อานิสงส์รักษาอุโบสถศีล

พระจันทร์และพระอาทิตย์ส่องแสงสว่างไสว ย่อมโคจรไปตามวิถีเพียงไร ก็สามารถขจัดความมืดได้เพียงนั้น ล่องลอยอยู่ในนภากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศ ทรัพย์ทั้งหลาย แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ หรือทองมีสีสุกใส พระจันทร์ พระอาทิตย์และทรัพย์นั้นๆ ก็ยังเทียบไม่ได้แม้ส่วนเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ https://dmc.tv/a12093

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ธรรมะเพื่อประชาชน
[ 5 ก.ย. 2554 ] - [ ผู้อ่าน : 18366 ]
 

 
     ความสุข ความปลอดภัยและความอบอุ่นใจในชีวิตเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนา แต่หลายชีวิตก็ยังไม่ทราบว่า มันอยู่ที่ตรงไหน เข้าถึงได้ด้วยวิธีการใด  จึงต่างแสวงหากันรํ่าไป แต่ถ้าหากทุกคนในโลกมีโอกาสได้ประพฤติปฏิบัติธรรม จนกระทั่งกาย วาจา ใจของทุกๆ คนสะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส  มีใจตั้งมั่นอยู่ในกลางกาย เต็มเปี่ยมไปด้วยสติและปัญญาบริสุทธิ์  ก็จะรู้ว่า พระรัตนตรัยเป็นศูนย์รวมของความสุขและความปลอดภัยทุกอย่าง จะปลอดภัยทั้งโลกนี้ และโลกหน้า ถ้าได้เข้าถึงพระรัตนตรัย มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งแล้ว  เราจะมีความอบอุ่นใจ รู้สึกมั่นใจในชีวิต ไม่หวาดหวั่นแม้ในมรณภัยที่ย่างกรายเข้ามาทุกขณะ  การจะให้ได้พบพระรัตนตรัย ต้องเริ่มจากการฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗  ซึ่งเป็นต้นแหล่งแห่งความสุขและความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวง
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน วิตถตสูตร ว่า
 
     “พระจันทร์และพระอาทิตย์ส่องแสงสว่างไสว ย่อมโคจรไปตามวิถีเพียงไร ก็สามารถขจัดความมืดได้เพียงนั้น ล่องลอยอยู่ในนภากาศ ส่องแสงสว่างทั่วทุกทิศ ทรัพย์ทั้งหลาย  แก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ หรือทองมีสีสุกใส พระจันทร์ พระอาทิตย์และทรัพย์นั้นๆ ก็ยังเทียบไม่ได้แม้ส่วนเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ เปรียบเหมือนรัศมีพระจันทร์ข่มหมู่ดวงดาวทั้งหมด  เพราะฉะนั้นแหละ หญิงหรือชายผู้มีศีล สมาทานอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ แล้ว กระทำบุญทั้งหลายอันมีสุขเป็นกำไร ใครๆ ไม่อาจติเตียนได้ ย่อมเข้าถึงสุคติสวรรค์
 
     หลวงพ่อได้ยกพุทธพจน์ที่กล่าวถึงการรักษาอุโบสถศีล หมายถึงการรักษาศีล ๘  ซึ่งเป็นการสร้างบารมีที่เข้มข้นขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เป็นการยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น ใจจะได้ไม่ไปเกาะเกี่ยวอยู่ในเบญจกามคุณ  ความสูงส่งของจิตใจตรงนี้ จะทำให้เรามีความแตกต่างจากชาวโลกทั่วไป  เพราะคนส่วนใหญ่มัวใช้เวลาไปเพื่อทำมาหากิน  โดยไม่ใส่ใจในการรักษาความบริสุทธิ์ให้กับตัวเอง  มีการผิดศีลผิดธรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง เพราะฉะนั้นใครที่ทำศีลให้บริสุทธิ์ได้  ท่านถึงอุปมาเหมือนดวงจันทร์ที่พ้นเมฆหมอกส่องแสงสว่างกว่าหมู่ดาวทั้งหลาย  
 
     เท่าที่ผ่านมา พวกเราต่างก็ได้มาวัดเพื่อสั่งสมบุญด้วยการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนาเป็นประจำกันอยู่แล้ว  ในเรื่องของศีล พวกเราคุ้นกับการรักษาศีล ๕ เป็นปกติ มนุษยธรรมคือธรรมเบื้องต้นที่ทำให้เป็นมนุษย์ของเราก็สมบูรณ์  แต่เมื่อกล่าวถึงศีล ๘  เราก็มีการสมาทานกันบ้างตามโอกาสอันควร ก็แล้วแต่ว่าใครสะดวกที่จะประพฤติปฏิบัติกัน  หลายๆ ท่าน เคยมาปวารณากับหลวงพ่อและก็หมั่นรักษาศีล ๘ ให้บริสุทธิ์มาหลายปี โดยไม่ด่างไม่พร้อยเลยก็มี  หลวงพ่อก็ขออนุโมทนาบุญด้วย  คนที่รักษาศีล ๘ ได้ในสภาวะการณ์ของโลกปัจจุบันนี้ที่มีแต่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันนั้น  ถือว่าเป็นผู้ควรยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง แม้เทวดาก็อนุโมทนา เมื่อละโลกไปแล้ว จะเป็นเหตุให้ได้สวรรค์สมบัติ  มีวิมานที่สว่างไสว รัศมีกายสว่างรุ่งโรจน์กว่าใครๆ เป็นพิเศษ
 
     มีตัวอย่างเกี่ยวกับผู้ที่ตั้งใจสมาทานอุโบสถศีล รักษาศีล ๘ ได้บริสุทธิ์บริบูรณ์แล้วได้ไปบังเกิดในสุคติสวรรค์มากมายทีเดียว  ดังเช่น
 
     * มีอยู่คืนหนึ่ง เหล่าทวยเทพจากสวรรค์ชั้นต่างๆ ได้ทยอยกันลงมาฟังธรรมจากพระพุทธองค์  คืนนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสังเกตเห็นรัศมีกายของเทพธิดาตนหนึ่ง  มีความสว่างไสวเป็นพิเศษ อันที่จริงพระพุทธองค์ทรงทราบว่า  นี่เป็นบุพกรรมอะไรที่นางได้สั่งสมเอาไว้  แต่ก็ตรัสถามเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณของนางท่ามกลางมหาสมาคมของเหล่าทวยเทพ
 
     ธรรมชาติของพระพุทธเจ้านั้น พระองค์ไม่ปกปิดคุณความดีของคนอื่น ใครทำความดีอะไรก็ยกย่องสรรเสริญ ด้วยการประกาศคุณความดีนั้นๆ ให้มนุษย์และเทวดาได้อนุโมทนากันไปทั่ว  เพื่อให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังแล้ว  จะได้เกิดกำลังใจในการสร้างความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป  พระองค์ตรัสถามถึงบุพกรรมของเทพธิดาตนนั้นว่า “ดูก่อนเทพธิดาผู้มีรัศมีกายสว่างไสว  ท่านทัดทรงดอกมณฑารพ ซึ่งมีสีต่างๆ  แวดล้อมด้วยกลีบเกสรจากต้นไม้เหล่าใด ต้นไม้เหล่านี้ไม่มีในหมู่เทพเหล่าอื่น  เพราะบุญอะไร ท่านผู้มียศจึงเข้าถึงหมู่ทวยเทพชั้นดาวดึงส์  ท่านถูกเราถามแล้ว โปรดบอกสิว่านี้เป็นผลของบุญกรรมอะไร"
 
     เทพธิดาผู้ถูกพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามอย่างนี้แล้ว  ก็ปีติยินดีก็ทูลตอบว่า "ชนทั้งหลายรู้จักข้าพระองค์ว่า ภัททิตถิกา  ข้าพระองค์เป็นอุบาสิกาอยู่ในกิมพิลนคร เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและศีล  ยินดีในการจำแนกทานทุกเมื่อ  มีจิตอันเลื่อมใสในพระอริยเจ้า  ได้ถวายผ้านุ่งห่ม อาหาร เสนาสนะ และเครื่องประทีป  ข้าพระองค์ได้เข้ารักษาอุโบสถศีล อันประกอบด้วยองค์ ๘  ตลอดดิถีที่ ๑๔-๑๕ และดิถีที่ ๘  ของปักษ์  เข้าจำอุโบสถตลอดปาฏิหาริยปักษ์  แม้ในวันธรรมดา ข้าพระองค์ก็เป็นผู้สำรวมในศีลทุกเมื่อ  งดเว้นจากปาณาติบาต เป็นผู้เว้นจากการถือเอาสิ่งของของผู้อื่น เว้นจากการประพฤติผิดในกาม  สำรวมจากมุสาวาท  และจากการดื่มน้ำเมา
 
     ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ข้าพระองค์เป็นผู้ยินดีในสิกขาบททั้ง ๕  และเป็นผู้ฉลาดในอริยสัจ  มีปกติเป็นอยู่ด้วยความไม่ประมาท เป็นอุบาสิกาของพระพุทธเจ้าผู้มีพระสมันตจักษุ  ข้าพระองค์บำเพ็ญสุจริตกุศลธรรมสำเร็จแล้ว  ครั้นจุติจากมนุษยโลกแล้ว  บุญนั้นก็ส่งผล ให้ได้มาเป็นเทพธิดาผู้มีรัศมีในกายตัวเอง  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  ข้าพระองค์ได้เลี้ยงดูภิกษุสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ  และได้บำเพ็ญสุจริตกุศลธรรมไว้มาก  ทำให้เป็นผู้มีอานุภาพถึงเพียงนี้"
 
     ผลแห่งการทำความดีนั้นก็มีความสุขใจเป็นเบื้องต้น มีทิพยสุขท่ามกลาง และมีนิพพานสุขเป็นที่สุด  แต่ในบางครั้ง กว่าที่ผลของการทำความดีจะส่งผล ก็ต้องอดทนรอกันบ้าง  ต้องคอยหมั่นสั่งสมบุญเป็นประจำ และก็ต้องรอเวลาที่เหมาะสมอีกด้วย  เมื่อเราตั้งใจทำความดีอะไรเอาไว้ก็ต้องตั้งใจทำให้เต็มที่ บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์  ใช้วันเวลาที่ผ่านไปให้เป็นบุญเป็นกุศลตลอด  ให้ตัวเราเป็นที่รวมลงแห่งกุศลความดีทั้งหลาย แล้วสักวันหนึ่งผลแห่งความดีก็จะมาประมวลรวมอยู่ที่ตัวของเรา เมื่อนั้นเราจะเกิดความปีติอิ่มเอิบเบิกบานใจ ปลื้มใจในตัวเองทีเดียว
 
     สำหรับเรื่องที่สองที่หลวงพ่อจะได้นำมากล่าวต่อไป ก็คือการสนทนากันระหว่างท้าวสักกะเทวราชกับเทพธิดาตนหนึ่งในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์  เรื่องมีอยู่ว่า
 
     * วันหนึ่งพระอินทร์ได้เสด็จไปสวนจิตรลดา  ขณะที่ประทับอยู่ในสวนนั้น ก็สังเกตเห็นว่า มีรัศมีกายของเทพตนหนึ่งมากลบรัศมีกายพระองค์ และก็ยังกลบแสงสว่างในบริเวณสวนจนหมด  เป็นความสว่างที่สวยงามเป็นพิเศษ  พระอินทร์ทอดพระเนตรเห็นที่มาของรัศมีนั้นแล้ว  ก็ตรัสถามว่า “ดูก่อนแม่เทพธิดา ผู้มีนัยน์ตางาม  เธอชื่ออะไร  ได้ทำกรรมอะไรไว้ จึงได้มีหมู่นางฟ้าแวดล้อมเป็นบริวารมากมาย  เมื่อเธอมายังไม่ถึงในที่นี้  รัศมีก็สว่างไสวไปทั่วจิตรลดา  โอภาสของสวนมิได้ปรากฏ เพราะรัศมีของเธอมาข่มเสียแล้ว  ดูก่อนแม่เทพธิดา  นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร”
 
     สุนันทาเทพธิดาทูลตอบว่า “ขอเดชะ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมเทพ  หม่อมฉันเป็นอุบาสิกานามว่าสุนันทา  ถึงพร้อมด้วยศรัทธาและศีล  ยินดีในการจำแนกทานทุกเมื่อ  หม่อมฉันมีจิตเลื่อมใสในพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ  จึงได้ถวายผ้านุ่งผ้าห่ม ภัตตาหาร  เสนาสนะและประทีป ทั้งได้รักษาอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘  ตลอด ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และ ๘ ค่ำ แห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์  เป็นผู้สำรวมอยู่ในศีลเป็นนิตย์ คือเว้นจากการฆ่าสัตว์  ระวังจากการพูดเท็จ จากการลักขโมย จากการประพฤตินอกใจสามี ห่างไกลจากการดื่มน้ำเมา  ในวันอุโบสถหม่อมฉันมีใจเลื่อมใส  ได้ถือเอาดอกไม้ของหอม และเครื่องลูบไล้ไปบูชาพระสถูปด้วยมือของตนเอง  ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมเทพ  รูป คติ ฤทธิ์ และอานุภาพเช่นนี้ บังเกิดขึ้นแก่หม่อมฉัน  เพราะบุญที่ได้สั่งสมไว้ดีแล้วตั้งแต่สมัยเป็นมนุษย์ บุญนั้นส่งผลให้ดิฉันมีรัศมีกายอันสว่างไสวอย่างนี้”
 
    เราจะเห็นได้ว่า  บุญจากการรักษาศีลนั้นมีอานิสงส์ใหญ่ ส่งผลให้ได้สวรรค์สมบัติกันอย่างง่ายๆ  ภาวะของโลกปัจจุบันนี้มักจะทำให้พวกเราประพฤติผิดศีลผิดธรรมกันได้ไม่ยาก แต่ผู้ที่อดทนข่มจิตข่มใจ รักษาภาวะปกติของตัวเองได้ จึงเป็นผู้ที่น่ายกย่อง แม้กระทั่งพระผู้พระภาคเจ้าก็ตรัสรับรองคนที่รักษาศีลได้บริสุทธิ์บริบูรณ์ว่า  ถึงจะยังดำรงอยู่ในโลกนี้ก็เหมือนอยู่บนสวรรค์  เพราะได้ชื่อว่าเป็นมนุสสเทโว มีหิริโอตตัปปะ และมีศีลกันเป็นปกติ
 
     พระพุทธองค์เคยตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่า "บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมเป็นเหมือนถูกเชิญให้ไปอยู่ในสวรรค์  ธรรม ๕ ประการคือ  เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต เป็นผู้งดเว้นจากอทินนาทาน  เป็นผู้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร  เป็นผู้งดเว้นจากมุสาวาท  เป็นผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้เหมือนถูกเชิญไปอยู่ในสวรรค์
 
     เพราะฉะนั้น ขอเชิญทุกท่านหมั่นรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ และก็รักษาใจให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส  ให้ใจหยุดนิ่งกันให้ดีทีเดียว  แล้วเราจะได้ทั้งมนุษยสมบัติ ทิพยสมบัติและนิพพานสมบัติ  ซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนาของมวลมนุษยชาติทุกๆ คน

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
* มก. เล่ม ๔๘ หน้า ๑๘๕
* มก. เล่ม ๔๘ หน้า ๓๑๗

http://goo.gl/MgDEp


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - อานิสงส์ทำบุญทอดกฐิน
      หลุดพ้นจากสังสารวัฏ
      โสฬสญาณ
      เบื้องต้นเบื้องปลายไม่ปรากฏ
      พระอรหันต์รู้ได้ยาก
      ความวิเศษสุดของพระพุทธศาสนา
      พระอรหันต์มีจริง
      พระอริยเจ้า
      ผลแห่งการชวนคนมารู้จักพระรัตนตรัย
      คนดีที่โลกต้องการ
      นักสร้างบารมีพันธุ์อาชาไนย
      เวสารัชชธรรม ๔
      ต้นแบบแห่งความดี




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related