
"ความแข็งแกร่ง การเคลื่อนไหวแบบสอดประสานกัน และความอึดย่อมลดน้อยถอยลงไปตามอายุขัยที่เพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ศิลปะการป้องกันตัวสามารถฝึกฝนให้ดีขึ้นมาได้มาก" มาร์ติน ฮัล นายแพทย์ด้านการกีฬาประจำมหาวิทยาลัยเทคนิคมิวนิคแนะนำ
"ด้วยอายุอย่างผมก็ทำให้รู้สึกเสื่อมถอยบ้างเป็นธรรมดา" คุณปู่ปราส นักยูโดสายดำขั้น 10 ยอมรับ แต่ก็ย้ำว่ายูโดช่วยให้ตัวเองยังฟิตปั๋งอยู่
ขณะนี้มีสโมสรหลายแห่งเปิดโปรแกรมสอนผู้สูงอายุให้เข้ามาฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวทั้งยูโด คาราเต้ และ ยิวยิตสู โดย สมาคมคาราเต้เยอรมัน (ดีเควี) เป็นหนึ่งในสมาคมแรกๆ ที่ค้นพบว่า ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ต้องการให้เข้าร่วมกันฝึก โดย เอลิซาเบธ บอร์ก จากสมาคมดีเควีเผยว่า ทุกวันนี้ 1 ใน 5 ของสมาชิกสมาคมมีอายุมากกว่า 50 ปี
"ผู้ที่มีอายุราว 50 ปี หรือแก่กว่าเท่านั้นจึงจะได้รับอนุญาตให้ฝึกกับหลักสูตรจูกูเรน เพราะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไรที่จะให้พวกเขาไปฝึกกับคนอายุแค่ 20 ปี" บอร์กให้ความเห็น
ในหลักสูตรสำหรับผู้สูงอายุนั้นจะหลีกเลี่ยงการออกท่าทางแบบกะทันหัน หรือการแตะแบบแรงๆ โดยจะให้ความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวช้าแบบพอดีๆ และการเคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ แทน
"ในผู้ที่มีอายุมาก ควรหลีกเลี่ยงการปะทะทางกายในศิลปะการป้องกันตัว คงเป็นเรื่องอันตรายเกินไปที่จะถูกทุ่มลงไปนอนกับเสื่อทั้งที่มีอายุขนาดนั้นแล้ว" ฮัลกล่าวพร้อมเสริมว่า การฝึกควรพุ่งเป้าไปยังการยืดขยายกล้ามเนื้อ และการแนะนำการออกท่าทาง ซึ่งผู้ที่เข้ารับการฝึกฝนจะได้รับประโยชน์มหาศาล
"ทุกคนควรเล่นกีฬาที่ต้องใช้ความอดทนในการฝึกฝน ซึ่งจะดีต่อระบบหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เพราะคนที่จะสามารถดูแลตัวเองได้คือคนที่แข็งแรง และการฝึกก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยเรื่องการเดินเหินและป้องกันการล้ม" ฮัลกล่าว
ยิ่งกว่านั้น การฝึกยังให้ประโยชน์ต่อผู้สูงอายุไว้ป้องกันตัวได้ด้วย
"เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ผู้สูงอายุมักจะถูกวิ่งราวทรัพย์ หรือมักจะหยิ่งเกินไปจนทำให้ล้มไม่เป็นท่า แต่การฝึกศิลปะป้องกันตัวจะช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และสามารถปกป้องตัวเองได้ในยามจำเป็น" ปราสยกตัวอย่างให้ฟัง
