ทศชาติชาดก เรื่อง พระมหาชนก ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี ตอนที่ 2

ผู้ที่เป็นใหญ่คุมกำลังอำนาจ พึงสังวรให้ดีว่า หากไม่ฝึกกองกำลังนั้นให้มีศีลธรรมตั้งมั่นอยู่ในใจ ไม่ฝึกให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย ในไม่ช้ากองกำลังของตนนั้นก็จะทำให้ตนเดือดร้อนจนได้ เหมือนที่พระโปลชนกทรงประสบอยู่ในขณะนี้ https://dmc.tv/a415

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทศชาติชาดก > พระมหาชนก
[ 23 ก.ย. 2549 ] - [ ผู้อ่าน : 18270 ]
 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  มหาชนก   ผู้ยิ่งด้วยวิริยบารมี  ตอนที่ 2
 

    จากตอนที่ 1 ได้เกริ่นก่อนเข้าสู่เรื่องว่า ความเพียรเป็นอุปนิสัยที่ฝั่งแน่นอยู่ในจิตใจของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เพราะความเพียรเท่านั้น ที่จะสามารถเอาชนะความเกียจคร้านอันเป็นกิเลสที่ฝังลึกอยู่ในใจได้ ดังนั้น หากชีวิตยังไม่สิ้น ก็ต้องเพียรต่อไปจนกว่าจะสำเร็จ

    เพราะโดยปกติแล้ว ใจของคนนั้นจะคุ้นกับกิเลสเหมือนกับปลาคุ้นน้ำ เมื่อจะต้องพรากจากนิสัยที่ไม่ดีจึงต้องอาศัยความกล้าหาญ เพราะใจจะดิ้นรนย้อนกลับไปทำในสิ่งที่คุ้นเคยนั้นอีก ทั้งยังต่อต้านกับสิ่งที่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้นในใจ

    ดังนั้นผู้ที่มีความเพียร จึงต้องอาศัยความกล้า คือ กล้าที่จะตัดใจเลิกทำในสิ่งที่ไม่ดี ส่วนนิสัยอะไรที่ดีๆ ที่เรายังไม่มี ต้องเริ่มฝึกฝนทำให้มีขึ้น นิสัยที่ดีซึ่งมีอยู่แล้วก็ทำให้ยิ่งๆขึ้นไป ถ้าทำได้อย่างนี้เรื่อยไป บารมีจะค่อยๆ ก่อตัวเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น แล้วความนิ่งของใจก็จะเพิ่มขึ้น อย่างนี้เรียกว่าวิริยบารมีเริ่มเกิดขึ้นแล้ว

    การเพิ่มพูนความเพียร แบบเอาชีวิตเป็นเดิมพันนี้  มีอุปมาดั่งพญาราชสีห์เป็นผู้มีความเพียรไม่ย่อหย่อนในอิริยาบถทั้งปวง ฉันใด พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ก็ย่อมเป็นผู้ไม่ย่อหย่อนในการทำความดีทั้งปวง เป็นผู้เพิ่มพูนความเพียร มีความกล้าหาญที่จะประกอบกุศลกรรม ทำความดีทุกชนิดอย่างไม่ลดละ ฉันนั้น

    และได้เล่ามาถึงตอนที่ มีพระภิกษุหมู่ใหญ่ได้สนทนากันในโรงธรรมสภา   และได้กราบทูลอาราธนาให้พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องราวในอดีตว่า  “ในกาลก่อนที่พระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีอยู่นั้น  ได้ทรงสละราชสมบัติเสด็จออกผนวชด้วยความเพียรอันยิ่งใหญ่  มีเรื่องราวเป็นอย่างไร  ขอพระองค์โปรดทรงแสดงให้แจ่มแจ้งด้วยเถิด” 

    พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้เริ่มตรัสเล่า โดยมีเรื่องราวดังต่อไปนี้ ในอดีตกาล  มีพระราชาพระนามว่า  มหาชนก  ครองราชย์ในกรุงมิถิลา  แคว้นวิเทหะ  พระเจ้ามหาชนกราช ทรงมีพระราชโอรส  2  พระองค์  คือ  พระอริฏฐชนก (อะ ริด ถะ ชะ นก) และพระโปลชนก  (โป ละ ชะ นก)พระราชาได้พระราชทานตำแหน่งอุปราชแก่พระโอรสองค์พี่ คือ พระอริฏฐชนก  ส่วนองค์น้องนั้นทรงโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดี

    ต่อมาเมื่อพระมหาชนกสวรรคต  พระอริฏฐชนกได้ครองราชสมบัติ  ก็ได้ทรงแต่งตั้งพระโปลชนก ให้เป็นอุปราช  ทั้งสองพี่น้องทรงช่วยกันปกครองกิจการบ้านเมืองให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขเรื่อยมา  ทำให้มีแสนยานุภาพแผ่ขยายออกไปทั่วชมพูทวีป

    ต่อมาไม่นานได้เกิดเหตุการณ์  ที่นำไปสู่ความแตกร้าวกัน  ชนิดหมดเยื่อใยในความเป็นพี่เป็นน้อง  เนื่องจากมีอำมาตย์ผู้ใกล้ชิดของพระราชาคนหนึ่ง  มีอัธยาศัยชอบพูดยุยงให้คนอื่นแตกกัน  ได้ไปเฝ้าพระราชา กราบทูลยุแหย่ว่า  “พระมหาอุปราชคิดจะปลงพระชนม์พระองค์เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์ 

    เมื่อพระอริฏฐชนกราช  ทรงสดับครั้งแรกก็ไม่ปักใจเชื่อ เพราะไม่เคยเห็นพิรุธหรือความผิดปกติของพระอนุชาเลย  แต่ด้วยวิสัยของผู้ปกครองแผ่นดินจึงรับฟังไว้เฉยๆ แต่เมื่อทรงสดับบ่อยเข้า ๆ  ก็บังเกิดความหวั่นไหวขึ้น  จึงรับสั่งให้ทหารไปจับพระอนุชา คือ พระโปลชนกมหาอุปราช  แล้วให้ตีตรวน  จากนั้นก็ให้ขังไว้ในคฤหาสน์หลังหนึ่งใกล้พระราชนิเวศน์  มีผู้คุมรักษาเพื่อรอคอยสำเร็จโทษ

    พระโปลชนกผู้ไม่มีความผิด เมื่อถูกมัดมือมัดเท้าอย่างแน่นหนา ก็ทรงรู้ได้ทันทีว่า  ภัยนี้เกิดจากพระเจ้าพี่เป็นคนหูเบา  ถ้าไม่หาทางหลบหนี  เห็นทีจะต้องตายเป็นแน่ จึงทรงตั้งสัตยาธิษฐานว่า  "ตั้งแต่เราเกิดมาไม่เคยคิดเป็นอริราชศัตรูต่อเจ้าพี่เลย  เรามีความรักและปรารถนาดี  ตั้งใจบริหารกิจการบ้านเมือง  ช่วยเหลือเจ้าพี่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ  ไม่เคยคิดที่จะแย่งชิงราชสมบัติเลย  ด้วยสัจจะวาจานี้  ขอให้เครื่องจองจำจงหลุดจากมือและเท้าโดยพลัน  แม้ประตูก็จงเปิดออก"

    ด้วยความที่พระโปลชนกมีความบริสุทธิ์ใจ  เทวดาที่คอยตามดูแลรักษาพระองค์  จึงบันดาลให้เครื่องจองจำแตกหักเป็นท่อนๆ  แล้วก็ได้เปิดประตูให้ในทันใด

    เมื่อได้โอกาสพระโปลชนกก็เสด็จควบม้าหนีออกไปนอกเมืองด้วยความเร็ว    ได้ทรงหนีไปพำนักอยู่ในตำบลบ้านชายพระราชอาณาเขตแห่งหนึ่ง  ชาวบ้านตำบลนั้นจำพระองค์ได้ก็บำรุงพระองค์อย่างดี  และได้ชักชวนกันมาสวามิภักดิ์มากมาย 

    ส่วนพระเจ้าอริฏฐชนกทรงเห็นว่า พระอนุชาทรงหนีไปเพียงพระองค์เดียว คงไม่มีพิษภัยใหญ่หลวงอะไรนักหนา จึงมิได้ทรงให้เหล่าทหารไล่ล่าให้สิ้นซาก ได้ทรงปล่อยให้พระโปลชนกประทับอยู่อย่างสบายในตำบลบ้านชายแดนนั้น

    เมื่อพระโปลชนกทรงอยู่ในตำบลบ้านแห่งนั้นนานเข้า ก็มีผู้คนมาขอเข้าร่วมเป็นพวกพ้องบริวารมากขึ้น พระองค์ก็ทรงจัดการปกครองเป็นอย่างดี ทำให้ตำบลบ้านแห่งนั้นค่อยๆ เจริญขึ้นมาตามลำดับ  ส่วนผู้ปกครองตำบล และหัวหน้าหมู่บ้านทั้งหลายที่เข้ามาสวามิภักตร์ด้วย ครั้นภายหลังได้ทราบว่า ที่พระโปลชนกต้องลำบากรอนแรมหนีออกจากพระนครมาอาศัยอยู่บ้านปลายแดน ก็เพราะพระองค์ถูกพระราชาผู้เป็นพี่จับด้วยข้อหาว่า เป็นผู้ก่อการกบฏคิดแย่งชิงราชบัลลังก์ ทั้งที่พระองค์ไม่ทรงเคยคิดอย่างนั้นเลย

    จึงต่างก็เป็นเดือดเป็นแค้นแทนพระโปลชนก จึงแอบรวบรวมกำลังพลอยู่เงียบๆ โดยที่ไม่ให้พระโปลชนกทรงทราบ ค่อยๆ ฝึกปรือฝีมือพวกชาวบ้านปลายแดนให้ขึ้นมาเป็นทหารอย่างเป็นระบบ   ปลุกใจชาวบ้าน  ฝึกให้เป็นนักรบ

    พระโปลชนกทรงเห็นผิดสังเกตว่า ทำไมจึงมีกำลังคนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งมีการฝึกอาวุธกันอย่างจริงจัง ก็ทรงถามว่า “พวกท่านจะฝึกคนเอาไว้ทำไมมากมาย”

    พวกหัวหน้ากำลังพลทั้งหลายก็ตอบว่า “ทหารส่วนหนึ่งมีเอาไว้เป็นกองทหารรักษาพระองค์ อีกส่วนก็เป็นกองกำลังป้องกันหมู่บ้านและตำบล เพื่อไม่ให้พวกโจรทั้งหลายเข้าปล้นได้โดยง่าย ขอพระองค์อย่าทรงสงสัยเลย”

    เมื่อกองทหารมีจำนวนมากขึ้น และได้ฝึกอาวุธมากเข้าก็เกิดอาการฮึกเหิม  ได้มีทหารจำนวนหนึ่งบุกเข้าปล้นกองทหารรักษาชายแดนของพระราชาในเวลากลางคืน ทั้งได้ฆ่ากองทหารของพระราชาตายไปเป็นจำนวนมาก

    ส่วนทหารของพระราชาที่เหลือก็รีบเข้าแจ้งต่อพระเจ้าอริฏฐชนกให้ทรงทราบว่า บัดนี้ได้มีกองกำลังกบฏจำนวนมากเกิดขึ้นที่ชายแดนนำโดยพระอนุชาคือพระโปลชนก ได้ฆ่าทหารที่ด่านนอกพระนครตายไปเป็นจำนวนมาก ขอให้พระองค์ส่งกำลังไปปราบโดยเร็วเถิด

    ส่วนพวกหัวหน้ากองทหารของพระโปลชนกนั้นเล่า ครั้นรุ่งเช้าได้ทราบว่ากองกำลังของตนได้ก่อเรื่องเข้าแล้ว และก็ได้มีทหารส่วนหนึ่งรอดตายหนีเข้าเมืองไป จึงคิดว่า ในวันนี้ตอนสาย อย่างไรเสียเรื่องทั้งหมดก็คงทราบถึงพระราชาอย่างแน่นอน

    ดังนั้น พวกหัวหน้ากองทหารทั้งหลาย จึงรีบเข้าทูลแจ้งเรื่องทั้งหมดแด่พระโปลชนกให้ทรงทราบ และกราบทูลว่า “ขอพระองค์ทรงตัดสินพระทัยโดยเร็วเถิด อีกอย่างช้าไม่ถึง 7 วัน กองทหารของพระราชาก็จะต้องยกกำลังมาปราบพวกเราอย่างแน่นอน การชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ บัดนี้กองทหารของเราก็พร้อมรบ ขอเพียงทรงสั่งการเท่านั้นทุกอย่างก็จะไปได้สวย ขอพระองค์จงทรงบัญชาการรบเองเถิด”

    การคบคนเช่นไร ย่อมเป็นคนเช่นนั้น พระโปลชนกซึ่งแต่เดิมก็ไม่ได้คิดชั่วเลย ทรงหวังจะอยู่อย่างสงบ แต่เมื่อทรงคบกับพาล ด้วยบารมีของพระองค์จึงมีกำลังมาเสริมมากขึ้นเรื่อยๆ     เมื่อกองกำลังเหล่านั้นไปก่อเรื่องร้ายๆ เข้า ก็เดือดร้อนถึงพระองค์เอง

ดังนั้น ผู้ที่เป็นใหญ่คุมกำลังอำนาจพึงสังวรให้ดีว่า หากไม่ฝึกกองกำลังนั้นให้มีศีลธรรมตั้งมั่นอยู่ในใจ ไม่ฝึกให้เป็นคนที่มีระเบียบวินัย  ในไม่ช้ากองกำลังของตนนั้นก็จะทำให้ตนเดือดร้อนจนได้ เหมือนที่พระโปลชนกทรงประสบอยู่ในขณะนี้

    พระโปลชนกเมื่อทรงได้รับรายงานดังนั้น ก็ทรงประมวลเหตุการณ์ทั้งหมด แล้วดำริว่า “มีทางให้เลือกอยู่สองทาง ทางหนึ่งคือหนี แต่ถ้าเราหนีไปก็คงไม่รอด เพราะพระเชษฐาได้ปล่อยให้เราอยู่อย่างสบายมาครั้งหนึ่งแล้ว คนของเรายังก่อความเดือดร้อนขึ้นอีก คราวนี้พระองค์คงไม่ปล่อยเราไว้เป็นแน่ แต่ถ้าเราสู้ โดยรีบยกกำลังเข้าล้อมพระนครไว้ก่อนก็มีสิทธิ์ชนะ ได้ขึ้นครองราชย์ เพราะกองทหารของพระเชษฐานั้นเรารู้กำลังดี เชิงยุทธทุกกระบวนรบเราก็เข้าใจทั้งหมด เพราะได้เคยบัญชาการกองทัพมาก่อน” เมื่อดำริดังนี้ พระโปลชนกจะตัดสินพระทัยอย่างไร จะทรงเสี่ยงหนีตาย หรือจะรบเพื่อชิงราชบัลลังก์ โปรดติดตามตอนต่อไป

โดย : หลวงพ่อธัมมชโย (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

http://goo.gl/xqyv0


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย
      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 198
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 197
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 192




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related