สัมปทาคุณและผลบุญในชีวิต 9 วิธี ก้าวสู่...เส้นทางมหาเศรษฐี หน้า 6
หน้าที่ 6 / 17

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการทำบุญ และการได้ผลบุญในชีวิต โดยเน้นที่สัมปทาคุณ ๔ ประการที่มีอิทธิพลต่อผลบุญที่ได้รับ โดยยกตัวอย่างนายปุณณะที่ได้รับผลบุญทันตาเห็นจากการทำบุญอย่างถูกต้อง ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่ทำให้การทำความดีส่งผลต่อผู้อื่นอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว เช่น ความถึงพร้อมแห่งวัตถุ, ปัจจัย, เจตนา, และคุณพิเศษของผู้รับ ในกรณีนี้คือผู้รับที่มีคุณธรรมสูง

หัวข้อประเด็น

-ผลบุญในชีวิต
-สัมปทาคุณ ๔ ประการ
-การทำบุญอย่างมีคุณภาพ
-ตัวอย่างนายปุณณะ
-ความเชื่อเกี่ยวกับการทำดีได้ดี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ส่วนบางคนในชาตินี้ทำบุญทำทานมากมาย แต่ก็ไม่รวยสักที ถึงกับบ่นว่า “ทำดีไม่ได้ดี” หรือทำบุญ “บุญไม่ส่งผล” อย่างนี้ก็ มี นี่เพราะในอดีตทำทานมาน้อย จึงไม่สามารถดึงดูดสมบัติให้เกิด มากๆ ได้ ส่วนบุญใหม่ที่ทำในชาตินี้ จะรอส่งผลในอนาคตต่อไป แต่ก็มีบางคนที่เกิดมาโชคดี ที่สามารถทำบุญใหม่ในชาตินี้ แล้วได้ผลบุญทันตาเห็น เป็นเพราะได้สร้างบุญในเขตบุญอันอุดมที่ เรียกว่า สัมปทาคุณ (ความถึงพร้อมด้วยคุณพิเศษ) ซึ่งถ้าใครก็ตาม ได้สร้างบุญที่ประกอบด้วยสัมปทาคุณ ๔ ประการ ก็จะทำให้ทานที่ บริจาคแล้วมีผลยอดเยี่ยม และให้ผลได้ในภพปัจจุบัน ทันตาเห็น สัมปทาคุณ ๔ ประการ ประกอบด้วย ๑. ความถึงพร้อมแห่งวัตถุ หมายถึง ผู้รับคือปฏิคาหก เป็น ทักขิไณยบุคคล ผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยคุณธรรม ยิ่งมีคุณธรรม สูงมากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้ทานของผู้บริจาคแล้ว มีผลมากขึ้นเท่านั้น ๒. ความถึงพร้อมแห่งปัจจัย หมายถึง ของที่จะน่ามา ทําบุญ ต้องได้มาอย่างบริสุทธิ์โดยชอบธรรม ๓. ความถึงพร้อมแห่งเจตนา หมายถึง มีเจตนาดี เจตนา เพื่อชำระกิเลส บูชาคุณ เพื่อสงเคราะห์หรืออนุเคราะห์ ด้วยความ บริสุทธิ์ใจ มิได้หวังลาภ ยศ หรือชื่อเสียง มีเจตนาดีทั้ง ๓ กาล คือ ก่อนให้ก็ดีใจ กำลังให้ก็เลื่อมใส ครั้นให้แล้วก็เบิกบานใจ อย่างนี้เรียกว่าถึงพร้อมด้วยเจตนา ๔. ความถึงพร้อมแห่งคุณพิเศษของปฏิคาหก คือ ผู้รับ เป็นทักขิไณยบุคคลที่มีคุณธรรมพิเศษ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรง ระบุไว้ว่า ผู้รับจะต้องเป็นผู้ที่ออกจากนิโรธสมาบัติใหม่ๆ ใครก็ตามที่ได้ทําทานโดยมีคุณวิเศษทั้ง ๔ ประการนี้ จะ ได้ผลบุญทันตาเห็น อย่างเรื่องของ “นายปุณณะ” ยาจกผู้กลาย เป็นเศรษฐีในเวลาต่อมา เมื่อครั้งที่สมเด็จพระศาสดาของเราประทับอยู่ในเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ มีคนยากจนชื่อ “ปุณณะ” ได้อาศัยอยู่ในเมืองนั้น พร้อมภรรยาและลูกสาว วันหนึ่งพระสารีบุตรเถระท่านพึ่งออกจากนิโรธสมาบัติ ได้ ตรวจดูว่าควรจะไปสงเคราะห์ใคร และบุญนี้จะเป็นของใคร ได้ เห็นนายปุณณะในญาณของท่าน จึงใคร่ครวญพิจารณาว่าเขาจะมี ศรัทธาหรือเปล่า สามารถที่จะถวายอาหารได้หรือไม่ และถ้าได้ ถวายอาหารแล้วจะได้สมบัติอันยิ่งใหญ่หรือไม่ เมื่อท่านพิจารณาดู แล้วเห็นว่านายปุณณะมีคุณสมบัติทุกอย่างครบ ท่านจึงครองจีวร แล้วถือบาตรไปยังที่นายปุณณะไถนาอยู่ พอนายปุณณะเห็น พระเถระก็ดีใจ เข้ามากราบไหว้ และได้ถวายไม้สีฟันพร้อม น้ำบ้วนปากแด่พระเถระ ในขณะเดียวกัน ภรรยาของนายปุณณะกำลังจะนำอาหาร ไปส่งให้สามี ระหว่างทางได้พบกับพระเถระเช่นกัน จึงคิดว่า ตัวเรา @O ด
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More