อานิสงส์โปรยน้ำเป็นพุทธบูชา

พืชแม้เล็กน้อย อันบุคคลหว่านแล้วในนาดี เมื่อฝนหลั่งสายน้ำถูกต้องตามกาล ผลก็ย่อมยังชาวนาให้ยินดีได้ฉันใด เมื่อสักการะแม้เล็กน้อย อันทายกทำแล้ว ในเหล่าท่านผู้มีศีล ผู้มีคุณ ผู้คงที่ ผลก็ย่อมยังทายกให้ยินดีได้ ฉันนั้นเหมือนกัน https://dmc.tv/a12264

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ธรรมะเพื่อประชาชน
[ 27 ก.ย. 2554 ] - [ ผู้อ่าน : 18286 ]
อานิสงส์โปรยน้ำเป็นพุทธบูชา
 
 
 
     การเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนา เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อทุกๆ ชีวิต เพราะเป็นกิจหลักที่จะนำพาทุกๆ คน ให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน เข้าถึงพระธรรมกายซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง กายธรรมนี้เป็นที่รวมแห่งความบริสุทธิ์ ที่มีแต่สุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปน เป็นแหล่งแห่งความสุขอันเป็นบรมสุข ที่เมื่อเข้าถึงแล้ว ชีวิตจะมีแต่ความสุขตลอดเส้นทางของการสร้างบารมี จะเข้าถึงจุดแห่งความสมปรารถนานี้ได้ ก็ต้องหมั่นปฏิบัติธรรม ทำใจหยุดใจนิ่งให้ได้อย่างต่อเนื่องสมํ่าเสมอเป็นประจำทุกวัน
 
มีวาระพระบาลีที่ปรากฏใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ความว่า
 
     “พืชแม้เล็กน้อย อันบุคคลหว่านแล้วในนาดี เมื่อฝนหลั่งสายน้ำถูกต้องตามกาล ผลก็ย่อมยังชาวนาให้ยินดีได้ฉันใด เมื่อสักการะแม้เล็กน้อย อันทายกทำแล้ว ในเหล่าท่านผู้มีศีล ผู้มีคุณ ผู้คงที่ ผลก็ย่อมยังทายกให้ยินดีได้ ฉันนั้นเหมือนกัน”
 
     เนื้อนาดีเป็นสิ่งที่ชาวนาต้องการ เพราะจะทำให้การไถหว่าน มีผลที่เกินควรเกินคาด การสร้างบุญให้ถูกเนื้อนาบุญนั้น ก็เป็นสิ่งที่บัณฑิตปรารถนา เพราะเป็นการหว่านไทยทานลงในเนื้อนาบุญอันอุดม จะเป็นทางมาแห่งมหากุศลอันยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ จะส่งผลให้ได้มหาสมบัติใหญ่ ทั้งมนุษย์สมบัติ ทิพย์สมบัติ และนิพพานสมบัติในที่สุด
 
     เหมือนดังเนื้อความแห่งคาถาที่หลวงพ่อนำมากล่าวไว้ในข้างต้น เป็นพระดำรัสของพระบรมศาสดาที่ตรัสในที่ประชุมของเหล่าทวยเทพทั้งหลาย เพราะปรารภเหตุของอังกุรเทพบุตรกับอินทกเทพบุตร ที่ได้รับผลบุญที่แตกต่างกันอย่างมาก อังกุรเทพบุตรนั้นสร้างทานบารมีนอกบุญเขตหลายหมื่นปี เมื่อละจากโลกไป กลับได้อานิสงส์น้อยกว่าอินทกเทพบุตรที่ถวายข้าวเพียงทัพพีเดียวกับพระอรหันต์ แถมยังถูกรัศมีของอินทกเทพบุตรกลบหมด
 
     ซึ่งเรื่องราวทำนองนี้ที่เคยเกิดขึ้นมีมากมาย ที่นักสร้างบารมีทั้งหลายในอดีตได้ถวายสักการะแม้เพียงเล็กน้อย แต่ทำถูกเนื้อนาบุญ ผลแห่งบุญนั้น ทำให้ประสบแต่ความสุขทุกภพทุกชาติ นับตั้งแต่ภพชาติที่ได้สร้างบุญนั้น จนกระทั่งเข้าถึงพระนิพพาน ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เนื้อนาบุญที่ดีมีความสำคัญมากต่อการสร้างบารมี เพราะจะทำให้การสร้างบารมีนั้นเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ได้เร็วขึ้น
 
     * เหมือนเรื่องราวการสร้างบุญของพระเถระองค์หนึ่ง ท่านมีชื่อว่า พระอุทกปูชกเถระ ท่านเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในสมัยพุทธกาล เมื่อภพชาติในอดีต ท่านได้สั่งสมบุญกุศลตามวาระโอกาส ทำให้พอมีอุปนิสัยที่น้อมไปในพระนิพพาน แต่บุญในตัวก็ยังไม่มากพอจะส่งผลให้เข้าถึงพระนิพพาน
 
     จนมาถึงสมัยของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ท่านได้บังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง พอเติบใหญ่ มีโอกาสได้เดินทางไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมกับเหล่ามหาชนทั้งหลาย เมื่อไปถึงพระวิหาร ได้มองเห็นพระรัศมีที่สว่างไสวแผ่ซ่านออกจากพระวรกาย ก็เกิดความเลื่อมใสอย่างยิ่ง ยิ่งได้ฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็ยิ่งทำให้รู้ซึ้งถึงผลแห่งกุศลกรรมและอกุศลกรรม
 
     ท่านได้มองพระพุทธองค์ด้วยใจที่ปีติ และปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่เนื่องจากว่าไม่ได้เตรียมเครื่องไทยธรรมมา จึงกอบน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ตัว บูชาด้วยมือทั้งสอง แต่ด้วยความที่มีมหาชนมาฟังธรรมจำนวนมากทำให้เข้าไม่ถึง จึงได้แต่คิดอยู่ในใจว่า ขอพระพุทธองค์ทรงรับเครื่องบูชาอันน้อยนิดนี้ด้วยเถิด เมื่อนึกอธิษฐานแล้ว ก็โปรยขึ้นไปในอากาศ
 
     พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบความดำริของอุบาสกนั้น จึงเหาะขึ้นไปประทับยืนอยู่ในอากาศแล้วทรงรับน้ำนั้นไว้ และทรงปรารถนาจะให้อุบาสกนั้นเกิดมหาปีติยิ่งขึ้น จึงตรัสพยากรณ์ว่า “ด้วยการถวายน้ำที่ประกอบด้วยความปีติเลื่อมใสนี้ อุบาสกผู้นี้จะไม่เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัป
 
     พอได้ฟังคำพยากรณ์เท่านั้น ก็ยิ่งทำให้ท่านเกิดมหาปีติอย่างท่วมท้น  เหตุการณ์ในวันนั้น ได้ประทับอยู่ในความทรงจำของท่านอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งละจากโลกไป ได้ไปบังเกิดเป็นสหายแห่งเทวดานับชาติไม่ถ้วน เสวยทิพยสมบัติอันประณีต และเสวยมนุษยสมบัติอีกยาวนาน จนกระทั่งมาถึงสมัยพุทธกาล ก็ได้บังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง ครั้นบรรลุนิติภาวะแล้ว บุญเก่าในตัวตามมาทัน จึงตัดสินใจทิ้งมหาสมบัติทั้งหลายออกบวช บวชได้ไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ เมื่อท่านบรรลุธรรมแล้ว ก็ย้อนกลับไปดู พบเห็นบุญที่ตนเองได้สร้างก็เกิดความอัศจรรย์ใจว่า
 
     “อานุภาพบุญที่ได้ทำบุญถูกเนื้อนาบุญนี้และทำด้วยมหาปีติ ช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน เราได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเอามือทั้งสองกอบน้ำแล้วโปรยขึ้นไปบูชาพระองค์ในอากาศ พระพุทธเจ้าผู้มีพระกรุณาทรงรับไว้ได้ประทับยืนอยู่ในอากาศ ทรงทราบความดำริของเรา จึงตรัสพยากรณ์ว่า ด้วยการถวายน้ำนี้ด้วยมหาปีติ เราจะไม่เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัป
 
     ด้วยกรรมนั้น เราไม่ได้ไปสู่ทุคติเลยในแสนกัป และยังสมบูรณ์ด้วยทิพย์สมบัติและมนุษย์สมบัติ ในกัปที่ ๖,๕๐๐ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓ ครั้ง มีพระนามว่า สหัสสราช เป็นจอมชน ปกครองแผ่นดิน มีสมุทรสาครทั้ง ๔ เป็นที่สุด ภพชาตินี้ เราได้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ด้วยคุณวิเศษทั้งหลาย ผลแห่งบุญที่ทำถูกเนื้อนาบุญนี้ น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง” 
 
     นี่เป็นเรื่องราวของ พระอุทกปูชกเถรเจ้า ที่ท่านได้สร้างบารมีในยุคนั้น แล้วก็ได้ผลานิสงส์ที่เกินควรเกินคาด
 
     หลวงพ่อยังมีอีกเรื่องหนึ่ง  เป็นเรื่องการสร้างบารมีของ พระนฬมาลิยเถระ
 
    * พระนฬมาลิยเถระ ท่านเกิดในยุคเดียวกันกับพระเถระอุทกปูชกะ  แต่ในชาตินั้น ท่านเป็นดาบสอยู่ในป่าหิมวันต์ ได้บำเพ็ญเพียรอยู่ยาวนาน  วันหนึ่ง พระปทุมุตรสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จหลีกเร้น เพื่อแสวงหาที่วิเวก ได้ผ่านไปทางอาศรมของดาบส ดาบสนั้นเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เกิดความเลื่อมใส ได้ลาดเครื่องลาดหญ้าและทำพัดวิชนีด้วยดอกไม้อ้อ พัดถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า
 
     พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับแล้วได้กระทำอนุโมทนา เพื่อทรงอนุเคราะห์แก่ท่าน ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเกิด ณ สถานที่แห่งใด ก็จะเป็นผู้ที่ไม่มีความกระวนกระวายและความเร่าร้อน ได้รับความสุขทั้งกายและใจ เป็นอยู่อย่างสงบสุข จนมาถึงสมัยพุทธกาล ก็ได้ออกบวช จนในที่สุดได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
 
     หลังจากที่ท่านบรรลุแล้ว ท่านได้ย้อนอดีตดูบุพกรรมของตนเอง ก็พบว่า อานิสงส์จากการถวายพัดถูกเนื้อนาบุญในครั้งนั้น ทำให้ท่านได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามชื่อว่า สุพพตะ ๓๘ ครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยกุศลกรรมที่เหลือ ท่านได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิมีพระนามว่า มาลุตะ อีก ๘ ครั้ง บุญนั้นส่งผลให้ท่านท่องเที่ยวไปแต่สุคติ เสวยสุขเป็นเวลานานถึงแสนกัปทีเดียว และบุญนั้นส่งผลให้ท่านได้บรรลุมรรคผลนิพพานในที่สุด
 
     เราจะเห็นว่า การสร้างบุญถูกเนื้อนาบุญนั้น จะนำพาเราไปถึงฝั่งแห่งพระนิพพานได้ การสร้างบุญนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกๆ ชีวิตที่เกิดมาในสังสารวัฏ เพราะว่าตราบใดที่เรายังไม่หมดสิ้นอาสวกิเลส ก็ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดกันต่อไป บุญที่เราสั่งสมในแต่ละภพละชาตินั้น จะเป็นเสบียงในการเดินทางไกลในสังสารวัฏที่เราทุกคนจะต้องใช้บุญอยู่ตลอดเวลา เมื่อเราทราบกันอย่างนี้แล้ว ก็ให้ตั้งใจให้แน่แน่วในการสั่งสมบุญบารมีให้มากๆ  อย่าให้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว ในการสร้างบุญ ก็รู้จักทำบุญให้ถูกเนื้อนาบุญด้วย ทำบุญทั้งทีต้องให้เกิดเป็นบุญเป็นบารมี สมกับที่ได้เกิดมาสร้างบารมี

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๓๖๕
 
* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๓๖๘
 
 

http://goo.gl/G8WCT


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - อานิสงส์ทำบุญทอดกฐิน
      หลุดพ้นจากสังสารวัฏ
      โสฬสญาณ
      เบื้องต้นเบื้องปลายไม่ปรากฏ
      พระอรหันต์รู้ได้ยาก
      ความวิเศษสุดของพระพุทธศาสนา
      พระอรหันต์มีจริง
      พระอริยเจ้า
      ผลแห่งการชวนคนมารู้จักพระรัตนตรัย
      คนดีที่โลกต้องการ
      นักสร้างบารมีพันธุ์อาชาไนย
      เวสารัชชธรรม ๔
      ต้นแบบแห่งความดี




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related