ข้อความต้นฉบับในหน้า
ป้าไม่ห้ามลุงบ้างหรือ?
“ก่อนเข้าวัดก็ว่า ก็บ่นอยู่ แต่หลังเข้าวัดแล้ว
ป้าก็ไม่ว่าอะไร เพราะพูดไปก็รู้ว่ายังไงเขาก็ไม่เลิก
พาลแต่จะทะเลาะกันเปล่าๆ ป้าจึงได้แต่ทำบุญใส่ชื่อ
ลุง อธิษฐานให้เขากลับตัวกลับใจ เพราะเป็นห่วงเขา
ยิ่งมารู้ว่า อะไรบุญ อะไรบาป ทำให้ยิ่งห่วงเขามากๆ
จนกระทั่งป้าได้มาติดจานดาวเทียมถ่ายทอด
รายการธรรมะของวัดไปที่บ้าน ที่เราเรียกว่า DMC
ช่วงแรกๆ ป้าก็ดูคนเดียว พอลุงเขากลับมาบ้าน เขา
ก็เปลี่ยนไปดูช่องอื่น พอลุงเขาไม่อยู่ ป้าก็เปลี่ยนกลับ
ทำอยู่อย่างนี้ จนช่วงที่ลุงเขาออกไปนั่งสูบบุหรี่นอก
บ้าน เขาก็แอบฟังว่า หลวงพ่อพูดอะไร สอนอะไร
คือ ท่านได้สอนให้เทเหล้า เผาบุหรี่ ให้เลิกให้หักดิบ
เราซ้อนมอเตอร์ไซค์กันออกไปทำหน้าที่
กัลยาณมิตรเป็นประจำ ลุงเขาเป็นคนขับ ป้าก็
นั่งซ้อนท้าย เราไปบอกบุญชาวบ้านแถวคลองหนึ่ง
ป้าเองก็ไม่ได้รู้จักชาวบ้านแถวนี้มาก่อนหรอก
แต่ป้าอยากได้บุญก็ต้องไปบอกเขา
DMC
สอนให้เห็นโทษภัยของอบายมุข พอเขาแอบฟัง
อย่างนี้ทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่ง ป้าแอบเห็นลุงเขา
เปิด DMC ดูเอง ยอมกราบหลวงพ่อ กราบคุณยาย
ป้าจึงถือโอกาสชวนเขาไปวัด
ทำไมลุงต้องแอบดู DMC ?
“ตอนแรกลุงไม่เห็นด้วยที่ป้าเขาจะติด DMC
แต่พอติดแล้วเราจะมาดูเองมันเหมือนเสียเชิง แต่พอ
ลุงได้ฟังหลวงพ่อ รู้สึกท่านสอนดี มีเหตุผลมาก ลุงก็
เลยยอมไปวัดกับป้า ตอนลุงไปวัดยังอดบุหรี่ไม่ได้เลย
เพราะติดหนักมาก จนต้องแอบไปหาที่สูบ ตอนนั้น
ก็รู้สึกสองจิตสองใจ จึงตั้งจิตอธิษฐานกับหลวงปู่ว่า
หากลูกมีบุญมากับหลวงปู่ หลวงพ่อ ขอให้เลิกได้
พอกลับไปบ้านวันนั้น จึงรีบจุดบุหรี่มาสูบ เพราะ
อดมาเกือบทั้งวัน แต่พอสูบเข้าไป มันเมาบุหรี่ มึน
ไปหมดเลย และหลังจากนั้นอาทิตย์ต่อมาลุงก็ไป
วัดกับป้าเขาอีก พอกลับบ้านก็มาสูบอีก แล้วก็เมา
อีก สุดท้ายจึงหักดิบเลิกอบายมุขทุกสิ่งทุกอย่าง
นับตั้งแต่บัดนั้นมา พอเลิกได้แล้วมีความสุขมาก
เหมือนเกิดใหม่เลย ตกเย็นของทุกวันไม่ต้องมานั่ง
กระวนกระวายใจว่า จะไปเอาเงินจากไหนมาดื่ม
มาสูบ มาเล่นการพนัน นับจากนั้นไม่ต้องกังวลเลย
เป็นอิสระ และยังได้เก็บเงินเอาไว้ทำบุญอีก เมื่อชีวิต
ดีขึ้นแล้ว ก็หันมาสร้างบุญกับป้าอย่างเต็มที่ รวมถึง
เป็นกัลยาณมิตรไปบอกบุญและชวนคนมาวัดด้วย
ทำหน้าที่กัลยาณมิตรอย่างไรบ้าง?
“เราซ้อนมอเตอร์ไซค์กันออกไปทำหน้าที่
กัลยาณมิตรกันเป็นประจำ ลุงเขาเป็นคนขับ ป้าก็
นั่งซ้อนท้าย เราไปบอกบุญชาวบ้านแถวคลองหนึ่ง
ป้าเองก็ไม่ได้รู้จักชาวบ้านแถวนี้มาก่อนหรอก แต่
ป้าอยากได้บุญก็ต้องไปบอกเขา โดยพูดกับเขาดีๆ
เยือกเย็น ยิ้มแย้ม สวัสดี บอกว่าเราเอาบุญมาให้
ซึ่งก็มีคนเข้าใจทำบุญเพียงไม่กี่คน มีคนไม่เข้าใจ
วัดเยอะกว่ามาก ซึ่งก็มีคนถามป้าว่า ได้ค่าจ้างเท่าไร
ที่มาเรี่ยไร ป้าก็บอกเขาว่า ทำบุญนะ...ต้องจ้างด้วย
หรือลูก ป้าเองก็ทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน