Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2553 ช่วงที่ 2.1เกาะติดสถานการณ์ชวนบวชพระแสนรูปรุ่นเข้าพรรษาตอน ต้องถึงตัวถึงใจ...จึงจะถึงเป้าเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับผมชื่อ สมชาย ส่วนภรรยาของผมชื่อ อิสรี ทรัพย์บำรุงสกุล เป็นผู้นำบุญชวนบวชในเขตภาษีเจริญของศูนย์อบรมวัดเพลง สังกัดภาค 7_ครับ เราทั้งสองชอบชวนบวชมาก แต่หลวงพ่อครับ ผมว่า...คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย แต่หลายคนชวนบวชแสนสบาย...สบาย ดังนั้น พวกผมจึงชวนบวชกันเป็นทีมครับ ผม...สมชาย และภรรยา ขอชวนบวชเต็มที่ครับทีมของเรามีกันสิบคน พวกเราตะลุยชวนบวชกันบริเวณป้ายรถเมล์ ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ท่าพระ เพราะบริเวณนั้นมีผู้คนพลุกพล่านขวักไขว่สุดๆ อัดแน่นไปด้วยแผงขายของริมถนน อีกทั้งยังเป็นที่ต่อรถโดยสารที่มาจากทั่วสารทิศ ทำให้มีผู้คนหลั่งไหลถ่ายเทจำนวนมหาศาล ด้วยเหตุนี้ ทีมงานทุกคนจึงฉวยโอกาสเข้าจู่โจมชวนบวชกันที่นี่ โดยตั้งหน้าตั้งตาแจกแผ่นพับ แถมพูดเป็นน้ำไหลไฟดับ กระจายข่าวการบวชกันแบบไม่ยั้ง ซึ่งขณะที่พวกเรากำลังแจกแผ่นพับอยู่นั้น ก็มีหญิงท้องคนหนึ่งเดินผ่านไป แล้วอยู่ๆเธอก็ย้อนกลับมา แล้วพูดว่า “ขอใบหนึ่ง”
ทีมงานของเรา ชวนบวชกันทุกวันถึง 4 ทุ่มครับเราก็ให้โบร์ชัวร์ไปแบบไม่สนใจอะไร เพราะเราคิดกันว่าเธอไม่ใช่ผู้ชาย แถมยังตั้งท้องอีกด้วย แต่วันนั้นเอง ประมาณสองทุ่ม เธอก็โทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียดเรื่องการบวช เพราะอยากไปชวนสามีบวช จึงเป็นเหตุให้ผมต้องโทรศัพท์ไปเคลียร์ และเชียร์เธอถึงห้าครั้ง ดังนั้น ผมจึงต้องปฏิบัติการขั้นต่อไป ซึ่งเรียกว่า ขั้น Advance_โดยบอกเธอว่า “พี่ขอคุยกับสามีน้องหน่อย”_พอได้คุย ผมจึงถามเขาว่า “ติดขัดอะไรครับ”_เขาบอกว่า ภรรยากำลังท้อง ผมก็เลยบอกว่า “ท้องสิดี เพราะนอกจากจะบวชให้พ่อแม่ และภรรยาแล้ว ยังบวชให้ลูกได้ด้วย” แต่เขาก็ยังยึกยักอยู่ดีครับผมจึงคิดในใจว่า หากคุยกันแบบไม่เจอตัว ไม่เจอหน้าอย่างนี้ คุยให้ตายอย่างไรก็ไม่บวช ผมจึงต้องลงมือปฏิบัติการขั้นสุดท้าย ที่เรียกว่า ขั้น Super-Advance_คือ มันต้องถึงตัว จึงจะถึงใจ ไม่อย่างนั้น...มันไปไม่ถึงเป้าหรอกครับ จากนั้น ผมก็ไม่รอช้า นัดเขาเพื่อเจอกัน พอผมเจอเขา ก็ลุยเลยครับ เคลียร์ทุกประเด็นจนเขาเข้าใจ และก็บอกเขาว่าไม่ต้องห่วงอะไรให้ภรรยาของเขาอยู่กับแม่ก่อน จนสุดท้ายเขาตัดสินใจบวชในที่สุดครับ 
ตะลุยชวนกันทุกวัน มันสุดๆไปเลยครับอีกรายหนึ่ง ลงชื่อไว้ว่าสนใจบวช แต่ไม่รู้สนใจอย่างไรไม่ยอมสมัครสักที เขาอายุ 60-กว่าปี ภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว มีลูกชายสองคน คนโตอายุ 30-กว่าปี ยังไม่ได้ทำงาน ซึ่งผมก็ใช้ลูกตื้ออีกครับ โทรศัพท์ไปหาเขาถี่มาก เพราะอยากให้เขาชวนลูกชายบวชให้ได้ แต่เขาก็ชวนไม่สำเร็จสักทีครับ เพราะพ่อพูดคำหนึ่ง ลูกชายก็สวนกลับมาเป็นสิบ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงต้องปฏิบัติการขั้น Advance_อีกแล้วครับ คือ ขอสายลูกชายเขา แล้วนัดเจอกัน โดยใช้สูตรที่หลวงพ่อให้ไว้ คือ ต้องถึงตัว จึงจะถึงใจ แล้วจะถึงเป้า และพอเจอกันจริงๆ ผมก็ลุยเหมือนเดิมครับ แต่เขาก็บอกว่า “ผมยังไม่พร้อม...ผมจะบวชปีหน้า”
ทีมงานของเราช่วยกันติดป้ายชวนบวช อย่างขยันขันแข็งผมก็เลยตอบกลับไปว่า “ถ้าจะบวชปีหน้า ไม่รู้พ่อน้องจะอยู่ถึงหรือเปล่า เพราะพ่ออายุมากแล้ว สุขภาพก็ไม่ค่อยดี แม่น้องตายแล้วไม่ใช่หรือ แล้วแม่อยู่ภพภูมิไหนก็ไม่รู้ ทำไมลูกในไส้ แถมเป็นชายแท้ๆอย่างน้อง ไม่ส่งบุญบวชนี้ให้แม่ล่ะ”_ผมคุยทำนองนี้ไปเรื่อยๆ ไปๆมาๆเขาร้องไห้เลยครับ เพราะซาบซึ้ง จนสุดท้ายเขาก็ตอบผมว่า “ผมจะบวชครับ”
ป้ายเดียวไม่พอ ต้องติดกันหลายๆป้ายครับ
ว่าที่ธรรมทายาทวัดเพลงครับนี่คือเรื่องย่อของการทำหน้าที่ของทีมงานเราครับ ซึ่งผมขอยืนยันความสำเร็จด้วยคำว่า ต้องถึงตัว ถึงใจ จึงจะถึงเป้า ขอยืนยันครับ ตอนนี้ยอดผู้สมัครบวชของวัดเพลง ไปถึง 30 กว่าคนแล้วครับกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงสมชาย ทรัพย์บำรุงสกุล****************มาเกาะติดสถานการณ์ การทำหน้าที่ของจังหวัดมหาสารคามกันบ้าง จังหวัดนี้ เจ้าคณะและรองเจ้าคณะจังหวัด ท่านได้เมตตาให้การสนับสนุนโครงการอย่างดียิ่ง โดยจัดให้มีการรวมตัวกันครั้งยิ่งใหญ่ ประชุมคณะสงฆ์ทั้งจังหวัดกว่า 200-รูป ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์บอกชาวบ้านให้มาบวชกันมากๆ และยังแจ้งนโยบายให้ผู้นำหมู่บ้านรับเป้าชวนคนมาบวชให้ได้ หมู่บ้านละห้าคน ซึ่งมีทั้งหมด 40-หมู่บ้าน อีกทั้งพระมหาประเสริฐพร เจ้าอาวาสวัดปัจจิมทัสน์ ท่านยังได้ชี้ให้เห็นถึงภัยศาสนาอันน่ากลัว แต่ท่านบอกว่าไม่ต้องกลัว เพราะโครงการบวชพระแสนรูปเข้าพรรษาช่วยได้ แต่ต้องช่วยกันชวนคนบวชแบบไม่ยั้งมือ ผู้นำบุญ แก้วทิศ แก้วใส บอกว่าคึกมากกับการชวนบวช แต่จะชวนได้สำเร็จ มันต้องใช้นโยบายของคุณครูไม่ใหญ่ คือ ถึงตัว ถึงใจ จึงจะถึงเป้า เพราะได้ลองกับตัวเองมาแล้ว คือ จากคนที่ไม่น่าจะบวช ยังสมัครบวชได้ อย่างนักดื่มสุราตัวยง คุณทะนง เขาถูกภรรยาทิ้ง วันๆดื่มแต่เหล้า ซึ่งดูๆแล้วไม่มีทีท่าว่าจะบวชเลย แต่พอลองบุกไปหาเขาถึงบ้าน เอาสมุดภาพ แผ่นพับ และก็เปิดซีดีให้เขาดูที่บ้าน จนสุดท้ายเขาก็ค่อยๆเข้าใจ แต่ก็ยังไม่กล้าตัดสินใจสมัคร แต่พอพี่สาวแท้ๆของเขากลับมาถึงบ้านพอดี เราก็ให้เธอดูซีดี และพูดให้พี่สาวของเขาเข้าใจอีกคน จนสุดท้าย พี่สาวของเขากลายมาเป็นกำลังเสริมให้เรา สนับสนุนให้น้องชายบวช จนท้ายที่สุด ก็ยอมบวชจริงๆ ตอนนี้ยอดคนสมัครบวชของจังหวัดมหาสารคาม ได้ไปเกือบ 60 คนแล้ว ****************
http://goo.gl/dAGZS
พิมพ์บทความนี้
