เทคนิคการหลับตาเพื่อเข้าสมาธิที่ถูกต้อง  วารสารอยู่ในบุญประจำเดือน มิถุนายน พ.ศ.2564 หน้า 18
หน้าที่ 18 / 70

สรุปเนื้อหา

พระเดชพระคุณหลวงปู่จดบ่าว เสนอเทคนิคการหลับตาเพื่อเข้าสู่สมาธิอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้กำหนดใจอยู่ที่ศูนย์กลางกาย สิ่งสำคัญคือการหลับตาอย่างเบา ๆ ไม่บังคับใจและให้ความสำคัญกับการควบคุมลมหายใจเพื่อนำไปสู่สภาวะความสงบ ความสะดวกสบายเป็นผลจากการใช้พลังงานน้อยลง เมื่อเรามีสมาธิ ความสนใจจึงมุ่งเน้นที่การสังเกตภายใน ส่งผลให้เกิดความสงบเบื้องล่างของจิตใจ กระบวนการนี้จะทำให้จิตใจเข้มแข็งและสะอาดจึงทำให้การฝึกสมาธิเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น.

หัวข้อประเด็น

- เทคนิคการนั่งสมาธิ
- การหลับตาอย่างถูกต้อง
- การควบคุมพลังงานในร่างกาย
- องค์พระและดวงแก้วในสมาธิ
- การค้นพบความสงบภายใน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระเดชพระคุณหลวงปู่จดบ่าว ท่านให้เทคนิคไวเทคนิคหนึ่ง สำหรับคนที่จะผลอหลับตา ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ท่านให้หลัดตาช้อนมองย้อนกลับเข้าไปข้างใน เหล็กดองซ้อนไฟด้านเข้าไปข้างใน เหมือนจะมองเข้าไปในก้นโลกล จะทำให้กล้ามเนื้อดต ผนังตาเปิด ๆ ทำให้คลายตัวง่าย นอกจากหลับตาเบา ๆ ผนังตาปิด ๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว อย่างบังคับใจ เพียงตั้งสติวางใจเบา ๆ ตรงศูนย์กลางกายพอแล้ว อย่างไปบังคับใจเด็ดขาด ถังบังคับใจเมื่อไร จะต่อต้านเมื่อนันเหมือนกับตะฟุตบอลอัดเข้าไปในกำแพงอะไรทำงั้นนั้น จากนี้ก็ กำหนดเบา ๆ ถ้ากำหนดเป็นดวงแก้ว ต้องเป็นดวงแก้วเบา ๆ ดวงแก้วที่เรานึกถึงเบากว่าลูกโป่งฟองสบู่ ก็องค์พระก็ต้องเป็นองค์พระที่เบา ๆ แล้วก็ ให้กำหนดเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ถ้าทำใจสบายอย่างนี้ เดี๋ยวจะเป็นสมาธิได้ง่าย ที่ว่าเป็นสมาธิได้ง่าย ๆ เป็นอย่างไร เมื่อเรากำหนดเบา ๆ จะเกิดขึ้น ร่างกายใช่พลังงานน้อยลง เมื่อร่างกายใช่พลังงานลดลง การเผาลกพลังงานในตัวก็ดลง เมื่การเผาลกพลังงานในตัวลดลง ความต้องการออกซิเจนก็ลดลง เมื่อความต้องการออกซิเจนลดลง อัตราการหายใจเข้าออกของเราก็ลดลง เมื่ออัตราการหายใจในตัวลดลง กล้ามเนื้อทั้งตัวเริ่มคลายเครียด ใจก็เลยคลายเครียดตามไปด้วย ความสบายก็เกิดขึ้น เมื่อความสบายเกิดขึ้น ความว่างภายในก็เริ่มฟื้นคืนมา เมื่อความว่างมา ความสงบใจมา เมื่อความสงบใจมา การใช้พลังงานก็ลดลง เข้ารอบที่ ๒ แล้ว การเผาลกก็ลดลง ออกซิเจนก็ต้องการลดลง การหายใจเข้าออกลดลง กล้ามเนื้อก็ยิ่งคลาย ใจก็ยิ่งคลาย ความสบายก็เกิดขึ้นมา ความว่างก็เกิดขึ้นมา ความสงบก็เกิดขึ้นมา รอบแล้วรอบเล่า ๆ ต่อแต่นี้ก็สว่างขึ้น ชูขึ้นยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นปฎิรูปิยาเคมีที่เกิดขึ้นมาในตัวของเราจึงทำให้เรารู้สึกสบาย สิ่งที่เราต้องการคือใช้พลังงานน้อย มีสติรตัวอยู่ ไม่ได้รับลับ จิตจะเห็นความสงบ เวลาเราหลับ ลงแต่ไม่เห็นความสงบก็กลับไปแล้ว แต่ลงแล้วมีสติรตัวอยู่ โอ้ะทำไมลงอย่างนี้ ที่ต้องการอยู่ตรงนี้เอง เพราะฉะนั้นโดยหลักการพื้นฐานของการฝึกสมาธิ คือ หลับตาเบา ๆ อย่างบังคับใจ แล้วประคองใจเอาไว้ในกลางท้อง เอาไว้ในตัว ไม่ใช่นอกตัว ขณะฝึกสมาธิต้องกำหนดนิมิต ก็สำนึกก็ต้องกำหนดทั้งนั้น ไม่กำหนดลมหายใจเข้าออก แล้วก็ว่าพุโธ ก็ต้องกำหนดท้องพอง ท้องยุบ แล้วเป็นพองหนอ ยุบหนอ ไม่อย่างนั้นกำหนดเป็นองค์พระ ไม่อย่างนั้นกำหนดเป็นดวงแก้ว เหตุที่ต้องกำหนดเพราะการทำมาธิเป็นการตะล่อมให้เข้ามาข้างในตัว แต่เรายังไม่เห็นใจของตัวเองเลย จึงต้องเอาใจไปฝูกไว้กับวัตถุที่พอกำหนดได้ เช่น ผูกลมลายใจ แมเรามองไม่เห็นลมลายใจ แต่รู้ได้นี้เข้าเนื้อ หรือกำหนดเป็นองค์พระ ที่แรกก็ไม่ได้หรอก กำหนดบ่อย ๆ ชักเป็นงา ๆ อยู่บ้าง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More