ข้อความต้นฉบับในหน้า
จะได้เกิดบุญกุศลเต็มที่
ดังนั้น ก่อนที่จะทำทานทุกครั้ง เราควรทำความพร้อมทั้ง ๓
ให้ครบถ้วนเสียก่อน เพราะกว่าเราจะได้ทรัพย์มาเพื่อทำทานนั้น ก็
ได้มาด้วยความยากลำบาก ฉะนั้นเราก็ไม่ควรทำให้ “บุญหก บุญ
หล่น” เราควรทำบุญของเราให้ส่งผลเป็นอัศจรรย์ เป็นบุญชนิด
“บุญหกทับ บุญหล่นทับ” จะดีกว่า
ก้าวที่ ๕ : สูตรสำเร็จของการ “ออกแบบชีวิต”
เมื่อมีความเข้าใจและรู้ที่มาของบุญแล้ว เราจะพบว่า บุญ คือ
สิ่งที่ปรุงแต่ง สร้างสรรค์ รูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติให้
กับเรานั่นเอง ฉะนั้นเราคือผู้ที่ออกแบบชีวิตตัวเอง ไม่ใช่พรหมลิขิต
ไม่ใช่ฟ้าลิขิต โดยมีสูตรสำเร็จดังนี้
อยากอายุยืน ต้องไม่ฆ่าสัตว์
อยากเป็นคนไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ต้องไม่ทรมานสัตว์
อยากเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ต้องทำทานด้วยอาหาร
อยากผิวสวย ต้องรักษาศีล และให้ทานด้วยเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
อยากเป็นผู้มีอำนาจ มีคนเกรงใจ ต้องมีมุทิตาจิต
ใครทำความดี ก็อนุโมทนาบุญ ไม่อิจฉาริษยาใคร
อยาก ารวย มีทรัพย์มาก ต้องทําทาน
อยากเกิดในตระกูลสูง ต้องบูชาบุคคลที่ควรบูชา
อยากฉลาด ต้องฝึกสมาธิเจริญภาวนา และไม่ดื่มสุรายาเมา
หรือสิ่งเสพติดทั้งหลาย
“แข่งบุญแข่งวาสนาใช่ว่าแข่งไม่ได้ แต่ถ้าแข่งแล้วไซร้
ต้องแข่งด้วยการทําความดี”
ก้าวที่ 5 : ทางลัด เร่งความเร็วแรง
เห็นผลบุญทันตา
ก่อนอื่นเราต้องมาทําความเข้าใจในเรื่องการส่งผลของบุญ
ตามหลักพระพุทธศาสนาเสียก่อนว่า
บุญที่เกิดขึ้นในชีวิตคนเรามี ๒ ระยะ คือบุญเก่า (บุญใน
อดีต) และบุญใหม่ (บุญในปัจจุบัน)
บุญเก่า คือ บุญที่ทำมาในชาติที่แล้ว
บุญใหม่ คือ บุญที่ทำมาตั้งแต่แรกเกิดถึงปัจจุบันนี้
ถ้าใครทำบุญเก่ามาดี จะส่งผลให้มีรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ
และคุณสมบัติที่ดีในชาติปัจจุบัน เช่น บางคนเกิดมามีรูปร่าง
หน้าตาดี เพราะรักษาศีลมาดี บางคนก็เกิดมาร่ำรวยเพราะทำ
ทานมาดี หรือบางคนเกิดมามีสติปัญญาเฉลียวฉลาดก็เพราะทำ
สมาธิเจริญภาวนามาดี แม้ในปัจจุบันไม่ได้ทำบุญ ทั้งยังตระหนี่
ถี่เหนียว แต่ร่ำรวยได้ เป็นเพราะบุญในอดีตยังส่งผลอยู่นั่นเอง