ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระเดชพระคุณหลวงปู่จดบ่าว ท่านให้เทคนิคไวเทคนิคหนึ่ง สำหรับคนที่จะผลอหลับตา ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ท่านให้หลัดตาช้อนมองย้อนกลับเข้าไปข้างใน เหล็กดองซ้อนไฟด้านเข้าไปข้างใน เหมือนจะมองเข้าไปในก้นโลกล จะทำให้กล้ามเนื้อดต ผนังตาเปิด ๆ ทำให้คลายตัวง่าย
นอกจากหลับตาเบา ๆ ผนังตาปิด ๘๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว อย่างบังคับใจ เพียงตั้งสติวางใจเบา ๆ ตรงศูนย์กลางกายพอแล้ว อย่างไปบังคับใจเด็ดขาด ถังบังคับใจเมื่อไร จะต่อต้านเมื่อนันเหมือนกับตะฟุตบอลอัดเข้าไปในกำแพงอะไรทำงั้นนั้น
จากนี้ก็ กำหนดเบา ๆ ถ้ากำหนดเป็นดวงแก้ว ต้องเป็นดวงแก้วเบา ๆ ดวงแก้วที่เรานึกถึงเบากว่าลูกโป่งฟองสบู่ ก็องค์พระก็ต้องเป็นองค์พระที่เบา ๆ แล้วก็ ให้กำหนดเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ถ้าทำใจสบายอย่างนี้ เดี๋ยวจะเป็นสมาธิได้ง่าย
ที่ว่าเป็นสมาธิได้ง่าย ๆ เป็นอย่างไร เมื่อเรากำหนดเบา ๆ จะเกิดขึ้น ร่างกายใช่พลังงานน้อยลง เมื่อร่างกายใช่พลังงานลดลง การเผาลกพลังงานในตัวก็ดลง เมื่การเผาลกพลังงานในตัวลดลง ความต้องการออกซิเจนก็ลดลง เมื่อความต้องการออกซิเจนลดลง อัตราการหายใจเข้าออกของเราก็ลดลง เมื่ออัตราการหายใจในตัวลดลง กล้ามเนื้อทั้งตัวเริ่มคลายเครียด ใจก็เลยคลายเครียดตามไปด้วย ความสบายก็เกิดขึ้น
เมื่อความสบายเกิดขึ้น ความว่างภายในก็เริ่มฟื้นคืนมา เมื่อความว่างมา ความสงบใจมา เมื่อความสงบใจมา การใช้พลังงานก็ลดลง เข้ารอบที่ ๒ แล้ว การเผาลกก็ลดลง ออกซิเจนก็ต้องการลดลง การหายใจเข้าออกลดลง กล้ามเนื้อก็ยิ่งคลาย ใจก็ยิ่งคลาย ความสบายก็เกิดขึ้นมา ความว่างก็เกิดขึ้นมา ความสงบก็เกิดขึ้นมา รอบแล้วรอบเล่า ๆ ต่อแต่นี้ก็สว่างขึ้น ชูขึ้นยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นปฎิรูปิยาเคมีที่เกิดขึ้นมาในตัวของเราจึงทำให้เรารู้สึกสบาย
สิ่งที่เราต้องการคือใช้พลังงานน้อย มีสติรตัวอยู่ ไม่ได้รับลับ จิตจะเห็นความสงบ เวลาเราหลับ ลงแต่ไม่เห็นความสงบก็กลับไปแล้ว แต่ลงแล้วมีสติรตัวอยู่ โอ้ะทำไมลงอย่างนี้ ที่ต้องการอยู่ตรงนี้เอง เพราะฉะนั้นโดยหลักการพื้นฐานของการฝึกสมาธิ คือ หลับตาเบา ๆ อย่างบังคับใจ แล้วประคองใจเอาไว้ในกลางท้อง เอาไว้ในตัว ไม่ใช่นอกตัว
ขณะฝึกสมาธิต้องกำหนดนิมิต ก็สำนึกก็ต้องกำหนดทั้งนั้น ไม่กำหนดลมหายใจเข้าออก แล้วก็ว่าพุโธ ก็ต้องกำหนดท้องพอง ท้องยุบ แล้วเป็นพองหนอ ยุบหนอ ไม่อย่างนั้นกำหนดเป็นองค์พระ ไม่อย่างนั้นกำหนดเป็นดวงแก้ว เหตุที่ต้องกำหนดเพราะการทำมาธิเป็นการตะล่อมให้เข้ามาข้างในตัว แต่เรายังไม่เห็นใจของตัวเองเลย จึงต้องเอาใจไปฝูกไว้กับวัตถุที่พอกำหนดได้ เช่น ผูกลมลายใจ แมเรามองไม่เห็นลมลายใจ แต่รู้ได้นี้เข้าเนื้อ หรือกำหนดเป็นองค์พระ ที่แรกก็ไม่ได้หรอก กำหนดบ่อย ๆ ชักเป็นงา ๆ อยู่บ้าง