เนมิราชชาดก บำเพ็ญอธิษฐานบารมี (๑๑)
สิ่งที่มวลมนุษยชาติทั้งหลายแสวงหา คือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข...
สามารถแสวงหาปัจจัยสี่มาเลี้ยงชีพอย่างสะดวกสบาย แม้ถึงกระนั้นก็ตาม การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะมีทรัพย์สมบัติที่สมบูรณ์บริบูรณ์ ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตของผู้นั้นจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ในทางตรงกันข้าม หากมีทรัพย์สมบัติพอประมาณ แต่รู้จักใช้จ่ายทรัพย์ในทางที่ถูกต้อง ใช้ทรัพย์ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ในการสร้างบารมี อีกทั้งฝึกฝนอบรมจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์เสมอ ควบคุมใจไม่ให้หลงใหลมัวเมา ผู้นั้นย่อมดำรงชีพอยู่ได้อย่างมีความสุขมีถ้อยคำที่เป็นธรรมภาษิตที่พระเจ้าเนมิราชได้ตรัสไว้ว่า“สิ่งใดที่ได้มาเพราะผู้อื่นให้ สิ่งนั้นเปรียบเหมือนยวดยาน หรือทรัพย์ที่ยืมเขามา เพราะฉะนั้น หม่อมฉันไม่ปรารถนาสิ่งที่ผู้อื่นมอบให้ บุญทั้งหลายที่หม่อมฉันทำเองย่อมเป็นทรัพย์ที่จะติดตามหม่อมฉันไป หม่อมฉันจักกลับไปสู่โลกมนุษย์ เพื่อบำเพ็ญกุศลให้มาก ด้วยการบริจาคทาน การประพฤติสมํ่าเสมอ ความสำรวม และการฝึกอินทรีย์ ซึ่งทำไว้แล้วจะได้ความสุข และไม่เดือดร้อนในภายหลัง”นี้เป็นถ้อยคำที่พระบรมโพธิสัตว์ ได้กล่าวไว้ท่ามกลางมหาเทวสมาคม ซึ่งเป็นสิ่งที่น่านำมาขบคิดมาก มนุษย์ส่วนมาก เมื่อมีใครเอาสิ่งของที่ถูกใจมาล่อหรือมาแลกกับสิ่งที่เรากำลังจะทำเพื่อประโยชน์สุขในอนาคต ก็มักลุ่มหลงไปตามสิ่งนั้น คือ เห็นประโยชน์ในปัจจุบันมากกว่าความสุข และความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในอนาคต บางครั้งเพราะเห็นแก่สุขเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เป้าหมายอันสูงส่งของชีวิตที่ได้พยายามทุ่มเททำมา ต้องพังทลายไปอย่างน่าเสียดายสิ่งของบางอย่าง เมื่อมีคนปรารถนาจะมอบให้ต้องพิจารณาให้ดีก่อนรับ บางอย่างเรารับไว้เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ แต่บางอย่างแม้เป็นสิ่งที่เขามอบให้ด้วยความจริงใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่านำความสุขมาให้แก่เราก็ตาม แต่ต้องคำนึงว่า ระหว่างการรับไว้กับไม่รับ อันไหนจะนำประโยชน์สุขมาให้แก่เรายาวนานทั้งในภพนี้ภพหน้า เราต้องไม่เห็นแก่ความสุขเฉพาะหน้า อย่าเห็นแก่สั้น ให้เห็นแก่ยาว คือ ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล ใช้สติปัญญามองการณ์ไกลข้ามภพข้ามชาติเหมือนพระบรมโพธิสัตว์ของเราสำหรับเรื่องของพระเจ้าเนมิราชผู้มีบุญญาธิการมาก ท่านได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปในโลกสวรรค์ด้วยกายเนื้อ เพราะอาศัยกำลังบุญของท่าน และกำลังแห่งเทวานุภาพของพระอินทร์ หลังจากที่ท่านสำรวจนรกขุมต่างๆ และวิมานของชาวสวรรค์จนทั่วแล้ว ครั้งนี้ มาตลีเทพบุตรซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ พาพระเจ้าเนมิราชเที่ยวชมทิพยสถาน อันน่ารื่นรมย์จนสมควรแก่เวลาแล้ว ก็นำเสด็จสู่มหาเทวสมาคมที่กำลังรอคอยพระองค์อยู่ขณะจะเข้าสู่ประตูสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระเจ้าเนมิราชทรงเห็นรูปเปรียบของพระอินทร์ ซึ่งประดิษฐานล้อมซุ้มประตูจิตตกูฏของดาวดึงส์พิภพ ประตูจิตตกูฏเป็นประตูของเทพนครมีลักษณะสวยงามมาก คือ จะมีรูปปฏิมากรรมชนิดต่างๆ มีลักษณะวิจิตรพิสดารมาก ใครที่มาเห็นประตูของภพดาวดึงส์นี้ จะเกิดความปีติบันเทิงใจ เป็นประตูที่เสด็จเข้าออกของท้าวสักกเทวราช ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสิเนรุราชเมื่อนั่งราชรถผ่านประตูเทพนครแล้ว ท่านยังทอดพระเนตรเห็นวิมานของเหล่าเทพบุตรเทพธิดาที่สวยงามสว่างไสวอีกมากมาย แต่ที่สะดุดพระเนตรของพระองค์มากที่สุด คือ เทวสภาชื่อสุธรรมา เนื่องจากรุ่งเรืองด้วยแก้วไพฑูรย์งามวิจิตร มีเสา ๘ เหลี่ยม เสาทุกต้นสำเร็จด้วยแก้วไพฑูรย์รองรับไว้ จึงได้ตรัสถามมาตลีเทพสารถีว่า “วิมานที่บุญญานุภาพตกแต่งดีแล้วนี้ ส่องแสงสว่างจากฝาแก้วไพฑูรย์ เหมือนอากาศส่องแสงเขียวสดปรากฏในสรทกาล อยากทราบว่า วิมานนี้เขาเรียกชื่อว่าอะไร” มาตลีเทพบุตรทูลอธิบายถึงความเป็นมา และความสำคัญของเทวสภาแห่งนี้ ซึ่งพวกเรา ส่วนใหญ่คงรู้กันดีแล้วว่า เป็นที่ประชุมของเหล่าทวยเทพมหาเทวสมาคมที่รอคอยพระเจ้าเนมิราช ครั้นได้ฟังว่า พระเจ้าเนมิราชเสด็จมาแล้ว ต่างคอยรับเสด็จด้วยของหอม เครื่องอบและดอกไม้ทิพย์ อยู่ที่ทางจะเสด็จมาตั้งแต่ซุ้มประตูจิตตกูฏเพื่อบูชาพระองค์ ด้วยสุคันธชาติและทิพยบุปผานานาชนิด อัญเชิญท่านเข้าสู่สุธรรมาเทวสภา และให้ประทับนั่งบนทิพยอาสน์ใกล้กับท้าวสักกะ นี่ก็น่าแปลกทีเดียว เพราะตามปกติมนุษย์จะบูชากราบไหว้เทวดา แต่นี่เทวดาต้องสักการบูชามนุษย์ นั่นเป็นเพราะว่า พระโพธิสัตว์มีบุญบารมีที่ได้สั่งสมไว้มาก ถึงพร้อมด้วยคุณ คือ ศีล สมาธิ(Meditation)และปัญญา เป็นต้นเมื่อทวยเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้เห็นพระเจ้าเนมิราชแล้ว ต่างพากันยินดีปรีดา พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมพระคุณของพระองค์ที่เคยทำหน้าที่เป็นยอดกัลยาณมิตร แนะนำไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ในมนุษยโลกให้ละเว้นจากบาปอกุศลและให้ทำความดี จนทำให้ได้มาเสวยทิพยสมบัติในเทวโลก ต่างสรรเสริญกันชนิดไม่ขาดปากทีเดียว ท้าวสักกเทวราชก็ทรงยินดีต้อนรับพระองค์ ถึงขนาดเชื้อเชิญให้เสวยทิพยสมบัติในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ร่วมกัน แต่พระเจ้าเนมิราชทรงเห็นโอกาสว่า ถ้ากลับลงไปโลกมนุษย์อีกครั้ง จะสามารถสร้างบุญให้ได้ทิพยสมบัติมากมายกว่านี้อีกหลายเท่านัก จึงตรัสว่า “สิ่งใดที่ได้มาเพราะผู้อื่นมอบให้ สิ่งนั้นเปรียบเหมือนยวดยานหรือทรัพย์ที่ยืมเขามา ฉะนั้น หม่อมฉันไม่ปรารถนาสิ่งซึ่งผู้อื่นให้ บุญทั้งหลายที่หม่อมฉันทำเองย่อมเป็นทรัพย์ที่จะติดตามหม่อมฉันไป หม่อมฉันจักกลับลงไปในโลกมนุษย์เพื่อทำกุศลให้มาก ด้วยการบริจาคทาน ประพฤติธรรมสมํ่าเสมอ มีความสำรวมและการฝึกอินทรีย์ ซึ่งทำให้ได้รับความสุข และไม่เดือดร้อนในภายหลัง”จากนั้น พระองค์ทรงแสดงธรรม ด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะแก่เหล่าเทวดาที่มาประชุมกัน ทำให้เหล่าทวยเทพยิ่งปลื้มอกปลื้มใจ พระองค์ทรงประทับอยู่บนสวรรค์ ๗ วัน ตามเวลาในโลกมนุษย์ ซึ่งเท่ากับเวลาเพียงไม่กี่นาทีบนสวรรค์ จากนั้นทรงอำลากลับสู่มนุษยโลกตามเดิมมาตลีเทพสารถีขับรถมาส่งถึงกรุงมิถิลา มหาชนเห็นทิพยยานต่างมีจิตบันเทิงว่า “พระราชาของพวกเราเสด็จกลับมาแล้ว” พากันเข้าแวดล้อมพระราชา พลางทูลถามว่า “พระองค์เสด็จไปเทวโลก ทรงพบเห็นอะไรบ้าง เทพบุตรเทพธิดาหน้าตาเป็นอย่างไร วิมานของเทวดาเหมือนบ้านเรือนของมนุษย์หรือไม่”พระเจ้าเนมิราชทรงเล่าถึงสมบัติของเหล่าเทวดา และของท้าวสักกะให้มหาชนได้ฟังกันถ้วนหน้า พร้อมกับทรงเล่าถึงนรกขุมต่างๆ ที่ไปเห็นมา จากนั้นได้ตรัสเตือนเหล่าพสกนิกรของพระองค์ให้ตั้งใจทำบุญให้ทาน รักษาศีลกันเป็นประจำเนืองนิตย์ ทำให้ชีวิตหลังความตายของมหาชนในยุคสมัยนั้น พากันไปบังเกิดในเทวโลกเป็นจำนวนมาก ส่วนพระเจ้าเนมิราชเอง หลังจากที่ทรงปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรมแล้ว ทันทีที่ทรงพบพระเกษาหงอก พระองค์รีบเสด็จออกผนวชเพื่อบำเพ็ญจิตตภาวนาตามลำพัง ทรงเจริญเมตตาพรหมวิหารจนตลอดอายุขัยและได้ไปบังเกิดในพรหมโลกข้อคิดสำหรับเรื่องนี้มีอยู่ว่า การประกอบเหตุบนโลกมนุษย์นี้ จะส่งผลไปถึงบนสวรรค์ โลกสวรรค์เป็นที่พักระหว่างทางในสังสารวัฏ หากบุคคลใดตั้งใจสั่งสมบุญเป็นนิตย์ ย่อมสามารถได้ทิพยสมบัติมาครอบครองทั้งนั้น โดยอาศัยโลกมนุษย์นี้เป็นที่ประกอบเหตุทำความดี เพราะฉะนั้น ให้พวกเราทั้งหลายสั่งสมบุญไว้มากๆ ชีวิตหลังความตายไม่มีการสูญ ตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลส เราก็ต้องเวียนวนอยู่ในภพ ๓ ใน ๓๑ ภูมินี้ โดยเฉพาะท่านที่เป็นนักสร้างบารมี จะต้องสร้างบารมีเพื่อให้ได้สวรรค์สมบัติและมนุษย์สมบัติอันเลิศ สร้างกันไปจนกว่าจะได้นิพพานสมบัติซึ่งเป็นเป้าหมายอันสูงสุดของตัวเรา และมวลมนุษยชาติทั้งหลาย ใครอยากได้เช่นนี้ก็ให้หมั่นสั่งสมบุญให้เต็มที่ อย่าได้ประมาท ให้ใช้เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดบนโลกนี้ สร้างบารมีให้เต็มที่กันทุกคน
http://goo.gl/78Etg