จับเสือมือเปล่า

การทำเงินเเบบ "จับเสือมือเปล่า" เป็นอย่างไร? จับเสื้อมือเปล่าเเตกต่างกับเสือนอนกินอย่างไร? การจับเสือมือเปล่าต้องทำอย่างไร? โภคะเกิดแก่ผู้มีบุญ สิริชาดก https://dmc.tv/a20601

บทความธรรมะ Dhamma Articles > Review รายการ
[ 6 ต.ค. 2558 ] - [ ผู้อ่าน : 18259 ]

จับเสือมือเปล่า

แสดงธรรมโดยพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ
จากรายการทันโลกทันธรรม

จับเสือมือเปล่า

คำถาม การทำเงินเเบบ "จับเสือมือเปล่า" เป็นอย่างไร?

     การจับเสือมือเปล่า เป็นศัพท์ทางธุรกิจเเปลว่า เราสามารถหารายได้โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย มีเพียงค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆที่ใช้ในการประการเท่านั้น

คำถาม จับเสื้อมือเปล่าเเตกต่างกับเสือนอนกินอย่างไร?

      เสือนอนกิน ก็คือ การที่มีรายได้เข้ามาเรื่อยๆโดยที่เราไม่ต้องไปลงทุนลงเเรงอะไรเพิ่มเติมอีก เเต่การจับเสือมือเปล่าเราจะต้องลงเเรงในการประกอบอาชีพ เเต่ว่าไม่ต้องลงทุนหรือว่ามีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
 
จับเสือมือเปล่า
 
คำถาม การจับเสือมือเปล่าต้องทำอย่างไร?
 
     มีผู้วิเคราะห์เอาไว้ว่า การจับเสือมือเปล่ามีลักษณะอาชีพอยู่ 6 อาชีพ
 
     1.นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึงนายหน้าจะเป็นคนกลางที่คอยเจรจาติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เพื่อให้ผู้ซื้อกับผู้ขายตกลงกันได้ ซึงนายหน้าต้องศึกษาลักษณะของอสังหาริมทรัพย์นั้นเพื่อสามารถพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่ายได้ อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยก็คือ ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสาร ค่าใช้จ่ายในการพาลูกค้าไปชมพื้นที่ ที่สำคัญนายหน้าต้องมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่างเจรจา สามารถสื่อสารกับผู้ซื้อเเละผู้ขายให้มีความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย ถ้าพูดเก่ง เจรจาเก่ง ขายเก่ง ก็จะได้ภาษีในการซื้อขายค่อนข้างดี

     2.ขายสินค้าจากร้านค้าคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น การขายสินค้าในอินเทอร์เน็ตโดยที่เราไปนำสินค้าจากบริษัทอื่นมาประกาศขาย เช่น นายก็ขายสินค้าในราคา 50 บาท นาย ข. ไปเห็นสินค้าชิ้นนี้เเล้วนำมาประกาศขายสินค้าในอินเทอร์เน็ต 200 บาท เมื่อมีผู้สนใจมาซื้อสินค้ากับนาย ข นาย ข. ก็ไปสั่งซื้อสินค้ากับนายก็อีกทีหนึ่ง โดยผู้สั่งซื้อสินค้าก็จะจ่ายค่าสินค้าตรงกับนาย ข. เเต่ว่านายขอจะให้นาย ก. เป็นผู้ส่งสินค้า โดยเงินนั้นก็จะเข้ามาสู่นายข. เรียกว่า เป็นการขายสินค้าโดยไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่ต้องลงทุนซื้อสินค้ามาขายเอง จะมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยในการที่จะทำเว็บไซต์ ในการทำการตลาด ผู้ที่จะประกอบอาชีพนี้ก็จะต้องมีความรู้ความสามารถในคอมพิวเตอร์พอสมควร สามารถติดตามเทรนต่างๆในสังคมได้

     3.ที่ปรึกษาทางธุรกิจ การเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ ไม่ใช่ว่าใครจะทำได้ เเต่ถ้าทำได้เเล้ว ก็จะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ บางครั้งอาชีพนี้ก็จะประกอบอาชีพในรูปบริษัทเเทนที่จะเป็นบุคคลเดี่ยวๆ ตัวอย่างเช่น ถ้า 2 บริษัทจะลงทุนร่วมกัน ก็จะมีคนกลางเข้ามาเจรจาช่วยดูเเลว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้บริษัทมีสถานภาพที่มั่นคงที่สุด บริษัทหรือองค์กรที่มีขนาดใหญ่เเละมีพนักงานมากๆส่วนใหญ่ก็จะจ้างบริษัทที่เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจไปช่วยดูเเลเรื่องการลงทุนโดยเฉพาะ คนที่จะประกอบอาชีพนี้จะต้องมีการสื่อสารที่ดี มีความสามารถในการเจรจา เเละมีความรู้ความสามารถในเรื่องธุรกิจ จะต้องมีการอัพเดตข้อมูลข่าวสารตลอดเวลา รู้ข้อมูล รู้เทคโนโลยีใหม่ๆ รู้เท่านทันการตลาด สามารถกาเครื่องมือมาใช้พัฒนาองค์กรได้เป็นอย่างดี อาชีพนี้ก็จะมีโอกาสในการก้าวหน้าสูงเพราะสามารถเป็นทีปรึกษาให้กับหลายๆบริษัทในขณะเดียวกันได้ เเละเมื่อมีควาเชี่ยวชาญมากขึ้น ก็จะมีประสบการณ์ มีชื่อเสียงมากขึ้น สามารถพัฒนาตนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษาทางธุรกิจ สามารถรับงานอิสระได้ ที่สำคัญต้องมีความรู้ ความสามารถ เพิ่มความรู้ให้ตนเองอยู่ตลอดเวลา
 
จับเสือมือเปล่า

     4.ปล่อยเช่าคอนโด คือ เราไม่มีเงินซื้อคอนโดต้องเเต่ต้น เราไปกู้ในธนาคาร ขอกู้ 100% เเล้วก็เอาคอนโดนั้นมาปล่อยเช่า สมมุติว่า เราต้องผ่อนคอนโดเดือนละ 16,000 บาท เราก็ปล่อยเช่าเดือนละ 20,000 บาท ก็เอาเงิน 20,000 บาทนั้นมาผ่อนคอนโด เเถมยังได้กำไรอีก 4,000 บาทด้วย คนที่จะทำได้ก็จะต้องมีสถานภาพทางการเงินที่ค่อนข้างดีพอสมควร มีเครดิตที่ดี นอกจากนั้นก็จะต้องมองพื้นที่เป็นว่า พื้รที่ไหนมีศักยภาพ บางทีไปซื้อคอนโดมาก็ปล่อยเช่าไม่ได้เหมือนกัน

     5.ตัวเเทนขายประกันชีวิต ซึ่งอาชีพนี้ก็ไม่ต้องมีหน้าร้าน เเต่ต้องมีความรู้ความสามารถ จะต้องไปอบรมเป็นตัวเเทนขายประกันชีวิต จะต้องมีคุณสมบัติในการชอบดูเเลลูกค้า เมื่อลูกค้ามีปัญหาอะไรก็จะต้องเข้าไปดูเเล ปัญหาของเขา ข้อจำกัดของผู้เป็นตัวเเทนขายประกัน คือ ต้องมีใบอนุญาติการประกอบวิชาชีพ จะต้องสอบเพื่อขอใบอนุญาติเป็นตัวเเทนขายประกันเเละกรมการประกันภัย  จะสอบด้วยกัน 4 วิชา คือ 1.วิชาจรรยาบรรณเเละคุณธรรมของตัวเเทนประกันชีวิต ซึงผู้เข้าสอบจะต้องได้คะเเนน 70 % ขึ้นไป 2.หลักการประกันชีวิต 3.วิชาประมวลกฏหมายเเพ่งเเละพาณิชย์ 4.พระราชบัญญัติประกันชีวิตฉบับ 2535 ตัวอย่างจรรณยาบรรณของผู้ขายประกัน ที่สำคัญที่สุดคือ มีความซื่อสัตย์ต่อผู้ซือประกัน มีความซื่อสัตย์ต่อบริษัทเเละเพื่อนร่วมอาชีพ ไม่ควรเสนอขายนอกเหนือกรมทัน ผู้ขายประกันไม่ควรกล่าวให้ร้ายทับถมตัวเเทนประกันภัยของท่านอื่น

     6.ขายไอเดียให้กับนักลงทุน หลายๆประเทศในโลกนี้ รวมทั้งประเทศไทย ก็จะมีการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีไอเดียใหม่ๆ อย่างในอเมริกา ถ้าเราสามารถประดิษฐ์สินค้าชนิดใหม่ๆที่จะทำให้ชีวิตของผู้บริโภคสะดวกสบายมากขึ้น เเต่ถ้าเราไม่มีเงินทุนเราสามารถไปนำเสนอสินค้าที่เราคาดว่าเราจะพัฒนาขึ้นมาให้กับนักลงทุน ถ้านักลงทุนเห็นด้วย เเละเห็นช่องทางในการทำการตลาด เมื่อนักลงทุนร่วมลงทุนกับเรา เราก็จะได้รับส่วนเเบ่งของการตลาด ส่วนเเบ่งของกำไรนั้นด้วย
 
จับเสือมือเปล่า

     อาชีพทั้ง 6 นี้ ถึงเเม้ใช้เงินลงทุนต่ำเเต่ก็ต้องใช้ความคิด ความสามารถค่อนข้างสูงเรียกว่า ต้องสามารถเปลี่ยนสติปัญญาของตนให้เป็นทรัพย์ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนของทันโลก ส่วนทันธรรมนั้นเรามาฟังเรื่องราวจากพระอาจารย์ พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

     ถ้าพูดถึง "จับเสือมือเปล่า" ทุกคนก็จะนึกถึง การที่ได้กำไรโดยไม่ต้องลงทุน คือ ไม่ต้องเอาทรัพย์สินตัวเองไปเสี่ยง เเต่ว่าได้ทรัพย์สินมาเเบบง่ายๆสบายๆ บางทีมีส่วนคล้ายกับ ชุปมือเปิบ ถ้าปกติเขาบอกว่า จะกำไรเยอะ ความเสี่ยงก็ต้องสูงไปด้วย ถ้าทางโลก ธุรกิจที่เป็นการจับเสือมือเปล่า ส่วนใหญ่จะต้องใช้ทักษะเเละความชำนาญของตัวเองไปเเลกมาคือ ไม่ได้ลงทุนด้วยทรัพย์สิน เเต่ลงทุนด้วยความรู้ ความสามารถ ความชำนาญการในด้านต่างๆ จริงๆเเล้วทรัพย์สินจะมาถึงเราได้เราจะต้องเป็นผู้มีบุญ ถ้าคนไม่มีบุญถึงไปลงทุนเเทบเป็นเเทบตาย มีคนมาชุปมือเปิบไป เพราะเราไม่มีบุญรองรับทรัพย์นั้น ทรัพย์นั้นก็จะกลายเป็นของผู้มีบุญ มีตัวอย่างในชาดกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องสิริชาดก เเปลว่า  โภคะเกิดแก่ผู้มีบุญ
     
     เริ่มต้นเรื่องเหตุเกิดที่อนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นผู้สร้างวัดวัดเชตวันมหาวิหารถวายพระพุทธเจ้า เรียกว่าทุ่มสุดตัวเลยทีเดียว เเต่เมื่อคราววิบากกรรมในอดีตตามาทันทำให้ทรัพย์ที่เขายืมโดนโกง เขาไม่คืน เอาทรัพย์ฝังดินไว้ก็ถูกน้ำเซาะไป จนทรัพย์ร่อยหลอ กลายเป็นคนเข็ญใจ คือตังค์ไม่มีเเล้ว ถึงคราวจะเลี้ยงพระก็ต้องต้มข้าวต้มปลายข้าวกับน้ำผักดองเลี้ยงพระไม่ยอมลดละในการทำบุญ จนเทวดาที่เฝ้าประตูซุ้มบ้าน มาห้ามไม่ให้ทำบุญ เศรษฐีเเทนที่จะเชื่อกลับไล่เทวดาไม่ให้อยู่ เทวดาจึงต้องมาขอขมาเศรษฐีด้วยการไปตามทรัพย์มาให้เศรษฐีทั้งหมด เศณษฐีก็กลับเป็นคนร่ำรวยเหมือนเดิม เเล้วเทวดากับเศรษฐีก็เป็นเพื่อนกัน วันหนึ่งเศรษฐีก็พาเทวดามิจฉาทิฏฐิไปกราบพระพุทธเจ้า พระองค์ก็ทรงเเสดงธรรมโปรดจนกระทั่งเทวดาบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เทวดาได้กัลยาณมิตรที่ดีคือเศรษฐีจึงได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เพราะฉะนั้oกัลยาณมิตรนั้นสำคัญมาก คราวนี้มีพราหมณ์คนหนึ่งสังเกตุเห็นเศรษฐีเคยรวยมาก่อนเเล้วกลับจน เเล้วต่อมาก็กลับมารวยอีกยิ่งกว่าเก่า เเสดงว่าเศรษฐีต้องมีสิริอยู่ประจำตัว อย่ากระนั้นเลยเราต้องไปขโมยเอาสิริของเศรษฐีมาดีกว่า เเล้วก็เลยไปเยี่ยมอนาถบิณฑิกเศรษฐี
 
จับเสือมือเปล่า
 
     พอคุยๆกันก็สังเกตุว่าสิริของเศรษฐีอยู่ที่ไหน ปรากฏว่าเจออยู่ที่ไก่ตัวสีขาว อยู่ในกรงข้างบ้านเศรษฐี เลยขอไก่ตัวนั้นจากเศรษฐี บอกว่าข้าพเจ้าสอนมนต์ให้มานพ 500 คน เเต่ไก่บ้านข้าพเจ้ามันขันไม่เป็นเวลา ทำให้จะตื่น จะอะไร มันก็รวนไปหมดเลย ขอไก่ตัวนั้นเถอะ เศรษฐีเป็นคนใจบุญพราหมณ์ขอยกให้เลย พอเศรษฐีบอกว่ายกให้เท่านั้นเองสิริเคลื่อนออกจากไก่ไปอยู่ที่ดวงเเก้วมณีที่หัวเตียงเศรษฐีเลย พอพราหมณ์เห็นสิริเคลื่อนไปอญุ่ที่ดวงเเก้วจึงขอดวงเเก้วมณีเศรษฐี เศรษฐีก็ให้อีก พอเศรษฐีบอกว่าให้เท่านั้นเองสิริก็เคลื่อนจากดวงเเก้วไปอยู่ที่ไม้จะเว็ดเหนือเตียงนอนเศรษฐี พราหมณ์ก็ขอไม้จะเว็ดนั้น เศรษฐีก็ให้อีก พอเอ่ยปากให้สิริก็เคลื่อนจากไม้จะเว็ดไปอยู่ที่ศรีษะของภรรยาเศรษฐี พราหมณ์เห็นอย่างนั้น เห็นว่าเอาไปไม่ได้ จึงบอกให้เศรษฐีเล่าความจริงให้ฟังว่า ข้าพเจ้ามาตั้งใจจะมาเอาสิริของท่านไปเเต่ว่าไม่สำเร็จเพราะเหตุอย่างนี้ เเล้วจึงลาเศรษฐีกลับไป อนาถบิณฑิกเศรษฐีก็เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าก็กราบทูลเรื่องนี้ให้พระองค์ทราบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า สิริมันต้องอยู่กับผู้มีบุญเท่านั้น คนอื่นจะมาขโมยไปมันทำไม่ได้หรอก ไม่เฉพาะในปัจจุบันเท่านั้นเเม้ในอดีตก็เช่นเดียวกัน
 
     เเล้วพระองค์ก็ทรงนำสิริชาดกมาเล่าให้ฟังว่าด้วยเรื่อง โภคะเกิดกับผู้มีบุญ ว่าในอดีตนั้นพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในพระนครพาราณสีอยู่เเล้วพระโพธิสัตว์ก็เกิดมาในตระกูลเศรษฐีต่อมาพ่อเเม่เสียชีวิต พระโพธิสัตว์ก็เห็นว่าชีวิตเรานั้นเกิดมาก็ต้องตายอย่ากระนั้นเลยเราออกบวชดีกว่า จึงออกบวชเป็นฤาษีอยู่ในป่า บำเพ็ญเพียรจนได้ฌานสมาบัติ เหาะเหิน เดินอากาศได้ มีญาณทัศนะในระดับหนึ่ง อยู่มาวันหนึ่งก็เข้าเมืองมาทำนักอยู่ที่เมืองของพระราชาเพื่อมาหารสเปรี้ยวรสเค็ม อยู่ในป่ามันขาดเกลือ ร่างกายคนเรามันขาดเกลือไม่ได้ ต้องเข้าเมืองมาเพื่อเเสวงหารสเปรี้ยว รสเค็มบ้าง ก็มาถึงก็ไปบิณฑบาตรที่บ้านของนายนายหัตถาจารย์ คือ คนที่เลี้ยงช้างของพระราชา นายหัตถาจารย์เห็นกิริยาอาการของฤาษีมีความสงบสำรวมก็เกิดศรัทธาจึงอุปัฏฐากตลอดต่อเนื่องมา ในวันหนึ่งมีชายตัดฟืนไม่หาฟืนนอกเมือง เเล้วจะกลับเมือง กลับไม่ทัน พอตกเย็นประตูเมืองก็ปิด ชายตัดฟืนเลยต้องไปอาศัยนอนที่ศาลเจ้า บนกิ่งไม้เหนือศาลเจ้านั้นมีไก่มันมาเกาะคอนกิ่งไม้นอนอยู่ ชายตัดฟืนได้ยินเสียงไก่มันคุยกัน ไก่ตัวบนปล่อยอึลงมา ขี้รดไก่ตัวล่าง ไก่ตัวล่างเลยหงุดหงิด ไก่ตัวล่างพูดว่า เอ็งมาขี้รดข้าได้ไง เเกรู้ตบะบารมีของข้ารึป่าว ข้าเนี้ยนะ ใครเอาเนื้อข้าไปย่างกินเเล้วล่ะก็ตื่นมาจะได้ทรัพย์พันกหาปณะทุกวัน นี่ข้านี่มันขนาดนี้นะ เเล้วเอ็งบังอาจยังไงมาขี้รดข้าได้ ไก่ตัวบนบอก เอ้ยไอ้ไก่อวดดีเอ็งมันยังจิบจ้อย ของข้าสิ ใครจับข้าไปย่างเเล้วล่ะก็ พอกินเนื้อตรงที่ล้ำๆล่ะก็คนนั้นจะได้เป็นพระราชา ใครเอาเนื้อภายนอกมากินฝ่ายชายจะได้เป็นเสนาบดี ถ้าเป็นหญิงจะได้เป็นอัครมเหสี ส่วนใครที่กินเนื้อติดกระดูก ถ้าเป็นผู้ชายจะได้เป็นขุนคลัง ถ้าเป็นนักบวชก้จะได้เป็นพระประจำตัว ประจำตระกูลของพระราชา นี่ข้านี้มันขนาดนั้น ว่าเเล้วไก่ตัวบนก็ขี้ลงมารดไก่ตัวล่างอีก
 
จับเสือมือเปล่า
 
     ระหว่างที่ไก่สองตัวนั้นทะเลาะกันอยู่ชายตัดฟืนนอนคิดอยู่ว่า ถ้าเราได้เป็นพระราชา ทรัพย์วันละพันกหาปณะนั้นไม่มีความหมาย เป็นพระราชาจะเอาเท่าไหร่ก็ได้ ว่าเเล้วก็ไม่สนใจไก่ตัวล่าง ค่อยๆปีนขึ้นไปจับไก่ตัวบน ถึงบ้านก็เชือดไก่ เเล้วให้ภรรยาปรุงทำเป็นไก่ต้ม เตรียมจะรับประทาน ชายตัดฟืนกล่าวกับผู้เป็นภรรยาว่า  นางผู้เจริญ เนื้อนี้มีอานุภาพมาก เราบริโภคเนื้อนี้แล้วจักเป็นพระราชา เธอจักได้เป็นอัครมเหสี ดังนั้น สามีภรรยาทั้งสองจึงถือเอาข้าวและเนื้อนั้นไปฝั่งแม่น้ำคงคา คิดว่า อาบน้ำแล้วจึงจักบริโภค จึงได้วางภาชนะอาหารไว้ที่ริมฝั่งแล้วลงไปอาบน้ำ  ขณะนั้น น้ำถูกลมพัดปั่นป่วนซัดมาได้พาเอาภาชนะภัตตาหารลอยไป. ภาชนะภัตตาหารนั้นถูกกระแสน้ำพัดมา ลอยไปถึงมือนายหัตถาจารย์ พอเปิดมาเห็นเป็นไก่ปรุงเรียบร้อยอย่างดีก็ให้คนส่งไปที่บ้าน เเล้วบอกภรรยาว่า อย่าพึงทำอะไรนะรอให้ฉันกลับไปก่อน นายหัตถาจารย์ก็ไม่รู้เรื่องอะไร นึกในใจเเค่ว่าอยากเอาไปถวายพระอาจารย์ด้วย ฝ่ายฤาษีเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยญาณ จึงรีบมาที่บ้านของนายหัตถาจารย์ นายหัตถาจารย์เห็นฤาษีมาก็ดีใจยกไก่ประเคนถวายในทันที ฤาษีก็บอกว่า เดี๋ยวข้าพเจ้าจะขอรับหน้าที่ในการจัดสรรปันส่วนไก่นี้เอง นายหัตถาจารย์บอกเเล้วเเต่พระอาจารย์เลย พระฤาษีก็เเบ่งเนื้อล้ำๆให้นายหัตถาจารย์กินจะได้เป็นพระราชา เนื้อในภายนอกให้ภรรยาทานจะได้เป็นอัครมเหสี ตัวเองทานเเค่เนื้อติดกระดูกก็จะเป็นพระประจำตระกูลของพระราชา เสร็จเรียบร้อยก็บอกนายหัตถาจารย์ว่า รักษาเนื้อ รักษาตัวดีๆ ภายในสามวันนี้จะได้เป็นพระราชา นายหัตถาจารย์ก็งงๆ
 
     วันถัดมาเท่านั้นเองปรากฏว่า มีกองทัพต่างเมืองยกทัพมาล้อมเมืองบอกพระราชาว่าให้ยกสมบัติให้ พระราชาก็จะสู้เเต่ก็กลัวตายจึงให้นายหัตถาจารย์เเต่งกายปลอมเป็นพระราชาขึ้นหลังช้างไปส่วนพระราชาปลอมเป็นทหารธรรมดา เพราะคิดว่าข้าศึกจะมาเพ่งเล่งที่พระราชา ตัวเองปลอมเป็นทหารธรรมดาจะได้ปลอดภัย พอออกสู่สมรภูมิปรากฏว่าถูกลูกศรยิงพระราชาที่ปลอมเป็นทหารธรรมดา
ตายเลย  นายหัตถาจารย์นั้นรู้ว่า พระราชาสวรรคตแล้ว จึงให้ขนกหาปณะออกมาเป็นอันมาก แล้วให้เที่ยวตีกลองป่าวร้องว่า ผู้ที่ต้องการทรัพย์จงออกแนวหน้าสู้รบเถิด. พลนิกายจึงปลงพระชนม์พระราชาผู้เป็นข้าศึกได้โดยครู่เดียวเท่านั้น  อำมาตย์ทั้งหลายถวายพระเพลิงพระศพของพระราชาแล้ว ปรึกษากันว่า เราจะตั้งใครให้เป็นพระราชา จึงตกลงกันว่า พระราชาเมื่อยังมีพระชนม์อยู่ได้พระราชทานเพศของพระองค์แก่นายหัตถาจารย์ นายหัตถาจารย์นี้แหละกระทำการรบจึงยึดราชสมบัติไว้ได้ เราทั้งหลายจักให้ราชสมบัติแก่นายหัตถาจารย์นี้เท่านั้น แล้วจึงอภิเษกนายหัตถาจารย์นั้นในราชสมบัติ ทั้งได้กระทำภรรยาของนายหัตถาจารย์นั้นให้เป็นอัครมเหสี ฤาษีนั้นก็ได้เป็นพระประจำราชตระกูล 
 
     พระศาสดาตรัสว่า ผู้ไม่มีบุญ จะเป็นผู้มีศิลปะหรือไม่มีศิลปะก็ตาม ย่อมขวนขวายรวบรวมทรัพย์ใดไว้เป็นอันมาก ผู้มีบุญย่อมใช้สอยทรัพย์เหล่านั้น. โภคะเป็นอันมาก ย่อมล่วงเลยสัตว์เหล่าอื่นไปเสีย เกิดขึ้นในที่ทั้งปวงแก่ผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แล้ว ใช่แต่เท่านั้น รัตนะทั้งหลายยังเกิดขึ้นแม้ในที่อันมิใช่บ่อเกิด
 
จับเสือมือเปล่า
 
     เราคงเห็นตัวอย่างว่า บางคนเป็นเจ้าของกิจการ ฝีมือก็ธรรมดาๆ เเต่รวยเอารวยเอา ส่วนผู้บริหารมืออาชีพที่มาบริหารให้นั้นเก่งเเต่รวยสู้เจ้าของกิจการไม่ได้ เพราะรวยได้เนื่องจากอาศัยบุญของเจ้าของ ทุกอย่างมันอยู่ที่บุญ ดังนั้นถ้าเราต้องการเป็นผู้มีทรัพย์ อย่ามัวคิดเเต่เรื่องหาศิลปะวิทยาภายนอกเพียงอย่างเดียว ต้องหมั่นสร้างบุญด้วย ต้องมีเงื่อนไขปัจจัยภายในอย่างนี้เป็นตัวหนุนเสริม เราจึงจะประสบความสำเร็จ ได้ทรัพย์เป็นมหาเศรษฐีเเบบเย็นๆเเละสบายๆ
 

รับชมคลิปวิดีโอ
ชมวิดีโอ   Download ธรรมะ




พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      วันลอยกระทง 2566 ประเพณีและประวัติวันลอยกระทง วิธีทำกระทงง่ายๆ
      วันตรุษจีน 2566 ประวัติวันตรุษจีน การ์ดและคำอวยพรตรุษจีน
      วันครูแห่งชาติ 2567 ประวัติความเป็นมาของวันครู กิจกรรมวันครู
      วันพ่อแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาความสำคัญ กลอนวันพ่อ การ์ดวันพ่อ
      วันปิยมหาราช ประวัติและความสำคัญของวันปิยมหาราช
      วันแม่แห่งชาติ 2566 กลอนวันแม่ ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของวันแม่แห่งชาติ
      กลอนวันแม่ กลอนวันแม่สั้นๆ ซึ้งๆ จากใจลูกน้อย
      วันสื่อสารแห่งชาติ 2566 ประวัติความเป็นมาและความสำคัญของการสื่อสาร
      วันภาษาไทยแห่งชาติ 2566 ประวัติ ความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ
      วันสิ่งแวดล้อมโลก World Environment Day
      วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2566 World No Tobacco Day
      วันครอบครัว 14 เมษายน ประวัติความเป็นมาและความสำคัญ
      วันสตรีสากล ประวัติความเป็นมาความสำคัญของวันสตรีสากล




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related