ปรโลกนิวส์ ตอน คุณแม่ประชิดละโลกแล้วไปไหน ตอนที่ 3
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปราหลังจากที่เจ้าขาวได้เสียชีวิตลงไปแล้ว ในเวลาต่อมา ก็ได้มีพระภิกษุในพระพุทธศาสนา และทีมงานเหล่ากัลยาณมิตรของหมู่คณะในยุคนั้น(ในหลายๆ พุทธันดรก่อนๆ โน้น ซึ่งไม่ใช่ในภัทรกัปนี้) เข้ามาบุกเบิกสร้างวัดสาขาอยู่ในเมืองที่คุณแม่ของตัวลูก(ในภพชาตินั้น) อาศัยอยู่ ซึ่งกลุ่มกัลยาณมิตรของหมู่คณะ(ในยุคนั้น) ก็ได้มาชักชวนให้คุณแม่ของตัวลูก มาทำบุญและฟังธรรมะกับพระอาจารย์หัวหน้ากลุ่มกัลยาณมิตรกลุ่มนี้ ที่วัดสาขาของหมู่คณะ(ซึ่งกำลังสร้างอยู่ภายในหัวเมืองแห่งนั้น)กลุ่มกัลยาณมิตรของหมู่คณะ ได้มาชักชวนให้คุณแม่ของลูกมาทำบุญและฟังธรรมะกับพระอาจารย์เมื่อคุณแม่ของตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ได้มีโอกาสไปทำบุญและฟังธรรมะกับพระอาจารย์ที่วัดสาขาของหมู่คณะ(ที่เพิ่งสร้างใหม่) แห่งนั้นแล้ว ตัวท่านก็ได้เรียนรู้และเข้าใจในเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องกฎแห่งกรรม เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเป็นผลทำให้ตัวท่านเริ่มคลายจากความทุกข์และความกังวลใจ เกี่ยวกับเรื่องการตายของเจ้าขาว(ม้าของท่าน) ลงไปได้บ้างตัวท่านได้เรียนรู้และเข้าใจในเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต โดยเฉพาะเรื่องกฎแห่งกรรมและเมื่อธรรมะได้ซึมผ่านเข้าไปสมานแผลใจให้กับคุณแม่ของตัวลูก(ในภพชาตินั้น) เช่นนี้ จึงทำให้ตัวท่านรักและชอบ ที่จะไปสั่งสมบุญกับพระอาจารย์ที่วัดสาขาของหมู่คณะ(ที่เพิ่งสร้างใหม่) แห่งนั้นเป็นอย่างมาก
ต่อมา เมื่อคุณแม่ของตัวลูก ได้มีโอกาสฟังธรรมะจากพระอาจารย์หัวหน้ากลุ่มกัลยาณมิตรกลุ่มนี้บ่อยเข้า บ่อยเข้า ตัวท่านจึงเกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการที่จะแก้ไขวิบากกรรม(ที่ตัวท่านได้เคยใช้แรงงานเจ้าขาวอย่างหนัก จนมันตาย ตามหลักของกฎแห่งกรรม) มากขึ้น มากขึ้น ไปเรื่อยๆ ตามลำดับท่านจึงเกิดความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะสั่งสมบุญสร้างบารมีที่วัดสาขาของหมู่คณะ ให้ได้อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอเมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวท่านจึงเกิดความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะสั่งสมบุญสร้างบารมีที่วัดสาขาของหมู่คณะ(ในยุคนั้น) ให้ได้อยู่เป็นประจำสม่ำเสมอในทุกๆ ครั้งที่คุณแม่ของตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ไปสั่งสมบุญสร้างบารมีที่วัดสาขาของหมู่คณะในยุคนั้น นอกจากพระอาจารย์หัวหน้ากลุ่มกัลยาณมิตรกลุ่มนี้ จะเทศน์สอนธรรมะให้ตัวท่านเกิดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตแล้ว พระอาจารย์ท่านยังสอนให้คุณแม่ของตัวลูก (ในภพชาตินั้น) รู้จักปล่อยวางเรื่องของคน สัตว์ สิ่งของและเรื่องราวต่างๆ ภายนอกทั้งหลายอีกด้วยเมื่อเป็นเช่นนี้ คุณแม่ของลูกจึงเกิดความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในพระอาจารย์หัวหน้ากลุ่มกัลยาณมิตรรูปนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น ตัวท่านจึงได้ปวารณาที่จะคอยอุปถัมภ์อุปัฏฐากพระอาจารย์รูปนี้เรื่อยไป แล้วตัวท่านก็ได้ตั้งใจทำหน้าที่นี้เป็นอย่างดีไปจนตลอดชีวิตของท่าน ซึ่งพระอาจารย์รูปนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน เพราะท่านก็คือ ตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้นั่นเองคุณแม่ของลูก เกิดความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในพระอาจารย์หัวหน้ากลุ่มกัลยาณมิตรรูปนี้เป็นอย่างมากและเมื่อถึงวันที่คุณแม่ของตัวลูก(ในภพชาตินั้น หรือในหลายๆ พุทธันดรก่อนๆ นู้น ซึ่งไม่ใช่ในภัทรกัปนี้) ได้ละจากโลกนี้ไป ตัวท่านก็ได้ไปบังเกิดอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เหมือนอย่างในภพชาติปัจจุบันนี้นั่นเองแม้ว่าในภพชาติดังกล่าว คุณแม่ของตัวลูกจะไม่ได้มีเจตนาใช้แรงงานเจ้าขาว(ม้าของท่าน) อย่างหนัก จนทำให้มันต้องล้มป่วยและเสียชีวิตก็ตาม แต่ถึงกระนั้น การกระทำดังกล่าว มันก็ได้กลายเป็นวิบากกรรม(ตามหลักของกฎแห่งกรรม) ที่ติดตามตัวท่านนับตั้งแต่ภพชาตินั้นเรื่อยมา จวบจนกระทั่งมาถึงในภพชาติปัจจุบันนี้ แม้ว่าวิบากกรรมดังกล่าวจะเจือจางเบาบางลงไปมากแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังคงคอยหาช่องตามมาส่งผลอยู่ตลอดเวลาเมื่อวิบากกรรมดังกล่าวได้ช่องตามมาส่งผล จึงเป็นผลทำให้คุณแม่ของลูกมีอาการเหนื่อยหอบ ไม่สบายตัวก่อนเสียชีวิตดังนั้น เมื่อวิบากกรรมที่คุณแม่ของลูกได้ใช้แรงงานเจ้าขาว(ม้าของท่าน) อย่างหนัก จนเป็นผลทำให้เจ้าขาวต้องล้มป่วยและเสียชีวิตลงในภพชาติดังกล่าว ได้ช่องตามมาส่งผลในภพชาติปัจจุบันนี้ จึงเป็นผลทำให้ คุณแม่ของลูกต้องมามีอาการเหนื่อยหอบ และมีความรู้สึกที่ไม่สบายเนื้อสบายตัวก่อนที่จะเสียชีวิตนั่นเอง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตลอดชีวิตคุณแม่ของตัวลูก ตัวท่านแทบจะไม่มีอาการเหนื่อยหอบให้ตัวลูกได้เห็นเลย จนกระทั่งมาถึงช่วงก่อนที่จะเสียชีวิตนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ด้วยผลแห่งบุญที่ตัวท่านได้ตั้งใจทุ่มเทสั่งสมเอาไว้ตั้งแต่ในภพชาติดังกล่าวเรื่อยมาจนกระทั่งมาถึงในภพชาติปัจจุบัน ได้ไปตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวให้เบาบางเจือจางและอ่อนกำลังลงไปนั่นเองด้วยผลบุญที่ท่านได้สั่งสมเอาไว้ในภพชาติดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน ไปตัดรอนวิบากกรรมให้เจือจางอ่อนกำลังลง ทำให้ท่านแทบไม่มีอาการเหนื่อยหอบเลย จนกระทั่งก่อนเสียชีวิตซึ่งถ้าหากคุณแม่ของลูก ไม่มีผลแห่งบุญที่ตัวท่านได้ตั้งใจทุ่มเทสั่งสมเอาไว้(โดยเฉพาะผลแห่งบุญในภพชาติปัจจุบันนี้ ที่ตัวท่านได้ตั้งใจทุ่มเทสั่งสมบุญสร้างบารมีอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ทั้งทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิ(Meditation)อยู่เป็นประจำ) มาตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวแล้ว ตัวท่านก็อาจจะต้องมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคหอบ หืด ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ซึ่งก็จะเป็นผลทำให้ตัวท่านต้องได้รับความทุกข์ทรมานมากกว่าที่เป็นอยู่นี้นั่นเอง บุญเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งให้เราได้
คำถามข้อที่ 3 ในอดีตลูกสร้างบารมีมาอย่างไร และมีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรมคะคำตอบ...สำหรับเรื่องราวการสร้างบารมีของตัวลูก ในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น ตัวลูกก็เคยได้เกิดมาสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์ และหมู่คณะด้วยเหมือนกัน เรื่องก็มีอยู่ว่าในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เกิดเป็น “กุลบุตรสุดหล่อเรียบร้อย” อยู่ในตระกูลของพ่อค้า ที่ค้าขายสินค้าอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่ออกบวช ซึ่งในพุทธันดรที่ผ่านมา คุณแม่ของตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้ ก็ได้เกิดเป็นคุณแม่ของตัวลูกในภพชาตินั้นด้วย ส่วนคุณพ่อของตัวลูก(ในภพชาตินั้น) จะเป็นคนละคนกับคุณพ่อของตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้ในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เกิดเป็นกุลบุตรสุดหล่อเรียบร้อย อยู่ในตระกูลของพ่อค้าสำหรับบุคลิกลักษณะของตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) นั้น ตัวลูก(ในภพชาตินั้น) จะเป็นเด็กหนุ่มที่เรียบร้อยและมีความรับผิดชอบสูง ซึ่งตัวลูกจะชอบช่วยเหลือกิจการค้าขายของที่บ้านเป็นอย่างดี และไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูก(ในภพชาตินั้น) จะใช้ให้ตัวลูกทำงานอะไรก็ตาม ตัวลูกก็ไม่เคยปฏิเสธคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูกเลยบุคลิกลักษณะของตัวลูกเป็นเด็กหนุ่มที่เรียบร้อยและมีความรับผิดชอบสูงและด้วยคุณงามความดีของตัวลูก(ในภพชาตินั้น) นี้เอง จึงทำให้ตัวลูกได้กลายเป็นที่รักที่เอ็นดูของคุณพ่อคุณแม่(ในภพชาตินั้น) ไปโดยปริยาย แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวลูก(ในพุทธันดรที่ผ่านมา) จะชอบช่วยเหลือกิจการค้าขายของที่บ้านก็ตาม แต่ลึกๆ ภายในใจของตัวลูก ตัวลูกเองกลับรู้สึกว่า การทำกิจการค้าขายยังไม่ใช่สิ่งที่ตัวลูกรักและถนัดนอกจากตัวลูก (ในภพชาตินั้น) จะเป็นเด็กหนุ่มที่เรียบร้อย มีความรับผิดชอบสูง เอาการเอางาน และชอบช่วยเหลือกิจการงานของที่บ้านแล้ว ตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ยังมีความสามารถพิเศษที่แฝงอยู่ในตัวของลูกอีกด้วย ซึ่งความสามารถพิเศษที่แฝงเร้นนั้นก็คือ การเป็นศิลปินนักแต่งเพลงนั่นเอง โดยตัวลูก (ในภพชาตินั้น) จะมีกลุ่มเพื่อนที่ชอบร้องรำทำเพลง และชอบแต่งเพลงเหมือนกันกับตัวลูกอยู่กลุ่มนึง ยามใดที่ตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ว่างเว้นจากการงาน ตัวลูกก็จะชอบไปหาเพื่อนที่มีอารมณ์ศิลปินกลุ่มนี้ เพื่อร้องรำทำเพลงและแต่งเพลงร่วมกับเพื่อนๆ กลุ่มนี้ด้วยความเพลิดเพลินอยู่เป็นประจำตัวลูก(ในภพชาตินั้น) จะมีกลุ่มเพื่อนที่ชอบร้องรำทำเพลง และชอบแต่งเพลงเหมือนกันกับตัวลูกอยู่กลุ่มนึงแม้ว่าตัวลูก(ในภพชาตินั้น) จะมีความสุขเป็นอย่างมากที่ตัวลูกได้ร้องและแต่งเพลงก็ตาม แต่ตัวลูกกลับยังรู้สึกว่า ดนตรีและเสียงเพลงยังไม่ใช่ชีวิตที่ตัวลูกต้องการจริงๆ(ซึ่งตัวลูกเองก็ยังตามหาสิ่งที่ใช่สำหรับตัวลูกอยู่ เพียงแต่ ณ ช่วงเวลานั้น ตัวลูกยังไม่พบและยังไม่รู้ว่าสิ่งที่ใช่สำหรับตัวลูกนั้นคืออะไร)จนกระทั่งในเวลาต่อมา การแสวงหาสิ่งที่ใช่ของตัวลูกก็ถึงจุดสิ้นสุดลง เมื่อตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ได้ไปเจอกับนายทหารกลุ่มหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเขตพระราชวัง ของพระราชาองค์ที่ออกบวช เพราะทันทีที่ตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ได้พบกับนายทหารกลุ่มนี้(ซึ่งมีบุคลิกลักษณะดี ทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว และแตกต่างจากทหารทั่วๆ ไปเป็นอย่างมาก) แล้วตัวลูกก็เกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อตัวลูกมีความรู้สึกเช่นนี้แล้ว ตัวลูกจึงอยากที่จะหาความรู้เพิ่มเติมให้กับตัวลูกเองว่า นายทหารกลุ่มนี้เป็นใคร มีหน้าที่ทำอะไร แล้วถ้าอยากจะเป็นอย่างนี้บ้าง ตัวลูกจะต้องทำอย่างไรเมื่อตัวลูกได้พบกับนายทหารกลุ่มหนึ่ง ทำให้เกิดความประทับใจและอยากเป็นอย่างนั้นบ้างเมื่อตัวลูก(ในภพชาตินั้น) เกิดคำถามขึ้นมาในใจเช่นนี้แล้ว ตัวลูกจึงไม่รอช้าได้รีบเข้าไปทำความรู้จัก และซักถามข้อสงสัยใคร่รู้กับนายทหารกลุ่มนี้ในทันทีหลังจากที่ตัวลูก ได้เข้าไปทำความรู้จักและซักถามข้อสงสัยใคร่รู้ กับนายทหารกลุ่มนี้แล้ว ตัวลูกก็ได้ทราบว่า นายทหารกลุ่มนี้เป็นนายทหารที่ประจำอยู่ในเขตพระราชวัง ซึ่งกว่าที่พวกเขาจะมาทำหน้าที่ตรงนี้ได้ พวกเขาจะต้องไปสมัครเป็นทหารและต้องผ่านการฝึกฝนทุกรูปแบบอย่างหนักตัวลูกจึงได้รีบเข้าไปทำความรู้จัก และซักถามข้อสงสัยใคร่รู้กับนายทหารกลุ่มนี้ในทันทีทันทีที่ตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ได้ยินเรื่องราวประวัติความเป็นมาของนายทหารกลุ่มนี้(ที่เป็นเหมือนกับต้นแบบ) ของตัวลูก แล้วตัวลูกก็เกิดความรู้สึกอยากที่จะเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจในเวลาต่อมา เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม ตัวลูก(ในภพชาตินั้น) ก็ได้ไปบอกความในใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูกได้ฟังว่า ตัวลูกปรารถนาอยากที่จะเป็นทหารของพระราชาเมื่อคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูกได้ยินความปรารถนาของตัวลูกเช่นนั้น ด้วยความที่ท่านทั้งสอง ก็มีความเลื่อมใสในพระปรีชาสามารถของพระราชาองค์ที่ออกบวชเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้เอง ท่านทั้งสองจึงไม่ได้ลังเลสงสัยและก็ได้อนุญาตให้ตัวลูกไปสมัครเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ตามความใฝ่ฝันของตัวลูกในทันที ซึ่งต่อมา เมื่อตัวลูก(ในภพชาตินั้น) จบการศึกษาวิชาทหารแล้ว ตัวลูกก็ได้รับการบรรจุให้เป็น “ทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช” ที่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นนั่นเองเมื่อตัวลูก(ในภพชาตินั้น) จบการศึกษาวิชาทหารแล้ว ก็ได้รับการบรรจุให้เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวงส่วนว่า เรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไร จะเข้มข้นและน่าติดตามขนาดไหน เราก็คงต้องมาติดตามกันในตอนต่อไปรายการวิดีโอที่เกี่ยวข้อง
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)
บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป
"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)
http://goo.gl/aAk2v