ข้อความต้นฉบับในหน้า
ดัมภิรัฐภาษา สํากฎที่สถาบันวิจัย นานาชาติธรรมชัย (DIRI) ได้รับมานั้น นักวิจัยของสถาบันฯ ที่ไปทำงานร่วมกับ ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสถิลกุตแห่ง มหาวิทยาลัยออสโล คือ พระวิชัย เดชกุโณ ได้สุปอถมาแล้วว่าแบ่งได้เป็น ๘ ปัณฑ์ ได้แก่ “สมิธารฐสุดา” จำนวน ๒ ปัณฑ์ “ปรวรรณสุดา” ๑ ปัณฑ์ “อชาตศตรภูถกฤตย์ในปฐมสุดา” ๑ ปัณฑ์ และอีก ๕ ปัณฑ์อยู่ในระหว่างการศึกษาสิ่งที่น่าภาคจรรยิ่งเกี่ยวกับการ ค้นพบครั้งนี้คือคัมภีร์ทั้ง ๔ ชิ้น ส่วนเป็นส่วนเติมเต็มของ ๓ พระสุธที่เคยพิมพ์มาแล้วในเอกสารของ Schoyen Collection นั้นเอง อาทิ ในคัมภีร์สุดา อธิ ในคัมภีร์สุดา ที่สถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) ได้รับมานั้น พบนั้นเป็น ลายมือเดียวกัน ชุดเดียวกันกับคัมภีร์ที่ Schoyen Collection มีอยู่ โดยที่คัมภีร์ที่ Schoyen Collection มีอยู่นั้นขาดเพียงบทที่ ๒๙ ซึ่งเป็นส่วนที่สถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) ได้รับมาพอดี ทำให้นักวิชาการที่ศึกษาข้อมูลนี้น่าจะได้เน้นกันมาก เพราะเท่ากับเป็นการเติมส่วน ที่ขาดหายไปนานนับให้สมบูรณ์ ซึ่งทำให้เกิดคุณค่าทางวิชาการอย่างมหาศาล เพราะทำให้ เกิดการปรับปรุงแก้ไขผลการศึกษาที่เคยวิเคราะห์กันไปจากการวิจัยในครั้งแรก เนื่องจากมันส่วนคัมภีร์ยังไม่ครบ ดังนั้นแล้วการได้พบคัมภีร์พุทธโบราณชุดของ DIRI Collection มาเพิ่มเติมในครั้งนี้ แม้ว่าจะมีปริมาณเพียงน้อยชิ้น แต่ก็เป็นส่วนที่สำคัญ เพราะมาจากคัมภีร์เดียวกัน ลายมือเดียวกัน สามารถต่อเชื่อมความรู้ที่ขาดหายไปได้สนิท จึงสร้างความตื่นเต้นในวิชาการด้านนี้อย่างมาก ดังได้กล่าวแล้ว
ชิ้นส่วนหนึ่งของคัมภีร์สมิธารฐสุดา บทที่ ๒๙ (Braarvig 2002: plate VIII.3)
ชิ้นส่วนหนึ่งของคัมภีร์สาคริราชสูตรของ DIRI บทที่ ๒๙
๒ พระวิชัย เดชกุโณ นักวิจัยของสถาบันวิจัยนานาชาติธรรมชัย (DIRI) กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยออสโล ประเทศนอรเวย์ ปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการเรียนวิทยานิพนธ์ และใกล้จะสำเร็จการศึกษาแล้ว
อยู่ในบุญ เมษายน ๒๕๖๒