ข้อความต้นฉบับในหน้า
ใครว่าฝนไม่มีสี
ฝนสีแดง มินะ
ผมหงอก
ต้องรีบออกบวช
อยากรู้อ่านต่อ.
ฝนสีแดงมีชื่อว่าฝนโบกขรพรรษ เป็นฝนพิเศษ ใครอยากให้เปียก
ก็เปียก ถ้าใครไม่อยากให้เปียกก็จะไม่เปียก เหมือน า ตกลงบนใบบัว
ฝนนี้เมื่อตกลงสู่พื้นดินก็จะซึมหายไปทันที ในพระไตรปิฎกมีหลักฐานว่า
ฝนชนิดนี้เคยตกมาแล้วหลายครั้ง
ครั้งหนึ่งเมื่อพระเจ้าสัญชัย พระนางผุสดี พระชาติ พระกัณหาชินา
พร้อมด้วยเหล่าข้าราชบริพารเสด็จไปรับพระเวสสันดรและพระนางมัทรี
กลับสู่พระนคร เมื่อกษัตริย์ทั้ง 5 พระองค์ได้พบกัน ก็ทรงสลบไป
ด้วยความดีพระทัยและความโศกเศร้าอย่างสุดจะพรรณนา เหล่าอามาตย์
และข้าราชบริพารทั้งหลายเห็นเหตุการณ์ก็พากันสลบไสลตามไปด้วย
ท้าวสักกเทวราชจึงบันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงมาเพื่อประพรมให้
ทุกคนฟื้นคืนสติ
ท้าวมฆเทวราช กษัตริย์แห่งกรุงมิถิลา ทรงถือกำเนิดในยุคสมัย
มนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ยถึง ๔๐๐,๐๐๐ ปี ทรงอธิษฐานจิตว่า หากเส้นแ
ของเราหงอกแม้เพียงเส้นเดียว จะมาบวชเป็นดาบสทันที”
วันหนึ่ง นายภูษามาลากราบทูลว่ามีเส้นพระเกศาหงอก ๑ เส้น
พระเจ้ามฆเทวราชจึงรับสั่งให้ถอนพระเกศาเส้นนั้นด้วยแหนบทองคํา
แล้วให้วางลงในพระหัตถ์ของพระองค์ พระเจ้ามฆเทวราชทรงพิจารณา
เส้นผมนั้นเหมือนเห็นความตายมาปรากฏอยู่เบื้องหน้า ทรงเบื่อระอาใน
ความไม่เที่ยงของสังขาร จึงทรงออกบวชตามที่ได้อธิษฐานไว้ เมื่อ
สวรรคตแล้วไปเกิดในพรหมโลก บุตรหลานของพระองค์ก็ออกบวช
สืบต่อกันมา ๗๔,000 พระองค์ ต่อมาพระองค์จุติจากพรหมโลก
มาบังเกิดเป็น “เนมิราชกุมาร" เพื่อสืบทอดวงศ์บรรพชิตของพระองค์
QOG
#sat
๑๐๙
#
www.kalyanamitra.org