
| ![]() | |
![]() |
ศ.อรุณ ชัยเสรี อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่าประสบการณ์และให้ความรู้เรื่องอาคารป่วย หรือ Sick Building ในโอกาสที่เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ในงานประชุมวิชาการวิศวกรรมโยธาแห่ง ชาติ ครั้งที่ 13 ที่ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยจัดขึ้น
ณ
โรงแรมจอมเทียนปาล์มบีช พัทยา จังหวัดชลบุรี
ทั้งนี้ศ.อรุณกล่าวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ปอดทั้งๆ ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน แต่อย่างใด และได้ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาซึ่งเเพทย์ก็ไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้ว่า สาเหตุของมะเร็งที่เกิดขึ้นนั้นมาจากอะไร
“ผมพยามค้นคว้าหาสาเหตุจากแหล่งต่างๆ ทั้งหนังสือ ตำราต่างประเทศ
และทางอินเตอร์เน็ต
จึงทำให้ทราบว่าการที่ผมป่วยนั้นมีสาเหตุมาจากการอยู่ในอาคารหรือห้องที่
ไม่เหมาะสมเป็นเวลานานหรือเป็นประจำ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Sick Building
Syndrome หรืออาคารป่วยนั่นเอง
กรณีของผมพบน้อยมากในเมืองไทยของเรา แต่ก่อนผมจะใช้ห้องนอนเป็นห้องทำงาน เรียกได้ว่าชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในนี้เป็นส่วนมาก ทำงานเสร็จแล้วก็นอน ซึ่งผมคิดว่านี่อาจเป็นสาเหตุทำให้ป่วยก็ได้ เรื่องอาคารป่วยนี้ถือเป็นภัยเงียบ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยโดยไม่รู้ตัว
อาคารป่วยนี้ ไม่จำเป็นต้องเกิดกับอาคารเก่าเท่านั้น สามารถเกิดได้ทุกอาคารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ หรือมีสารเคมีหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายรวมอยู่ด้วย
โดยอาการทั่วไปของผู้ที่เข้าไปในอาคารที่พบส่วนใหญ่ จะมีอาการปวดศรีษะ คลื่นไส้ แน่นหน้าอก อ่อนเพลีย จาม ไอ เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นเวลานานเข้าอาจกลายเป็นโรคร้ายอื่นๆ ได้อีกด้วย”
สำหรับสาเหตุของที่ทำให้อาคารป่วย นั้นมีมากมายหลายปัจจัย อาทิ อาคารนั้นมีความสูง และมีการโยกเกิน 1/500 ของความสูง ห้องในอาคารนั้นๆ เป็นแบบปิดทึบไม่มีอากาศถ่ายเท โดยเฉพาะในห้องปรับอากาศ จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอย่างดี หรือถ้าผนังเกิดรอยร้าว หรือมีความชื้นสูงก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคเช่นกัน ส่วนในอาคารหรือห้องที่ปูพรม หรือมีม่าน ถ้าทำความสะอาดไม่ดีก็เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองและเชื้อโรคได้เช่นกัน
หากเป็นห้องที่ทำเสร็จใหม่ๆ ก็จะมีฝุ่นละอองและสารเคมีจากสีกลิ่นของทินเนอร์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก นอกจากนี้ในห้องที่ติดพื้นดิน ถ้าไม่ได้ปูพื้นป้องกันแก๊สเรเดียม ซึ่งเป็นแก๊สที่ไม่มีสีและกลิ่น สลายตัวจากแร่เรเดียม และมีมากในพื้นดิน ก็อาจทำให้แก๊สนั้นแพร่ซึมมาสู่ร่างกายก่อให้เกิดการสะสมจนเป็นโรคมะเร็งได้
“วิธีแก้ไขและป้องกันนั้น เราก็ต้องเริ่มต้นจากการออกแบบก่อสร้างให้ถูกสุขลักษณะ ซึ่งตรงนี้วิศวกรจะต้องมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำแก่สถาปนิก หรือแก้ไขตามสาเหตุนั้นๆ เช่น ถ้าในห้องอากาศไม่ถ่ายเท ก็ควรออกแบบให้โปร่งโล่ง อากาศเข้าออกได้ดี
ถ้าพื้นอาคารหรือห้องอยู่ติดหรือใกล้พื้นดิน ก็ควรปูยางรองพื้นชนิดพิเศษที่สามารถป้องกันแก๊สเรเดียมได้ ที่สำคัญควรทำความสะอาดห้องเป็นประจำและหมั่นตรวจตราสำรวจอยู่สม่ำเสมอ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ไปอยู่ในห้องหรืออาคารที่ป่วยก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” ศ.อรุณ กล่าว
ทั้งนี้ศ.อรุณกล่าวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ปอดทั้งๆ ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน แต่อย่างใด และได้ไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาซึ่งเเพทย์ก็ไม่สามารถที่จะให้คำตอบได้ว่า สาเหตุของมะเร็งที่เกิดขึ้นนั้นมาจากอะไร

กรณีของผมพบน้อยมากในเมืองไทยของเรา แต่ก่อนผมจะใช้ห้องนอนเป็นห้องทำงาน เรียกได้ว่าชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในนี้เป็นส่วนมาก ทำงานเสร็จแล้วก็นอน ซึ่งผมคิดว่านี่อาจเป็นสาเหตุทำให้ป่วยก็ได้ เรื่องอาคารป่วยนี้ถือเป็นภัยเงียบ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยโดยไม่รู้ตัว
อาคารป่วยนี้ ไม่จำเป็นต้องเกิดกับอาคารเก่าเท่านั้น สามารถเกิดได้ทุกอาคารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ หรือมีสารเคมีหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายรวมอยู่ด้วย
โดยอาการทั่วไปของผู้ที่เข้าไปในอาคารที่พบส่วนใหญ่ จะมีอาการปวดศรีษะ คลื่นไส้ แน่นหน้าอก อ่อนเพลีย จาม ไอ เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นเวลานานเข้าอาจกลายเป็นโรคร้ายอื่นๆ ได้อีกด้วย”
สำหรับสาเหตุของที่ทำให้อาคารป่วย นั้นมีมากมายหลายปัจจัย อาทิ อาคารนั้นมีความสูง และมีการโยกเกิน 1/500 ของความสูง ห้องในอาคารนั้นๆ เป็นแบบปิดทึบไม่มีอากาศถ่ายเท โดยเฉพาะในห้องปรับอากาศ จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอย่างดี หรือถ้าผนังเกิดรอยร้าว หรือมีความชื้นสูงก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคเช่นกัน ส่วนในอาคารหรือห้องที่ปูพรม หรือมีม่าน ถ้าทำความสะอาดไม่ดีก็เป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองและเชื้อโรคได้เช่นกัน
หากเป็นห้องที่ทำเสร็จใหม่ๆ ก็จะมีฝุ่นละอองและสารเคมีจากสีกลิ่นของทินเนอร์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก นอกจากนี้ในห้องที่ติดพื้นดิน ถ้าไม่ได้ปูพื้นป้องกันแก๊สเรเดียม ซึ่งเป็นแก๊สที่ไม่มีสีและกลิ่น สลายตัวจากแร่เรเดียม และมีมากในพื้นดิน ก็อาจทำให้แก๊สนั้นแพร่ซึมมาสู่ร่างกายก่อให้เกิดการสะสมจนเป็นโรคมะเร็งได้
“วิธีแก้ไขและป้องกันนั้น เราก็ต้องเริ่มต้นจากการออกแบบก่อสร้างให้ถูกสุขลักษณะ ซึ่งตรงนี้วิศวกรจะต้องมีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำแก่สถาปนิก หรือแก้ไขตามสาเหตุนั้นๆ เช่น ถ้าในห้องอากาศไม่ถ่ายเท ก็ควรออกแบบให้โปร่งโล่ง อากาศเข้าออกได้ดี
ถ้าพื้นอาคารหรือห้องอยู่ติดหรือใกล้พื้นดิน ก็ควรปูยางรองพื้นชนิดพิเศษที่สามารถป้องกันแก๊สเรเดียมได้ ที่สำคัญควรทำความสะอาดห้องเป็นประจำและหมั่นตรวจตราสำรวจอยู่สม่ำเสมอ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ไปอยู่ในห้องหรืออาคารที่ป่วยก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” ศ.อรุณ กล่าว
ที่มา-
