ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2554ขุนนางโฉดผู้โหดร้ายปรโลกนิวส์...ขุนนางโฉดผู้โหดร้ายตอนต่อจาก ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ ความเดิมจากตอนที่แล้ว... ในระหว่างที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี ก็ได้มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นภายในเขตหัวเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ซึ่งเขตหัวเมืองแห่งนี้ได้ถูกปกครองโดยขุนนางโฉดผู้หนึ่ง ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้ปกครองเขตแทนขุนนางชั้นผู้ใหญ่คนเดิมที่เพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นาน เพราะภายหลังจากที่ขุนนางโฉดผู้นี้ได้เข้ามาปกครองเขตหัวเมืองแห่งนี้แล้ว ขุนนางโฉดผู้นี้ก็พยายามคิดหาวิธีการที่จะเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองมากๆ ด้วยการเรียกเก็บภาษีจากพวกชาวบ้านเพิ่มมากขึ้นและถี่ขึ้น จนทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตหัวเมืองแห่งนี้ ต่างได้รับความเดือดร้อนไปตามๆกัน แต่ถึงกระนั้น ทุกคนต่างก็ต้องจำทนกับการถูกเอารัดเอาเปรียบจากขุนนางโฉดผู้นี้เรื่อยมาขุนนางโฉดเรียกเก็บภาษีจากพวกชาวบ้านเพิ่มมากขึ้นและถี่ขึ้นจนกระทั่งในเวลาต่อมา แคว้นที่สามีของลูกในภพชาตินั้นอาศัยอยู่ ก็ได้เกิดความขัดแย้งกับแคว้นเพื่อนบ้านที่อยู่ทางฝั่งทิศใต้ จนทำให้มีศึกสงครามระหว่างแคว้นทั้งสองเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ผู้ปกครองเขตในแต่ละเขต โดยเฉพาะเขตหัวเมืองที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทิศเหนือของแคว้น ต้องเรียกเก็บภาษีจากพวกชาวบ้านเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะได้นำเงินส่วนนี้ไปเป็นกองเสบียงให้กับพวกทหารหาญที่กำลังออกรบในเวลาต่อมาได้มีสงครามระหว่างแคว้นเกิดขึ้นเมื่อพวกชาวบ้านถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มมากขึ้น กอปรกับในช่วงนั้น สภาพอากาศก็แห้งแล้ง ผลผลิตทางการเกษตรก็มีน้อย จึงเป็นเหตุทำให้ประชาชนภายในแคว้นที่สามีของลูกอาศัยอยู่ ต่างได้รับความเดือนร้อนและอดอยากกันไปทั่วทั้งแคว้นชาวบ้านต่างได้รับความเดือนร้อนและอดอยากไปทั่วทั้งแคว้นแต่ในบรรดาเขตหัวเมืองทั้งหมด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตหัวเมืองที่มีขุนนางโฉดดูแลอยู่ ดูจะได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด เพราะไม่ว่าพวกชาวบ้านจะอดอยากหรือได้รับความเดือดร้อนมากมายขนาดไหน ขุนนางโฉดผู้นี้ก็ยังไม่เลิกทุจริตคอรัปชั่น (Corruption) แถมยังฉวยโอกาสนี้เรียกเก็บภาษีเพิ่มมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วยขุนนางโฉดฉวยโอกาสเรียกเก็บภาษีจากชาวบ้านมากขึ้นถ้าหากชาวบ้านคนใดไม่ยอมจ่ายภาษี หรือจ่ายไม่ครบตามเป้าที่ขุนนางโฉดได้ตั้งเอาไว้ ชาวบ้านคนนั้นก็จะถูกยึดพืชผลทางการเกษตรที่เก็บเอาไว้สำหรับกินกันภายในครอบครัวไปจนหมด หรือถ้าหากชาวบ้านคนใดมีท่าทีขัดขืน ชาวบ้านคนนั้นก็จะถูกซ้อมและถูกยึดที่นาจนไม่เหลือที่ทำมาหากินชาวบ้านที่ไม่ยอมจ่ายภาษีหรือจ่ายไม่ครบจะถูกยึดพืชผล หรือถูกยึดที่ทำกินเมื่อพวกชาวบ้านจากหลายๆหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ในเขตหัวเมืองที่ขุนนางโฉดดูแลอยู่ ต่างถูกเอารัดเอาเปรียบและกดขี่ข่มเหงมากเข้า...มากเข้า จึงทำให้พวกชาวบ้านจากหลายๆหมู่บ้าน ต่างก็ได้มารวมตัวกัน แล้วพากันเดินขบวนเพื่อเรียกร้องให้ขุนนางโฉดหยุดรีดไถภาษีมหาโหดจากพวกตน และให้นำที่นาและผลผลิตทางการเกษตรที่ถูกยึดไป มาคืนให้กับพวกตนด้วยชาวบ้านได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมครั้นขุนนางโฉดได้เห็นพวกชาวบ้านได้มารวมตัวกัน เพื่อประท้วงการกระทำของตนเองแล้ว ขุนนางโฉดผู้นี้จึงได้สั่งให้พวกทหารเข้าไปกวาดล้างด้วยการใช้กำลังทุบตีทำร้ายกลุ่มชาวบ้านที่มาประท้วง เมื่อพวกชาวบ้านถูกพวกทหารเข้ามาทำร้ายทุบตี แต่ละคนจึงต่างพากันหนีและถอยกลับไปรวมตัวอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งขุนนางโฉดสั่งให้ทหารกวาดล้างชาวบ้านที่มาประท้วงแม้ในวันนั้น พวกชาวบ้านที่มาประท้วงจะถูกพวกทหารของขุนนางโฉดใช้กำลังเข้ากวาดต้อน จนต้องถอยหนีกันไปแบบไม่เป็นท่า แต่ก็ใช่ว่าพวกชาวบ้านเหล่านั้นจะยอมแพ้หรือเกรงกลัวในอำนาจของขุนนางโฉดแต่อย่างใด เพราะหลังจากที่รวมตัวกันในวันนั้น พวกชาวบ้านต่างก็ยิ่งทวีความโกรธแค้น และอยากลุกขึ้นมาต่อสู้กับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ดังนั้น พวกชาวบ้านจึงตกลงร่วมกันว่า “เราจะปฏิวัติเพื่อปลดแอกจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และนับจากนี้ไป พวกเราจะไม่ยอมจ่ายภาษีมหาโหด และยอมตกอยู่ภายใต้การปกครองของขุนนางโฉดผู้นี้อีกต่อไป”ชาวบ้านต่างทวีความโกรธแค้นและรวมตัวกันต่อต้านขุนนางโฉดในเวลาต่อมา ได้มีพวกชาวบ้านจากหลายๆหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ในเขตหัวเมืองที่ขุนนางโฉดดูแลอยู่ ต่างก็ได้พากันมารวมตัวที่หมู่บ้านแห่งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกองกำลังของพวกชาวบ้านเริ่มมีจำนวนมากขึ้น พวกชาวบ้านจึงช่วยกันปรับเปลี่ยนสภาพของหมู่บ้านแห่งนี้ ให้กลายเป็นป้อมค่ายที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อจะได้เอาไว้ใช้ป้องกันการโจมตีจากกองกำลังทหารของขุนนางโฉดชาวบ้านช่วยกันปรับเปลี่ยนสภาพของหมู่บ้านให้กลายเป็นป้อมค่ายเมื่อทางฝ่ายขุนนางโฉดเห็นว่า สถานการณ์ชักไม่ค่อยดี เพราะพวกชาวบ้านได้มารวมตัวกันเป็นจำนวนมากกว่าเมื่อก่อน ขุนนางโฉดจึงรีบเขียนจดหมายร้องเรียน เพื่อขอความช่วยเหลือจากส่วนกลาง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จและหาความจริงไม่ได้เลยว่า “ในขณะนี้ พวกชาวบ้านได้คิดก่อการกบฏ และได้ซ่องสุมอาวุธและกองกำลังเอาไว้เป็นจำนวนมาก เกรงว่าถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้ ในอนาคตพวกชาวบ้านกลุ่มนี้อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรได้ ดังนั้น ขอให้ทางเมืองหลวงได้ยกกองทัพเข้ามาปราบปรามพวกชาวบ้านกลุ่มนี้โดยเร็วที่สุด”ขุนนางโฉดทำหนังสือขอกองกำลังจากส่วนกลาง เพื่อมาปราบปรามชาวบ้านครั้นจดหมายของขุนนางโฉดได้ถูกส่งไปถึงมือของพระราชาผู้หูเบาแล้ว ด้วยความที่พระราชาทรงเห็นขุนนางโฉดผู้นี้เป็นประดุจพระญาติแท้ๆของพระองค์ กอปรกับในขณะนั้น พระองค์ทรงมีพวกขุนนางที่ประจบสอพลอคอยแวดล้อม และชอบพูดให้ท้ายพระองค์อยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เอง พระราชาผู้หูเบาจึงทรงหลงเชื่อเรื่องราวที่อยู่ในจดหมายฉบับนั้นอย่างสนิทพระทัย โดยที่พระองค์ไม่ทรงเอะใจเลยแม้แต่น้อยว่า พระองค์ควรจะหาข้อเท็จจริงจากเรื่องราวดังกล่าวเสียก่อนพระราชาหลงเชื่อคำโกหกของขุนนางโฉดว่า ชาวบ้านก่อการกบฏเมื่อเป็นเช่นนี้ พระราชาผู้หูเบาจึงทรงรับสั่งให้จัดการกับพวกกบฏอย่างเด็ดขาด โดยรับสั่งให้กองทัพใหญ่ที่ดูแลหัวเมืองฝ่ายเหนือ รีบรุดจัดทัพเดินทางไปจัดการกับพวกกบฏในทันที ซึ่งสามีของลูกในภพชาตินั้น ก็เป็นหนึ่งในนายกองที่นำกองกำลังทหารของตนไปร่วมปราบกบฏ หรือพวกชาวบ้าน ร่วมกับกองทัพใหญ่ในครั้งนี้ด้วยพระราชารับสั่งให้ระดมกองทหารไปปราบปรามพวกชาวบ้านครั้นกองทัพของทหารฝ่ายเหนือเดินทางไปถึงเขตหัวเมืองของขุนนางโฉดผู้นี้แล้ว ขุนนางโฉดก็รีบให้ข้อมูลเชิงลบและใส่ร้ายพวกชาวบ้านเหล่านั้นในทันทีว่า “พวกชาวบ้านกลุ่มนี้เป็นพวกกบฏที่แข็งข้อ และกระด้างกระเดื่องต่อบ้านเมือง ซึ่งในตอนนี้ พวกชาวบ้านหรือพวกกบฏได้มีการซ่องสุมกำลังคนไว้เป็นจำนวนมาก ต่อไปภายหน้าพวกกบฏเหล่านี้อาจจะเป็นอันตรายต่อราชอาณาจักรอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นให้รีบจัดการโดยด่วน เพื่อจะได้ตัดไฟเสียแต่ต้นลม”ขุนนางโฉดใส่ร้ายชาวบ้านเพื่อเร่งให้กองทหารเข้าปราบปรามโปรดติดตามตอนต่อไป...เหตุการณ์สังหารหมู่สุดหฤโหด
รับชมคลิปวิดีโอขุนนางโฉดผู้โหดร้าย    
http://goo.gl/kG3QS