักเรียน ทำให้การไต่ตอบศาสนาอื่นของท่านดูเด่นชัดมากขึ้น ชัดเจน และ มีหลักฐานอ้างอิงอย่างสมเหตุสมผล สร้างความเข็ดขาดแก่ฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างยิ่ง จนถึงกับ มีผู้กล่าวว่า "พระคุณนักเคราะห์ทำให้ต่างศาสนิกหวาดหวาดเราเหมือนนักย่องเบาเห็นพระจันทร์ เต็มดวงลอยเด่นขึ้นมานั้น" ผลจากการไต่ถามของท่าน ทำให้ศาสนาพุทธเป็นที่สนใจของชาววัดตามนับ บรรดาพุทธศาสนิกชนรู้สึกภูมิใจในความเป็นชาวพุทธ และเกิดกำลังใจที่จะช่วยกันกอบกู พระพุทธศาสนาให้รอดพ้นจากความหยามะ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอีก ฯ อีกหลายอย่างเกิดขึ้น เช่น มีการยกเลิกกฎหมายห้ามชาวพุทธประกอบพิธีกรรมในวันสำคัญทางศาสนา ยุติ การเขียนเบียดเบียนทำลายล้างชาวพุทธ ยกเลิกการขูดหายของเก่าในพระเจดีย์โบราณ มีภาระดมทุน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของวิทยาลัยสงฆ์ เป็นต้น ส่งผลให้พระพุทธศาสนาในศรีลังกา ยืนยงมานะรวมถึงทุกวันนี้ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ อยู่ในบุญ ๒๖